ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - บทที่ 260 พี่คือหม่ามี๊!
ตระกูลฟู่
ฟู่หย่วนซานเรียกเฉียวเหวยอีออกมาจากกองถ่าย เวลาที่เฉียวเหวยอีมา เขาเงยหน้าขึ้น จ้องมองดูลำคอของเฉียวเหวยอีหลายครั้ง
แดงเล็กน้อย บาดเจ็บจากน้ำร้อนลวกไม่รุนแรง
เพียงแค่เพราะว่าผิวของเฉียวเหวยอีขาว ดังนั้นจึงเห็นค่อนข้างชัดเจน
“ซุ่ยซุ่ยคิดถึงเธอแล้ว”ทั้งสองคนสบตากันหลายวินาที ฟู่หย่วนซานพูดกับเฉียวเหวยอีเสียงต่ำ“วันนี้กินข้าวเย็นที่บ้านเสร็จค่อยกลับ”
“ค่ะ”เฉียวเหวยอีพยักหน้า
ซุ่ยซุ่ยเลิกเรียนกลับมา สายตามองเห็นรถของเฉียวเหวยอีจอดอยู่ ส่งเสียงโห่ร้องเสียงดังกระโดดโลดเต้นวิ่งเข้าไป
มองเห็นเฉียวเหวยอีกลับมาแล้วจริงๆ พุ่งเข้าไปในอ้อมกอดเฉียวเหวยอีอย่างรวดเร็ว
เดิมทีเฉียวเหวยอีกำลังตอบกลับข้อความของถังหยวนเป่า ถูกซุ่ยซุ่ยพุ่งเข้ามากอดตั้งตัวไม่ทัน ก็เซลงบนโซฟา
“ซุ่ยซุ่ยคิดถึงพี่สาวจังเลย!”ซุ่ยซุ่ยใช้น้ำเสียงเกินจริงพูดกับเฉียวเหวยอี“คิดถึงทุกคืนจนนอนไม่หลับ!”
“จริงหรือหลอก?”เฉียวเหวยอีอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
“นอนไม่หลับห้านาที”คนรับใช้ด้านข้างหัวเราะเหอะๆ
“……”ซุ่ยซุ่ยเขินอายมาก ปืนลงมาจากบนตัวเฉียวเหวยอี หันหน้าไปทางอู๋โยวที่ช่วยเขาถือกระเป๋านักเรียน หาหนังสือวาดรูปออกมา รีบส่งไปตรงหน้าเฉียวเหวยอี ให้เธอดูผลงานของเขา
“พี่ดูสิ!”
เฉียวเหวยอีก้มหน้ามอง เป็นภาพวาดสามคน ดูไม่ชัดเจน มาตรฐานการวาดภาพของซุ่ยซุ่ยก็เหมือนกับมาตรฐานการเขียนหนังสือของเขา
“วาดอะไรล่ะ?”เฉียวเหวยอียิ้ม พยายามไม่ทำลายความมั่นใจของซุ่ยซุ่ย พูดถามเขาอ่อนโยน
“นี่คือปะป๊า พ่อผมสั้น ตรงกลางคือซุ่ยซุ่ย ซุ่ยซุ่ยเป็นเด็กตัวเล็ก นี่คือพี่สาว!”ซุ่ยซุ่ยชี้ไปที่ภาพวาด แนะนำให้เฉียวเหวยอี
“พวกเราสามคน จับมือกัน พวกเราอยู่ในบ้านหลังนี้ มีพวกเราสามคน!”ซุ่ยซุ่ยใช้ความพยายามแนะนำให้เฉียวเหวยอี
เฉียวเหวยอีเหลือบมองซุ่ยซุ่ย โลกของเด็กก็เรียบง่ายเสมอ ชอบใคร ก็อยากจะอยู่ด้วยกันกับคนนั้น
“สามารถเป็นไปได้”เธออุ้มซุ่ยซุ่ยขึ้นมาทันที พูดเสียงเบา
น้ำเสียงหนักแน่น
“จริงไหม?”ซุ่ยซุ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ สายตามีความรอคอย
เฉียวเหวยอีรับการของแต่งงานของลี่เย่ถิงแล้ว เรื่องนี้ เธอยังไม่ได้บอกคนอื่น
หลังจากนี้เธอก็จะเป็นแม่เลี้ยงของซุ่ยซุ่ยแล้ว เป็นธรรมชาติที่จะอยู่กับเขา พวกเราจะกลายเป็นครอบครัวสามคน
ถึงแม้ว่าปู๋เนี่ยนจะไม่อยู่แล้ว แต่ก็ยังดี ที่มีซุ่ยซุ่ยทูตสวรรค์ตัวน้อยคนนี้ สามารถเติมเต็มให้เธอได้
“พี่เคยหลอกซุ่ยซุ่ยเมื่อไหร่?”เฉียวเหวยอีก้มหน้าจูบศีรษะของซุ่ยซุ่ย พูดย้อนถาม
“ซุ่ยซุ่ย เข้ามากินข้าวเถอะ”ฟู่หย่วนซานลงมาจากชั้นบน มองเห็นท่าทางมีความสุขของซุ่ยซุ่ย ก็กระแอมเสียงเบา พูดเสียงต่ำ
“ครับ!”เสียงดังกังวานของซุ่ยซุ่ยพูดตอบ
กระโดดจากโซฟา ดึงเฉียวเหวยอีไปทางห้องอาหาร
ซุ่ยซุ่ยตัวติดเฉียวเหวยอี จะนั่งกินข้าวข้างเฉียวเหวยอี คนใช้ดึงเก้าอี้เด็กไปข้างกายเฉียวเหวยอี
ซุ่ยซุ่ยแค่อยากให้เฉียวเหวยอีอยู่ด้วย ก็จะตัวติดเฉียวเหวยอีให้เธอป้อนข้าวให้เขาด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นกินข้าวไม่อร่อย
“ซุ่ยซุ่ย กินเอง”ฟู่หย่วนซานเหลือบมองพวกเขาหลายครั้ง พูดกับซุ่ยซุ่ย
“ไม่เอา!”ซุ่ยซุ่ยพูดตอบอย่างไม่พอใจ
“พี่ตัวเองก็ต้องกินข้าว”ฟู่หย่วนซานพูดต่อไป“พี่เป็นแขก ไม่ใช่คนรับใช้”
“พี่สาวไม่ใช่แขก!แขกคือคนที่มาเล่นที่บ้าน!”ซุ่ยซุ่ยรีบพูด ขมวดคิ้วพูดโต้แย้ง“พี่คือหม่ามี๊!”
เฉียวเหวยอีอึ้งไปชั่วขณะ จ้องมองซุ่ยซุ่ยด้วยสายตาประหลาดใจ
ซุ่ยซุ่ยรู้เรื่องตัวเองกับลี่เย่ถิงจดทะเบียนสมรสแล้ว?
ลี่เย่ถิงน่าจะ…ไม่บอกลูกเร็วขนาดนี้หรอก?
ฟู่หย่วนซานสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สำหรับการพูดตรงไปตรงมาของเด็ก