ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 370 ฉันเอาของขวัญมาให้
โจวติ่งลุกขึ้นจากพื้นด้วยความเจ็บปวด ไม่มีกำลังภายในอีกต่อไป บาดแผลบนร่างกายของเขาเริ่มรู้สึกเจ็บปวด
“ฉินเฉิง นายกล้าทำลายฉัน!” โจวติ่งตะโกนเสียงแหบ “ฉันจะฆ่าแก!”
เขากำหมัดแล้วพุ่งเข้าหาฉินเฉิงอย่างสิ้นหวัง
ฉินเฉิงยืนนิ่งไม่ขยับ โจวติ่งซึ่งไม่มีกำลังภายในก็ไม่สามารถทำอะไรฉินเฉิงได้แล้ว
จนกระทั่งโจวติ่งเหนื่อย เขาหมอบอยู่บนพื้น
“โจวติ่ง นายคิดว่าจะมีวันนี้ไหม?” ฉินเฉิงถามอย่างเย็นชา
โจวติ่งเงียบ นั่งบนพื้นราวกับไร้สติ
“นายรู้ไหมว่าเกลียดอะไรนายมากที่สุด?” ฉินเฉิงพูดอย่างเย็นชา “ก็คือการที่นายทำตัวสูงส่ง คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นไง”
โจวติ่งยิ้มและพูดว่า: “นานฆ่าฉันเถอะฉินเฉิง ชีวิตฉันอยู่ในมือของนายแล้ว”
ฉินเฉิงมองไปที่โจวติ่งอย่างเย็นชาและพูดช้าๆ “ถ้าฆ่านายแบบนี้ มันดูถูกนายเกินไป”
การที่เขาไม่มีพละกำลังแล้ว ถึงฉินเฉิงจะปล่อยเขาไป ชีวิตของเขาก็จะจบลงอยู่ดี
“ตอนนี้ฉันยังไม่อยากกำจัดนาย” ฉินเฉิงส่ายหัว
หลังจากนั้นฉินเฉิงคว้าร่างของโจวติ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า “คุกเข่าลง”
“คุกเข่า? นายคู่ควรเหรอ? ” โจวติ่งหัวเราะเสียงดัง “ฉินเฉิง นายรู้ไหมว่าฉันเป็นคนยังไง? ฉันเป็น…”
“เพี๊ยะ!”
ก่อนที่โจวติ่งจะพูดจบ ฉินเฉิงก็ตบหน้าเขา
“นายไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น” ฉินเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา “นายมันก็แค่หมาข้างถนนเท่านั้น”
สีหน้าของโจวติ่งนั้นน่าเกลียดมาก เมื่อต้องเผชิญกับชีวิตและความตาย
“คุกเข่าลง” ฉินเฉิงกล่าวอย่างเย็นชาอีกครั้ง
“ฝันไปเถอะ!” โจวติ่งกัดฟัน
ฉินเฉิง พ่นลมอย่างเย็นชาและเขาก็เตะไปที่ขาของโจวติ่ง ขาของเขาหักจนต้องคุกเข่าลงพร้อมกับเสียง “ก๊อก”
“นายคิดว่านายยังควบคุมทุกอย่างได้ใช่ไหม?” ฉินเฉิงถามอย่างเย็นชา “ตอนนี้ นายเป็นแค่นักโทษที่ต้องอาศัยความเมตตาของผู้อื่น”
ฉินเฉิงคว้าคอของเขาและเอาหัวเขากดลงกับพื้น
“ฉันสัญญากับหยูเหม่ยเหรินไว้แล้ว ว่าจะเธอฆ่านายด้วยมือของเธอเอง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีโอกาสนั้นแล้ว” ฉินเฉิงพูดช้าๆ
โจวติ่งส่งเสียงคร่ำครวญแปลกๆ ในปากของเขา คล้ายหัวเราะ หรือไม่ก็ร้องไห้
“ไม่ต้องกังวล ลูกศิษย์ของนายก็จะตามนายไปไม่ช้าหรอก” ดาบยาวปรากฏขึ้นในมือของ ฉินเฉิงฟาดดาบไปที่หัวของโจวติ่ง หัวของเขาก็หลุดจากร่างทันที
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ตายตาไม่หลับ
ฉินเฉิงจิกผมของโจวติ่ง แล้วนั่งขัดสมาธิตรงหน้าร่างของซูวาน
ตอนนี้ความโหดร้ายบนใบหน้าของฉินเฉิงหายไป แทนที่ด้วยความอ่อนโยนที่ไม่สามารถบรรยายได้
ฉินเฉิงใช้มือลูบใบหน้าของซู่ว่านเบา ๆ และพูดว่า “ฉันฆ่าโจวติ่งแล้ว รอฉัน ฉันจะฆ่าคนตระกูลซูทั้งหมด พวกเขาตองชดใช้ให้คุณ”
ในขณะนี้ คุณปู่ซูก็เปิดประตูออกมา
หลังจากถูกทรมานอยู่นาน ชายชราก็ดูผอมโซ ดูไร้เรี่ยวแรง
“คุณปู่ซู” ฉินเฉิงลุกขึ้นเดินไปช่วยพยุงคุณปู่ซู
คุณปู่ซูโบกมือและพูด “นายฆ่าโจวติ่งเหรอ?”
ฉินเฉิงพยักหน้าและพูดอย่างเย็นชา “เขาสมควรตาย”
คุณปู่ซูถอนหายใจและกล่าวว่า “ไม่คิดว่าโจวติ่งจะตาย”
“นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น” ฉินเฉิงกล่าว
คุณปู่ซูมองไปที่ฉินเฉิงและกล่าวว่า “นายไม่กลัวว่าคนพวกนั้นมันโกรธหรือ?”
“ไม่กลัว” ดวงตาของฉินเฉิงแน่วแน่ “แม้ว่าฉันต้องใช้ชีวิตเข้าแลก ฉันก็จะถอนรากถอนโคนตระกูลซูให้ได้!”
“โอเค” คุณปู่ซูตอบรับ “พรุ่งนี้ฉันจะพานายไปที่ที่นึง”
“พรุ่งนี้คงจะไม่ได้ครับ” ฉินเฉิงส่ายหัวแล้วพูดว่า “พรุ่งนี้ฉันจะไปบ้านตระกูลซู”
“ไปบ้านตระกูลซู?” คุณปู่ซูงุนงง
ฉินเฉิงหยิบหัวของโจวติ่งในมือ และพูดว่า “ฉันจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่ไปมอบให้พวกเขา”
…
ความพ่ายแพ้ของซูหยู่ทำให้ตระกูลซูต้องอับอาย
เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อตระกูลซูในทุกด้าน
แม้ว่าพวกเขาจะใช้ความพยายามอย่างมากในการปกปิดข่าว แต่ข่าวก็ยังคงแพร่กระจายออกไป
มูลค่าตลาดที่ควบคุมโดยตระกูลซูเสียหายหลายหมื่นล้านในชั่วข้ามคืน หุ้นที่ถือโดยตระกูลซูก็ลดลงหลายพันล้าน
ซูฉีไห่ถูกลงโทษอย่างหนัก ผู้อาวุโสซูไม่ยอมเจอหน้าเขา และกำลังจะเปลี่ยนผู้นำใหม่
“เลิกคิดมากได้แล้ว”
เช้าวันรุ่งขึ้นเสียวหยู่เชี้ยนนั่งข้างๆแล้วพูดซูฉีไห่
ซูฉีไห่กัดฟันและพูดด้วยความโกรธเคือง “ฉันเคยบอกแล้วว่าเราควรจะระมัดระวัง และอย่าปล่อยให้มันเสี่ยง ทำไมไม่ฟัง? ฉันทำงานหนักมาหลายสิบปีเพื่อให้พ่อของฉันอนุมัติ ตอนนี้จบแล้ว!”
เสียวหยู่เชี้ยนนั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ฟังซูฉีไห่ก่นด่า
“ตอนนี้โจวติ่งไปหาฉินเฉิงแล้ว ฉันเชื่อว่าเขาจะนำข่าวดีมาให้เราในไม่ช้านี้” หลังจากที่ซูฉีไห่สงบลง เสียวหยู่เชี้ยนจึงพูดขึ้น
ซูฉีไห่นั่งบนโซฟาและพูดว่า “ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
ในตอนเย็น เสียวหยู่เสี้ยนเตรียมอาหารเย็นให้ซูฉีไห่
นอกจากการปลอบโยนซูฉีไห่แล้ว ยังต้องเชิญแพทย์จากสมาคมกลั่นยาจากต่างประเทศมารักษาให้ซูหยู่อีกด้วย
ไม่นานนักแพทย์จากสมาคมการกลั่นยาก็มาที่บ้านตระกูลซู
“คุณพีท ลูกผมคงต้องพึ่งคุณแล้ว” เสียวหยู่เชี้ยนยื่นบัตรธนาคารกับพีท
หลังจากที่พีทได้รับบัตรธนาคาร เขาก็เดินเข้าไปในห้องของซูหยู่
ผ่านไปสิบนาที พีทส่ายหัวและเดินออกมา
“คุณพีท เป็นยังไงบ้าง” เสียวหยูเชี้ยนถามอย่างเร่งรีบ
พีทส่ายหัวแล้วพูดว่า” จากการวินิจฉัยนายน้อยซู กระดูกขาทั้งสองแตกหัก รักษาได้ยาก”
เสียวหยู่เชี้ยนพูดอย่างกังวล “ถ้าอย่างนั้น…ฉันควรทำอย่างไร?”
พีทครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีวิธี สมาคมการกลั่นยาของเรามีหลายวิธีในการรักษาโรค ขึ้นอยู่กับว่าคุณผู้หญฺงยินดีจ่ายเงินหรือไม่”
“ถ้าลูกชายของฉันหาย เงินเท่าไหร่ก็ยินดีที่จะจ่าย!” เสียวหยูเชี้ยนกล่าวอย่างเร่งรีบ
“ทานข้าวกันก่อน ทานไปคุยไป” ซูฉีไห่พูดอย่างเย็นชาในห้องนั่งเล่น
เสียวหยู่เชี้ยนกับพีทจึงนั่งลงที่โต๊ะ
“คุณพีท เรื่องลูกชายของฉัน ต้องรบกวนคุณด้วย” ซูฉีไห่พูดอย่างเย็นชา
พีทพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “คุณซู ฉันมีคำถาม ใครเป็นคนทำให้ลูกชายคุณบาดเจ็บเหรอ มันดูรุนแรกมากๆ ”
การแสดงออกของซูฉีไห่เปลี่ยนไปและความโกรธก็เพิ่มขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ถูกไอ้สารเลวทำหน่ะสิ” ซูฉีไห่กัดฟันพูด “แต่ฉันเชื่อว่าเขาคงจะต้องตายในไม่ช้านี้”
“ใช่ไหม”
ในขณะนั้นก็มีเสียงมาจากด้านหน้าประตู