ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - บทที่ 422 ส่งฟางเสี่ยวเต๋อ
ซูหมิงหันไปมองที่เลขานุการเจิ้ง แล้วพูดออกมาว่า “ซูหมิง นายคิดว่าฉันถ้าฉันเอาคำพูดนี้ของนายไปบอกผู้อาวุโสซูจะเป็นอย่างไง?”
เลขานุการเจิ้ง หรี่ตาลง เขายื่นมือออกไปและบีบไปที่คอของซูหมิงทันที จากนั้นยกขึ้นไปบนอากาศ
“นายคิดว่านายเป็นใคร กล้ามาพูดจาแบบนี้ต่อหน้าฉัน ทำไม ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง!” เลขานุการเจิ้ง ค่อยๆออกแรงของเขาบีบไปที่คอของซูหมิงเรื่อยๆจนตาย
“นายบ้าไปแล้ว!” ชางโจวพูดออกมาด้วยความตื่นตระหนก “เขาคือคนของตระกูลซู นายจะฆ่าเขาได้ยังไง!”
เลขานุการเจิ้ง พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ฉันเป็นคนฆ่าเขาเหรอ? เขาถูกฉินเฉิงฆ่าต่างหาก”
เมื่อพูดจบเลขานุการเจิ้ง ก็เดินออกไปจากห้องประชุม
……
เสื้อคลุมสีดำสามารถพาฉินเฉิงหนีได้เพียงไม่ไกล ดังนั้นหลังจากที่เขาออกมาแล้ว เขาก็ต้องหนีอย่างเอาเป็นเอาตายต่อไป
เขาดิ้นรนสุดชีวิตและหนีออกไปหลายสิบไมล์ในเวลาไม่นาน
แต่นั่นมันก็ทำให้พลังวิญญาณของฉินเฉิงเกือบจะหมกสิ้น
แต่ยังดีที่สมาคมศิลปะการต่อสู้จิงตูไม่สามารถตามมาได้ทัน มันจึงทำให้ฉินเฉิงจึงมีเวลาพักหายใจหายคอบ้าง
“อยากจะจับฉัน มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก” ฉินเฉิงหัวเราะออกมา
นี่คือผลลัพธ์ที่เขาต้องการอย่างแท้จริง ข้าไปในคุกของสมาคมศิลปะการต่อสู้จิงตู เพื่ออยากจะรู้ว่าใครเป็นคนที่ถูกขังอยู่ในคุกที่ลึกที่สุด
ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องไปที่นั่งอีก แต่ไม่ใช่ตอนนี้
ในวันนั้นฉินเฉิงหนีออกมาจากจิงตูด้วยเส้นทางของเขาเอง
ผ่านไปกว่าครึ่งวันสมาคมศิลปะการต่อสู้จิงตูก็ยังคงไม่สามารถหาเบาะแสอะไรของฉินเฉิงได้เลย
“ขยะ ขยะทั้งนั้น!” ชางโจวพูดออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าฉินเฉิงนั่นมีอาวุธเคลื่อนย้าย…”
ชางโจวพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่เขาก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าฉินเฉิงจะมีอาวุธเคลื่อย้าย และหนีออกไปได้!
“ผู้อำนวยการชาง ตอนนี้ควรทำอย่างไรครับ?” ลูกน้องคนหนึ่งถามออกมา
ชางโจวหันไปมองที่เขา จากนั้นก็สั่งออกมาว่า “เอาคลิปที่มีทั้งหมดโพสน์ลงไปในเว็บบอร์ดศิลปะการต่อสู้ ฉันอยากให้ทุกคนได้เห็นมัน!”
“ครับ!”
หลังจากลงคลิปไปแล้ว เว็บบอร์ดศิลปะการต่อสู้ก็ระเบิดขึ้นมาทันที
“เฮ้ย จริงเหรอเนี่ย? ฉินเฉิงคนนั้นใช้วิชาชั่วร้าย?”
“ฉันก็บอกไปแล้วใช่ไหม เขาพัฒนาเร็วเสียขนาดนั้น เพียงไม่กี่ปีก็สามารถเป็นจอมยุทธได้ เกินไปไหมหละ?”
“ฉันอุตสาเอาเขาเป็นต้นแบบ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นคนต่ำๆแบบนี้!”
ในตอนนั้นทุกคนต่างออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม
ท้ายที่สุดแล้ว วิดีโอนี้ถูกโพสต์โดยสมาคมศิลปะการต่อสู้จิงตูที่มีอำนาจมากที่สุด และไม่มีใครตั้งคำถามกับมัน
…..
ตระกูลซู
เมื่อผู้อาวุโสซูได้ยินข่าวเรื่องนี้ก็โกรธขึ้นมาจนตัวสั่น
“ฉินเฉิงหนีไปได้?” ผู้อาวุโสซูพูดออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าพวกนักต่อสู้พวกนั้นไม่ได้เรื่อง! ขยะจริงๆ!”
หลังจากที่ล้มเหลวมาสองถึงสามครั้ง มันก็ยิ่งทำให้ผู้อาวุโสซูรู้สึกอับอายมากกว่าเดิม
เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ผู้จัดการที่อยู่ข้างๆ พูดออกมาว่า “นายไปฆ่าเขาซะ”
ผู้จัดการยิ้มและพูดออกมาว่า “นายท่าน คุณลืมข้อตกลงของพวกเราไปแล้วอย่างนั้นเหรอ ผมรับผิดชอบในการดูแลความปลอยภัยของคุณเท่านั้น”
“ฉินเฉิงยังมีชีวิตอยู่ มันก็เท่ากับว่าชีวิตของฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย!” ผู้อาวุโสซูพูดออกมา
ผู้จัดการยังคงส่ายหน้า “ฉันมีหน้าที่แค่ปกป้องความปลอดภัยของคุณเท่านั้น เรื่องอื่นๆไม่เกี่ยวกับผม ปกป้องคุณไปกว่าคุณจะจากไป นั่นคือหน้าที่ของผม”
ข้อตกลงระหว่างคนทั้งสองนั้นง่ายมาก ไม่ว่าตระกูลซูจะถึงจุดจบหรือไม่อย่างไร เขาก็จะปกป้องผู้อาวุโสซูให้รอดพ้นจากความตาย
แต่หากวันไหนที่ผู้อาวุโสซูจากโ,กนี้ไป ผู้จัดการก็จะออกจากตระกูลซู
ผู้อาวุโสซูถอนหายใจ เขามองไปที่ผู้จัดการแล้วพูดออกมาว่า “ไปประกาศคำสั่งของฉัน ใครจับตัวฉินเฉิงได้ ฉันจะให้มาทำงานในตำแหน่งสำคัญในตระกูลซู!”
“ครับ นายท่าน” ผู้จัดการโน้มตัวลง
…..
เรื่องของฉินเฉิงแพร่กระจายไปทั่วเหยียนเซี่ยอย่างรวดเร็ว
“ที่แท้ฉินเฉิงก็ใช่วิชาชั่วร้ายเองเหรอ? เป็นไปได้อย่างไง!” เมื่อฟางเสี่ยวเต๋อได้รับข่าวก็เสียสติไปชั่วขณะหนึ่ง และจู่ๆเธอก็เข้าใจทันทีว่าเมื่อวานนี้ทำไมฉินเฉิงจึงไม่ยอมรับสถานะของตนเอง
“ดูเหมือนว่าสมาคมศิลปะการต่อสู้จิงตูกำลังจะลงมือแล้ว” เมื่อซูเป่ยได้รับข่าวสาร เขาก็พูดออกมา
ที่บ้านของตระกูลจู้ ใบหน้าของจู้เหยาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ดูเหมือนว่า สำหรับเขาแล้วเรื่องทั้งหมดมันเพิ่งเป็นการเริ่มต้นเท่านั้น!” จู้เหยาดื่นชา วางแก้วแล้วยิ้มออกมา
มณฑลปินโจว ปีนัง
ด้วยชื่อเสียงของฉินเฉิง ทำให้สถานะของจินฮู่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงแต่เป็นคนใหญ่คนโตในปีนังเท่านั้น แม้แต่คนในเมืองหลวงเองก็ยังต้องให้เกียรติเขา
“พี่ฮู่ แย่แล้ว!”
ในตอนนั้นลูกน้องของจินฮู่ก็วิ่งเข้ามา
เขาทำหน้าตื่นตระหนกและพูดออกมาว่า “คุณฉิน…เกิดเรื่องขึ้นกับคุณฉินแล้ว!”
จินฮู่ขมวดคิ้วและพูดออกไปว่า “อะไรของนาย จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณฉิน!”
“จะ…จริงๆครับพี่ฮู่” ลูกน้องของเขายื่นโทรศัพท์ให้จินฮู่ “ได้ยินมาว่าฉินเฉิงฆ่าลูกศิษย์ของคนใหญ่คนโตในจิงตูไปมากมาย ตอนนี้เขากำลังถูกไล่ล่าอยู่!”
เมื่อจินฮู่เห็นคลิปที่อยู่ในโทรศัพท์ สีหน้าของเขาก็น่าเกลียดขึ้นมาทันที
“วิชาชั่วร้าย? นี่มันเหลวไหลชัดๆ!” จินฮู่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เขาขว้างโทรศัพท์ลงพื้นทันที
“พี่ฮู่…ฉินเฉิง เขาจบแน่ๆเลย พวกเราเองก็จะซวยไปด้วย!” ลูกน้องของเขาพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ขมขื่น
หลายปีที่ผ่านมา จินฮู่ใช้อำนาจของฉินเฉิงในการลงโทษคนอื่นมากมาย
ทั้งมณฑลปินโจวไม่มีใครกล้ามาแหยมกับจินฮู่
ถ้าหากฉินเฉิงถึงคราวจบสิ้นจริงๆ แบบนั้นจินฮู่ก็ถึงคราวซวยแล้ว
“ไม่มีทาง ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน!” จินฮู่พึมพำออกมา “ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณฉินอย่างแน่นอน! อย่าเชื่อในข่าวลือ อย่าเผยแพร่ข่าวลือ!”
ถึงแม้จะพูดออกมาแบบนั้น แต่ในวันนี้จินฮู่ก็รีบกลับไปบ้านทันทีเพราะกลัวว่าจะถูกทำร้าย
เขาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับนักต่อสู้เลยสักนิด ถึงแม้ว่าจะมีลูกน้องมากมายขนาดไหนมันก็ไม่มีประโยชน์
2 ทุ่ม ท้องฟ้ามืดสนิท
จินฮู่เปิดประตูรถอย่างระมัดระวังและรีบวิ่งไปที่บ้าน
“พี่อู๋ จินฮู่กลับมาแล้ว”
ที่ด้านล่างมีรถจอดอยู่หนึ่งคันที่กำลังรอการกลับมาของจินฮู่
ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าพี่อู๋พยักหน้า ยิ้มและพูดออกมาว่า “ตอนนี้ฉินเฉิงแค่ปกป้องตัวเองยังยาก จินฮู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ถ้าหากฆ่าเขาแล้วทั้งปิ่นโจวก็จะตกเป็นของตระกูลอู๋ของฉัน!”
พี่อู๋คนนี้ก็เป็นปรมาจารย์คนหนึ่ง ถือว่าเป็นคนที่มีอำนาจพอสมควร
แต่เนื่องจากการมีอยู่ของฉินเฉิง พี่อู๋จึงทำได้แต่อยู่ใต้อำนาจของจินฮู่
จินฮู่อยู่ในบ้าน แม้แต่ไฟดวงเดียวก็ไม่เปิด
เขาค่อยๆเดินเข้าไปนั่งบนโซฟา หลังจากนั่งลงแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาทันที
“แม่งเอ้ย ตกใจแทบแย่” จินฮู่ลูบไปที่หน้าอกของตัวเอง
หลังจากที่จินฮู่นั่งลงได้ไม่นาน ก็มีคนเดินเข้ามาหลายคน
“จินฮู่ พวกเรารอนายตั้งนาน” คน 4-5 คนเข้ามาล้อมรอบจินฮู่เอาไว้
ตอนแรกจินฮู่คิดจะหนี แต่ด้วยความตกใจจึงทำให้เขาล้มลงไปกับพื้น
“นายคิดจะทำอะไร! หักหลังงั้นเหรอ!” จินฮู่แสร้งทำเป็นเข้มแข็งและตวาดออกไป
“ฮ่าฮ่า จินฮู่ ไม่ต้องแสร้งทำเป็นว่าเก่งหรอก” พี่อู๋ยิ้มและพูดออกมา “ตอนนี้ฉินเฉิงจบแล้ว นายยังมีหน้ามาโอ้อวดอีกเหรอ?”