ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 333 การแบ่งโลหิตแห่งจิตวิญญาณ
ฮั่นจิ่วเถียนดูเหมือนจะมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเค้าอยู่เสมอ เค้าดูเป็นคนที่มีเมตตาต่อทุกสรรพสิ่งอยู่ตลอดเวลา
โจวติ่งยืนมองดูฝูงชนด้วยสายตาเย็นชา หากใครไม่กล้าทำตามกฎ เค้าจะลงมือกับคนๆนั้นในทันที
“เอาล่ะ เริ่มกันเลย” โจวติ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
หลังจากนั้น โจวติ่งก็มองไปที่ซูหยู่ที่อยู่ข้างๆเค้า
ซูหยู่หัวเราะเบาๆ จากนั้นเค้าก็ก้าวออกไปและกระโดดเข้าไปในโลหิตแห่งจิตวิญญาณนั่น
“ช้าก่อน”
ในตอนนี้เอง จู้เหยาก็ลุกยืนขึ้นมา
เธอมองไปที่โจวติ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “ท่านราชครูโจว แบบนี้มันจะไม่เป็นการเสียเวลาเปล่าอย่างงั้นเหรอ ทำไมทุกคนไม่เข้าเอาโลหิตแห่งจิตวิญญาณนี้ด้วยกันหละ?”
คำพูดนี้เองมันก็ซึมผ่านเข้าไปที่ทุกคนในทันที พวกเค้าพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ใช่แล้ว ทำไมต้องเข้าไปทีละคนด้วยหละ? ถ้าหากว่าทุกคนลงไปพร้อมกันมันจะแตกต่างกันอย่างงั้นเหรอ?”
สีหน้าของโจวติ่งก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
พลังหยินเดิมทีมันก็บริสุทธิ์อย่างยิ่ง คนแรกที่ลงไปจะดูดซับพลังที่บริสุทธิ์ที่สุด จากนั้นความบริสุทธิ์ของมันก็จะค่อยๆลดลงไป
“คุณหนูจู้ ทำตามที่ฉันบอกน่าจะดีกวว่านะ” โจวติ่งพูดอย่างเย็นชา
จู้เหยาหัวเราะแล้วก็ไม่พูดอะไร
อันที่จริง โจวติ่งเป็นราชาของที่นี่และเค้าก็เป็นคนที่กำหนดทุกสิ่ง
ที่ไม่ไกลออกไป ฉินเฉิงเฝ้าดูฉากนี้อย่างดื้อดึง ในใจของเค้ามันก็เต็มไปด้วยความหวัง
“เร็วเข้า รีบกระโดดเข้าไป!” ฉินเฉิงกระตุ้นคนพวกนั้นจากก้นบึ้งของหัวใจของเค้า
นี่จะเป็นมังกรที่หลับไหลอยู่หรือไม่ ฉินเฉิงเองก็ไม่รู้เลย
ถ้าไม่ใช่มังกรที่หลับไหลอยู่หละก็ ฉินเฉิงกับพวก ก็อาจจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากวันนี้เลย
“ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ฉันไปล่ะ” เย่อจุนบิดขี้เกียจแล้วเดินออกไป “นี่มันก็แค่โบราณสถาน แน่นอนว่ามันจะต้องมีมากกว่าโลหิตแห่งจิตวิญญาณอย่างแน่นอน”
เค้ามองไปที่ฉินเฉิงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “พี่ฉิน จะไปกับฉันไหม?”
ฉินเฉิงส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ไม่หละกัน นายไปเถอะ”
เย่อจุนผายมือออกแล้วไม่พูดอะไร เค้าหันหลังแล้วเดินจากไป
ในตอนนี้เอง ซูหยู่ก็กระโดดขึ้นไปในอากาศ เค้าดูราวกับปลาคาร์พที่กระโดดลงไปในโลหิตแห่งจิตวิญญาณนี้
ใจของฉินเฉิงมันก็เต้นแรงขึ้นมาในทันที เค้าจ้องมองไปที่ภูเขาอันยิ่งใหญ่นี้ เค้าไม่แม้แต่จะกระพริบตาเลยด้วยซ้ำ
“ฮู้วว…”
ในตอนที่ซูหยู่กระโดดลงไป กลุ่มควันมันก็ลอยขึ้นมา
บรรยากาศมันก็ตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ
ในเวลาไม่ถึงครึ่งวินาที ทันใดนั้นเอง ภูเขาที่อยู่ห่างไกลออกไปมันก็ส่งเสียง “ตูม” ดังก้องขึ้นมา!
“ใช่แล้ว!” ฉินเฉิงแทบจะกระโดดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
นี่มันคือรูปแบบของมังกรที่หลับไหลอยู่จริงๆ! เมื่อถูกเปิดขึ้นมา พลังปราณในร่างกายของทุกคนก็จะถูกระงับโดยสมบูรณ์ แม้แต่จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่เองก็ไม่อาจหลบหนีไปได้เลย!
“ท่านราชครูโจว นี่มันเกิดอะไรขึ้น” เถิงอาวขมวดคิ้ว
โจวติ่งผายมือของเค้าแล้วพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า: “ไม่ต้องห่วง สมาคมศิลปะการต่อสู้ได้ตรวจสอบสถานที่แห่งนี้แล้ว มันไม่มีอันตรายอะไร”
ฉินเฉิงอดทนต่อความตื่นเต้นของเค้า มันดูราวกับว่าเค้ากำลังรออะไรบางอย่างอยู่
จากนั้นไม่นาน เค้าก็รู้สึกว่ามันมีแรงกดแปลกๆบางอย่างที่พุ่งเข้ามาหาเค้า! พลังในร่างของเค้ามันก็ลดลงในทันที!
“หือ?” โจวติ่งเองก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกๆนี้เหมือนกัน เค้ากำหมัดแน่นแล้วพบว่าพลังปราณของเค้ามันถูกระงับ เค้าไม่สามารถใช้มันได้เลย
สีหน้าของฮั่นจิ่วเถียน เถิงอาวและคนอื่นๆก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่พวกเค้าก็ไม่ได้กังวลอะไรมาก
“ถึงเวลาของพวกเราแล้ว” ฉินเฉิงหันกลับมา เค้ามองไปที่หยูเหม่ยเหรินแล้วพูดออกมา
หยูเหม่ยเหรินขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอพูดด้วยความงุนงงขึ้นมาว่า: “นายหมายความว่ายังไง?”
“ดูดซับโลหิตแห่งจิตวิญญาณ” ฉินเฉิงพูดประโยคนี้แล้วเค้าก็เดินก้าวไปข้างหน้า
“ซูหยู่ รีบไสหัวออกมาจากโลหิตแห่งจิตวิญญาณซะ!” เสียงของฉินเฉิงมันดูราวกับระฆังที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเทือกเขา!
ทุกคนตกตะลึง พวกเค้าพูดคุยกันไม่หยุด
ฉินเฉิงคนนี้ มันบ้าหรือเปล่า? กล้าที่จะยั่วยุโจวจิ่งผู้ยิ่งใหญ่อย่างงั้นเหรอ?
แน่นอนว่าโจวติ่งก็โกรธในทันที
เค้ามองไปที่ฉินเฉิงอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “การยังมีชีวิตอยู่นี่มันยังไม่มากพออย่างงั้นเหรอ?”
ฉินเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ เค้ากัดฟันแล้วพูดว่า: “ไอ่แก่ไร้ยางอาย ในฐานะหัวหน้าทีม แกเห็นแก่ตัวมากเลยนะ แล้วแกก็ยังร่วมมือกับซูหยู่ทำเรื่องชั่ว เแม้แต่ผู้หญิงแกก็ยังไม่เว้น นี่แกเป็นคนหรือเป็นหมากันแน่?”
โจวติ่งโกรธทันที ด้วยสถานะของเค้า มันก็ไม่มีใครกล้าด่าอะไรเค้ามาหลายปีแล้ว!
“ในเมื่อแกอยากตายตาย ฉันก็จะทำให้แกได้สมปราถนาเอง!” สีหน้าของโจวติ่งก็จมลง เค้ายกมือขึ้นแล้วคว้าฉินเฉิงมาอย่างดุเดือด!
“ฉันทนกับแกมานานแล้ว!” ฉินเฉิงตะโกนพร้อมด้วยแสงสีทองที่ระเบิดออกมาบนร่างกายของเค้า หมัดของเค้ามันดูราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่แล้วเค้าก็ใช้มันชกเข้าไปที่ร่างของโจวติ่งในทันที!
หมัดชนกันกลางอากาศ มันทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมา!
สิ่งน่าตกใจได้เกิดขึ้น โจวติ่งถูกเขย่าด้วยหมัดนี้ มือของเค้ามันฉีกขาด เค้าต้องล่าถอยออกไปหลายครั้ง!
“ห๊าาา…”
ลูกทีมหลายคนในที่สถานที่แห่งนี้ต่างก็ถอนหายใจออกมา มันดูราวกับว่าเค้าไม่อยากจะเชื่อฉากที่อยู่ตรงหน้าของพวกเค้าเลย!
โจวติ่งอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นมาว่า: “ร่างนี้มันช่างแข็งแกร่งจริงๆ!”
ฉินเฉิงพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา เค้าก้าวไปข้างหน้า น้ำเสียงของเค้ามันดูราวกับสัตว์ป่าที่คำราม “โจวติ่ง ความแข็งแกร่งของแกมันก็ดี สถานะของแกมันก็ยอดเยี่ยมมาก แกคงจะยังไม่เคยโดนทุบตีมาก่อนสินะ?”
โจวติ่งหรี่ตาแล้วเยาะเย้ย: “ฉินเฉิง แกคิดว่าหากพลังปราณหายไปแล้ว ฉันจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแกอย่างงั้นเหรอ?”
“อย่างงั้นก็มาลองดู!” ความหดหู่ของฉินเฉิงในสองสามวันมานี้มันก็โพล่งออกมาในทันที เค้ากำหมัดแน่นแล้วชกเข้าไปที่โจวติ่งอย่างรวดเร็ว!
ในฐานะจอมยุทธ์ขั้นสูงสุด ร่างกายของโจวติ่งยังคงแข็งแกร่ง! แต่เมื่อเทียบกับ ฉินเฉิงแล้ว มันก็ยังแตกต่างกันอยู่มาก!
ต่อหน้าวีรบุรุษผู้มีพรสวรรค์ของโลก โจวติ่งก็ถูกฉินเฉิงต่อยจนล่าถอยออกไป
“ตูม!”
ฉินเฉิงเตะหน้าอกของโจวติ่งอย่างดุเดือด โจวติ่งถอยกลับทันที เค้าทรุดลงไปนั่งอยู่ที่พื้นแล้วกระอักเลือดออกมา!
“ฉินเฉิง แกกำลังรนหาที่ตาย!” โจวติ่งกัดฟัน
“แกต่างหากที่กำลังรนหาที่ตาย!” ฉินเฉิงกระทืบหน้าอกของของโจวติ้งแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “แกคิดว่าในโลกนี้มันจะไม่มีใครสู้แกได้อย่างงั้นเหรอ? คนชั่วที่น่ารังเกียจอย่างแก โทษมันก็คือความตาย”
โจวติ่งพูดอย่างโกรธจัด: “ฉินเฉิง แกรู้ไหมว่าแกกำลังทำอะไรอยู่?”
“ฉันกำลัง***แม่แก!” ฉินเฉิงเอื้อมมือไปหยิบคอเสื้อของเค้าขึ้นมาแล้วตบหน้าของโจวติ่งด้วยฝ่ามือสีทอง
เสียงดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขา!
ที่ไม่ไกลออกไป ฮั่นจิ่วเถียนก็หรี่ตาลง มันดูไม่ออกเลยว่าเค้ากำลังคิดอะไรอยู่
“เฉินเฉิงคนนี้ เค้ามีความแข็งแกร่งเพียงแค่ระดับขั้นของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็เท่านั้น แต่ร่างกายของเค้ามันเทียบได้กับจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่”
“ด้วยความแข็งแกร่งของฉินเฉิงในตอนนี้ เกรงว่าไม่มีใครสามารถสู้กับเค้าได้เลย”
“แต่เค้าไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาเลยเหรอ? มันยากที่จะเอาชีวิตรอดต่อให้เค้าสามารถเอาชนะโจวติ่งได้ก็ตาม”
ทุกคนต่างก็พูดกันไปเรื่อง
มีเพียงฮั่นจิ่วเถียนเท่านั้นที่ยืนนิ่ง การปะทะกันที่รุนแรงมันก็ประทุขึ้นในแววตาของเค้า
“ผั๊วะ!”
หลังจากตบมากกว่าสิบสองครั้ง โจวติ่งก็ถูกทุบตีจนมีเลือดไหลออกมาที่มุมปาก สิ่งนี้มันทำให้เค้าทนไม่ได้เลย
สีหน้าของซูหยู่ที่อยู่ด้านล่างก็ดูไม่ได้เลย แม้แต่โจวติ่งที่ไม่มีใครสู้ได้ยังโดนทำร้าย อย่างงั้นซูหยู่ก็ไม่อาจที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของฉินเฉิงได้เลย
หลังจากนั้น ฉินเฉิงก็เหวี่ยงโจวติ่งออกไปแล้วจ้องมองไปที่ซูหยู่อย่างเย็นชา
“ไสหัวไปหรือจะยอมรับความตาย” ฉินเฉิงพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
ซูหยู่ถอนหายใจออกมา เค้าหลับตาลงแล้วไม่สนใจฉินเฉิง
“ได้” ฉินเฉิงพยักหน้าแล้วในวินาทีต่อมา เค้าก็กระโดดลงไปในโลหิตแห่งจิตวิญญาณนี้!