ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 353 ทุบจนแตก!
สีเหลืองทองทั้งตัวของเค้านั้นมันดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง มันส่องสว่างไปเกือบทั่วทั้งหุบเขา!
แม้แต่ดวงตาของเค้าเอง ในตอนนี้มันก็เปลี่ยนไปเป็นสีทอง!
พลังที่พุ่งพล่านอย่างมหาศาลทั่วทั้งร่างกายของเค้า ฉินเฉิงกำหมัดของเค้าด้วยพลังที่ไม่เคยมีมาก่อน พลังนี้มันครอบคลุมทั้งหมัดของเค้า!
ในตอนที่กำลังก้าวเข้าสู่จอมยุทธ์ อารมณ์ของฉินเฉิงก็เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ อารมณ์ทั้งหมดของเค้ามันสงบนิ่งลงราวกับท้องทะเลสาบที่เงียบสงบและลึกลับ
“นี่คือพลังของจอมยุทธ์” ฉินเฉิงกระซิบ เค้ายังรู้สึกว่าหมัดของเค้ามันมีพลังมากพอที่จะทุบทุกสิ่ง!
แสงสีทองบนร่างของเค้ามันเริ่มมาบรรจบกับเนื้อหนังของเค้า
ในตอนนี้ร่างกายของฉินเฉิงมันมีความแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที แสงสีทองนี้ก็หายไปจนหมดแล้วทุกอย่างก็สงบลง
“ฮู้ววววว”
ฉินเฉิงปล่อยพลังในร่างกายของเค้าออกมา ทันใดนั้นเอง หุบเขาทั้งหมดมันก็สั่นสะเทือน! เศษหินจำนวนนับไม่ถ้วนถูกเขย่าออกในทันทีแล้วมันก็กลายเป็นเศษฝุ่นไปในทันที!
“มีคนมา?” รูม่านตาของฉินเฉิงกวาดมองไปในทางนั้น สีหน้าของเค้าไม่แยแสอะไรเลย
ในตอนนี้ ฉินเฉิงกระตือรือร้นที่จะต่อสู้เป็นอย่างมาก เค้าแทบทนรอไม่ไหวที่จะดูว่าพลังของจอมยุทธ์มันแข็งแกร่งมากไหน!
“วู้วววววว!”
มันมีร่างหนึ่งที่บินผ่านอากาศเข้ามา เค้าลงมายืนต่อหน้าของฉินเฉิงพร้อมกับเสียง
คนที่มาก็คือผู้พิทักษ์ตระกูลซู เค้ารูปร่างสูงและพลังของเค้าก็แข็งแกร่ง เค้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่ขึ้เล่นบนใบหน้าของเค้า
“ฉินเฉิง แกมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่เองเหรอ” ผู้พิทักษ์ที่สามก็มองไปโดยรอบ เค้าหัวเราะขึ้นมาแล้วพูดว่า : “หรือว่าเมื่อกี้แกจะพึ่งผ่านการลงทัณฑ์สวรรค์มา?”
ฉินเฉิงหลับตาลงเล็กน้อย เค้าพูดขึ้นมาอย่างเฉยเมยว่า: “แกเป็นใคร?”
“แกไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร” ผู้พิทักษ์ที่สามก็หัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า: “แกแค่ต้องรู้ว่าวันนี้มันจะเป็นวันตายของแก”
“ตายที่นี่อย่างงั้นเหรอ?” ฉินเฉิงหัวเราะ “จอมยุทธ์ขั้นหก ความแข็งแกร่งดีนี่”
ผู้พิทักษ์ที่สามก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วด่าว่า: “ฉินเฉิง แกคิดว่าหลังจากที่แกฆ่าจอมยุทธ์มาแล้วสองสามคน แกจะลายเป็นคนที่ไร้เทียมทานที่สุดอย่างงั้นเหรอ! สำหรับฉันแล้ว แกมันก็แค่พวกปลาซิวปลาสร้อยก็เท่านั้น!”
ฉินเฉิงเบ้ปากของเค้าแล้วพูดว่า: “ในความคิดของฉัน แกกับคนพวกนั้นมันก็ไม่ได้ต่างอะไรเลย”
“หวด หวด!”
ในตอนนี้เอง ที่ไม่ไกลออกไป มันก็มีพลังบางอย่างที่แข็งแกร่งพุ่งเข้ามา!
“มีผู้ช่วยด้วยเหรอ?” ฉินเฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ฉันก็แค่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง นี่จอมยุทธ์ขั้นเจ็ดจะต้องลงมือด้วยตัวเองเลยเหรอ?”
“ญาณหยั่งรู้ของแกไวดีหนิ” ผู้พิทักษ์ที่สามก็เยาะเย้ยขึ้นมา
ฉินเฉิงลุกขึ้นยืน พลังในร่างกายของเค้าในตอนนี้มันแบบราบมาก มันแทบไม่ต่างไปจากคนทั่วไปเลย
จากนั้นไม่นาน ผู้พิทักษ์ที่เหลืออีกหกคนก็รีบไปที่นั่น
พวกเค้ายืนเคียงข้างกัน พลังการกดขี่นี้มันก็ปกคลุมมาที่ฉินเฉิงโดยสมบูรณ์
“ถ้าฉันเดาไม่ผิด พวกแกมาจากตระกูลซูสินะ” ฉินเฉิงพูดขึ้นมาอย่างเฉยชา
ทันทีที่เค้าพูดออกมาแบบนี้ สีหน้าของผู้พิทักษ์หลายคนก็เปลี่ยนไปในทันที
เค้า รู้ได้ยังไงกัน?
“แปลกใจเหรอ?” เมื่อเห็นสีหน้าของพวกเค้า ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เค้าเหลือบมองไปที่หน้าของคนพวกนี้แล้วพูดเบาๆว่า: “พวกแกมีทั้งหมดเจ็ดคน แล้วทั้งหมดก็ยังอยู่ในขอบเขตของจอมยุทธ์ขั้นหก นอกจากตระกูลชั้นนำแล้ว มันก็ไม่มีใครสั่งให้พวกแกลงมือได้เลย”
“ตระกูลซูมีผู้พิทักษ์ทั้งหมดแปดคน ผู้พิทักษ์อาวุโสถูกไล่ออกไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่เจ็ดคน เมื่อดูจากจำนวนของพวกแกแล้ว มันก็ตรงกัน” ฉินเฉิงวิเคราะห์อย่างใจเย็น
ผู้พิทักษ์ที่สองก็พูดอย่างโมโหว่า: “ไร้สาระ! ฉินเฉิง แกทำให้คนไม่พอใจเยอะมาก วันนี้แกจะต้องตายที่นี่แหละ!”
“ตายที่นี่?” ฉินเฉิงเยาะเย้ย “ถ้าฉันเดาไม่ผิด คำสั่งที่แกได้รับมันไม่ใช่ให้มาฆ่าฉัน แต่ให้มาทำให้ฉันพิการเพราะกลัวว่าฉันจะทำให้ซูหยู่เสียหน้า ใช่ไหม?”
ในตอนนี้เอง ผู้พิทักษ์หลายคนก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้เลย
ฉินเฉิงอ้าปากพูดขึ้นมาและค้นพบกลอุบายที่ซ่อนเร้นอย่างขมขื่นซึ่งมันทำให้พวกเค้าตกใจจริงๆ
“ฮ่าฮ่า ฉันประเมินแกต่ำไปจริงๆ” ผู้พิทักษ์ที่สองก็ก้าวไปข้างหน้า เค้ากระชากผ้าคลุมออกจากหน้า มันเผยให้เห็นถึงสีหน้าที่แท้จริงของเค้า
นี่คือใบหน้าที่น่าเกลียดเป็นอย่างมาก มันมีรอยแผลเป็นเต็มไปหมดพร้อมกับผิวที่หยาบกร้าน มันดูราวกับว่ามีตะขาบสองสามตัวอยู่บนใบหน้าของเค้า
ผู้พิทักษ์คนอื่นๆก็ถอดหน้ากากออกเช่นกัน มันเผยให้เห็นถึงสีหน้าที่เย็นชาของเค้า
“นี่ไม่ใช่เพราะว่าคุณชายซูกลัวแก ด้วยความสามารถของแก แกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณชายซูเลยด้วยซ้ำ” ผู้พิทักษ์ที่สองก็พูดขึ้นมาอย่างเฉยชา “มันเป็นเพราะว่าเจ้านายของเราเค้าระมัดระวังตัวแล้วก็ชอบที่จะควบคุมทุกอย่างให้อยู่ในเงื้อมมือของเค้า”
“นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย” ฉินเฉิงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา “ฉันชอบแหกการควมคุมของคนอื่นซะด้วยสิ”
“รนหาที่ตาย!” ผู้พิทักษ์ที่สองตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ หมัดของเค้าก็ควบแน่นไปด้วยแสงแพรวพราว ลมที่น่าสะพรึงกลัวมันก็พุ่งมาที่ตรงหน้า!
ในตอนนี้เอง ที่สถานที่ๆไม่ไกลออกไปก็มีร่างที่สวยงามร่างหนึ่งที่ก้าวเข้ามา
“ผู้พิทักษ์ทั้งเจ็ดของตระกูลซู จะจัดการกับเด็กคนหนึ่ง ถ้าเรื่องนี้มันถูกแพร่ออกไป มันคงจะเป็นเรื่องที่ตลกเป็นอย่างมาก”
เสียงที่แผ่วเบานี้มันก็ดังเข้าหูของทุกคน
ผู้พิทักษ์คนที่สองก็หันหน้ามาแล้วขมวดคิ้วในทันที
“เจ้าสำนักตำหนักเทพโอสถ?” ผู้พิทักษ์ที่สองก็หรี่ตาลง “ทำไม เธอต้องการจะยื่นมือเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้อย่างงั้นเหรอ?”
เจ้าสำนักก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า: “แล้วคิดว่าไงหละ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ผู้พิทักษ์ที่สองก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา “คิดไม่ถึงเลยจริงๆ! แม่นางในดวงใจของฉัน ถ้าเธอลองคิดใหม่ เธอจะต้องสนุกกับมันอย่างแน่นอน!”
สีหน้าของเจ้าสำนักดูไม่มีความผันผวนอะไรเลยแม้แต่น้อย มันดูราวกับว่าเธอมีท่าทีที่เย็นชาอยู่ตลอดเวลา
ในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตา เจ้าสำนักก็เดินตรงเข้าไปที่ฉินเฉิง
เธอยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า: “กลับไปพักผ่อนเถอะ ที่นี่ฉันจัดการเอง”
หลังจากพูดจบ เจ้าสำนักก็ใช้กระบวนท่าของเธอ เท้าของเธอเหยียบลงบนพื้นเบาๆแล้วพลังสีฟ้ามันก็กระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบ
“ท่านเจ้าสำนัก” ในตอนนี้เอง ฉินเฉิงก็เอื้อมมือออกไปเพื่อหยุดเจ้าสำนัก
เค้ามองไปที่เจ้าสำนักแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ท่านเจ้าสำนัก ครั้งนี้ฉันต้องการที่จะลองกับมันด้วยตัวเอง”
มันเป็นครั้งแรกที่เจ้าสำนักแสดงท่าทีประหลาดใจ เธอขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “นายรู้ไหมว่าทั้งเจ็ดคนนี้เป็นใครกัน พวกเค้าไม่ใช่แค่จอมยุทธ์ธรรมดา”
“ผมรู้” ฉินเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ “ผมอยากลอง”
เจ้าสำนักเงียบไปซักพัก เธอดับเพลิงแห่งจิตวิญญาณ เธอพยักหน้าแล้วพูดว่า: “อืม”
หลังจากนั้น เจ้าสำนักก็ถอยออกไป
อย่างไรก็ตามเจ้าสำนักก็ยังคงจ้องมองผู้พิทักษ์ทั้งเจ็ด หากมีเรื่องอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เธอก็พร้อมที่จะลงมือในทันที
“เจ้าหนู แกนี่มันรนหาที่ตายจริงๆเลย ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่กล้าท้าทายพวกเราทั้งเจ็ด” ผู้พิทักษ์ที่สองเยาะเย้ยขึ้นมา
หลังจากพูดจบ พลังในร่างกายของเค้าก็ระเบิดออกทันที!
ทันใดนั้นเอง หลุมดินขนาดใหญ่ก็ก่อตัวขึ้นใต้ฝ่าเท้าของเค้า มันราวกับถูกระเบิด!
ฉินเฉิงกวาดมองไปที่ผู้พิทักษ์ที่สองอย่างเย็นชา ในตอนนี้เอง ฉินเฉิงก็ปล่อยพลังของเค้าออกมาในทันที!
“ตูม!”
พลังที่ทรงพลังมากกว่าหลายเท่าที่ไม่มีใครเทียบได้มันก็กระจายไปโดยรอบ
ทันใดนั้นเอง พลังของผู้พิทักษ์ที่สองก็ถูกบดขยี้ไปโดยไร้ความปราณีใดๆ!