ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน - บทที่ 187 จัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง + บทที่ 188 ลดตำแหน่งเป็นอนุภรรยา
- Home
- ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน
- บทที่ 187 จัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง + บทที่ 188 ลดตำแหน่งเป็นอนุภรรยา
บทที่ 187 จัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“เจ้าว่าอะไรนะ” หลิงหลัวคิดว่าตนเองได้ยินผิด เขาจึงถามซ้ำอีกรอบเพื่อความมั่นใจ ‘จะเป็นเซียวจื่อเซวียนได้เช่นไรกัน ในเมื่อช่วงนี้ นางใช้เวลาส่วนใหญ่ในลานบ้านเพื่อเตรียมตัวคลอดบุตร’
หมิงฟางควบคุมสีหน้าท่าทางของตนเอง ก่อนจะรายงานผลการสืบสวนต่อไป “ก่อนหน้านี้ ท่านประสงค์จะขอแม่นางหนิงแต่งงานแต่นางปฏิเสธ ชายาซื่อจื่อได้ใช้ป้ายคำสั่งของท่านสั่งการผู้คนในจวนให้ไปลอบสังหารแม่นางหนิงขอรับ นางตั้งใจเพียงแค่จะฆ่าแม่นางหนิงเท่านั้น แต่มิได้คาดคิดว่าองค์ชายฉีจะอยู่ที่นั่นด้วยขอรับ”
ช่างเป็นความบังเอิญอย่างแท้จริง เซียวจื่อเซวียนคือผู้ก่อเรื่องที่ไม่มีดวงเอาเสียเลย
“อะไรกัน บ้าจริง!” หลิงหลัวลุกขึ้นยืน เซียวจื่อเซวียนต้องการจะฆ่าหนิงเมิ่งเหยา แต่เซียวฉีเทียนกลับเห็นเหตุการณ์การลอบสังหารครั้งนี้กับตา มันทำลายศักดิ์ศรีของเขา ดังนั้นเขาจึงมาประกาศตนว่าเขาคือเป้าหมายของการลอบสังหารครั้งนี้สินะ
หากจะพูดอย่างเปิดเผยแล้ว เซียวฉีเทียนเพียงใช้โอกาสนี้เพื่อบ่งบอกว่าพวกเขามีความผิด แต่ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเซียวจื่อเซวียนซึ่งเป็นชายาของเขา ดังนั้นตัวเขาเองจึงต้องรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เราจะทำเช่นไรกันดีขอรับ ท่านซื่อจื่อ” หมิงฟางมองหลิงหลัวอย่างเป็นกังวล
“ข้าจะไปปรึกษากับท่านพ่อก่อน” หลิงหลัวเองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน เซียวฉีเทียนอยู่ข้างหนิงเมิ่งเหยาอย่างชัดเจน ไม่ว่าอย่างไร มันเป็นความผิดของเซียวจื่อเซวียนที่ส่งนักฆ่าไปเพียงเพราะความหึงหวงเช่นนั้น
หมิงฟางมองหลิงหลัวจากไป ก่อนจะส่ายศีรษะและถอนหายใจ ‘นายน้อยเลือกเดินทางผิด และนี่คือจุดจบของเขา’ หมิงฟางรู้ดีว่าแม่นางหนิงนั้นดีกว่าชายาซื่อจื่อผู้นี้หลายเท่านัก แต่ในฐานะข้ารับใช้ เขาจึงไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นอะไร
หลิงหลัวเดินไปยังห้องหนังสือของหลิงอ๋อง ก่อนจะรายงานผลการสืบสวนให้เขาทราบ
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ เซียวจื่อเซวียนเป็นคนทำเช่นนั้นหรือ” หลิงอ๋องลุกขึ้นยืนอย่างร้อนรน พลางจ้องมองด้วยความตกใจ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
หลิงหลัวผงกศีรษะ “เป็นความจริงขอรับ”
“ทำไมเล่า”
“เป็นเพราะเมิ่งเหยาขอรับ ข้าแอบไปหานาง แต่เซียวจื่อเซวียนรู้เข้า จึงตั้งใจจะฆ่านางโดยที่ไม่รู้ว่าองค์ชายฉีอยู่ที่นั่นด้วย”
“ทำไมต้องฆ่าหญิงสาวผู้นั้นด้วย” หลิงอ๋องขมวดคิ้ว เขารู้จักตัวตนของนาง และยินดีรับนางเป็นลูกสะใภ้ มิใช่เพราะฐานะของนาง แต่เพราะว่านางผู้นั้นเป็นหญิงสาวที่น่าชื่นชมอย่างมาก
หลิงหลัวมองต่ำลง “นางคิดว่าข้าจะพาตัวเมิ่งเหยากลับบ้าน และเกรงว่าตำแหน่งของนางจะสั่นคลอน แต่กลายเป็นว่าเมิ่งเหยานั้นกำลังจะแต่งงานเร็วๆ นี้ และไม่ได้มีผลอะไรกับเซียวจื่อเซวียนเลยแม้แต่น้อย”
หลิงอ๋องถอนหายใจ นั่นเป็นความหึงหวงมิใช่หรือ
“รายงานเรื่องนี้ต่อองค์ฮ่องเต้ และเรียกตัวนางมาที่นี่” หลิงอ๋องออกคำสั่ง ก่อนจะนวดขมับของตนเอง พลางสงสัยว่าเกิดเรื่องบ้าบออะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่
“รับทราบขอรับ”
เซียวจื่อเซวียนเดินเข้ามาในห้องหนังสือของหลิงอ๋อง โดยมีข้ารับใช้ช่วยประคอง สิ่งแรกที่นางเห็นคือท่านพ่อและลูกชายของเขากำลังนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความโมโห
“ท่านพ่อ ท่านพี่”
“เจ้าส่งคนไปฆ่าหนิงเมิ่งเหยาเช่นนั้นหรือ” หลิงอ๋องพูดอย่างไม่อ้อมค้อม
ฝ่ามือของเซียวจื่อเซวียนแข็งเกร็ง ดวงตาดูตื่นตระหนกและผวา “ข้าเปล่านะเจ้าคะ”
“เจ้าไม่ได้ทำรึ เซียวจื่อเซวียน ฮ่องเต้จับตาดูเรื่องนี้อยู่ และเราไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เจ้าพยายามจะลอบฆ่าหนิงเมิ่งเหยา แต่กำลังพูดถึงการลอบสังหารองค์ชายฉีต่างหากเล่า” หลิงหลัวเย้ยหยัน ขณะมองดูนางกำลังเอาตัวรอด แม้ว่าความจริงจะเผยออกมาแล้วก็ตาม
“จะเป็นไปได้เช่นไรกัน” เซียวจื่อเซวียนพูดโพล่งออกมาอย่างไม่รู้ตัว เป็นการยอมรับไปในตัวว่าตนเองนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ
หลิงหลัวมองหน้าซีดเผือดของอีกฝ่าย ก่อนจะพูดขึ้น “เดินทางไปยังวังหลวง และอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองก็แล้วกัน ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดโง่เขลาเท่ากับเจ้ามาก่อนเลย”
“ท่านพ่อ…” เซียวจื่อเซวียนมองหลิงอ๋อง พลางหวังว่าเขาจะบอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้มันไม่จริง
นางอาจจะมีตำแหน่งฐานะอันสูงส่ง แต่เทียบชั้นกับตำแหน่งขององค์ชายฉีไม่ได้เลย
“องค์ชายฉีให้เวลาพวกเราจัดการปัญหานี้เพียงแค่วันเดียว พรุ่งนี้เราจะต้องสะสางเรื่องนี้ให้ถูกต้อง ทั้งจวนหลิงและจวนเซียวจะต้องเข้าร่วมด้วย” หลิงอ๋องไม่เคยรู้สึกชอบใจลูกสะใภ้คนนี้เลย เพราะนางมักจะทำตัวสูงส่งและทะนงตัวว่าเป็นคนใหญ่คนโต เนื่องจากมีพื้นฐานครอบครัวมาจากจวนตระกูลเซียวนั่นเอง
บทที่ 188 ลดตำแหน่งเป็นอนุภรรยา
เซียวจื่อเซวียนหน้าซีดเผือด “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับองค์ชายฉีได้เช่นไรกัน มิใช่ว่านางเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาหรอกหรือ”
หลิงหลิวเย้ยหยัน “ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าจะโง่เง่าได้ขนาดนี้ นางเป็นหุ้นส่วนกับองค์ชายฉี และเขาไปที่นั่น เพราะว่านางกำลังแต่งงาน แต่เจ้าก็ยังกล้าส่งคนไปฆ่านางต่อหน้าต่อตาเขา เจ้าอยู่ในจวนตระกูลหลิงของเราอย่างมีความสุขดี จนลืมที่ของตัวเองไปแล้วหรือเช่นไรกัน” หากนางไม่ตั้งครรภ์ เขาคงจะไม่ปล่อยนางไปง่ายๆ เช่นนี้ แน่นอนว่านางจะต้องชดใช้การกระทำของตัวเองในครั้งนี้
เซียวจื่อเซวียนทรุดลงไปกองกับพื้น การกระทำของนางทำให้ตนเองตระหนักถึงแรงโน้มถ่วงของโลกได้ดี ดวงตาของนางเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ และดูหวาดกลัว “ไม่ เป็นไปไม่ได้”
“พวกเราจะโกหกเจ้าไปทำไมกันเล่า หากเป็นไปได้ ข้าอยากจะบีบคอเจ้าให้สิ้นชีพเสียเหลือเกิน” หลิงหลัวขบฟันกรอด
ร่างกายของเซียวจื่อเซวียนแข็งเกร็ง นางไม่อยากเชื่อว่าชายที่ตนเองรักจะกล้าพูดจาร้ายกาจเช่นนี้กับนางได้
“ข้า…ข้า…”
“หยุดพูดเสียที พรุ่งนี้เราจะไปวังหลวงกัน และเจ้าก็ควรร้องขอความเมตตาจากพวกเขาด้วย” หลิงอ๋องหวังว่านอกจากจะร้องขอความเมตตาแล้ว เซียวฉีเทียนน่าจะลงโทษหญิงตั้งครรภ์นางนี้บ้าง
เซียวจื่อเซวียนผงกศีรษะโดยไม่กล้าจะเอ่ยปฏิเสธ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลิงหลัวและท่านพ่อของเขานำตัวเซียวจื่อเซวียนไปยังวังหลวง เมื่อเซียวฉีเทียนได้ยินข่าวนั้น เขาก็นึกขันในใจ
“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อเรียกร้องความสงสารนะ”
“เจ้าตั้งใจจะทำอะไรกันแน่” เซียวชวี่เฟิงเลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ
‘จะมีอะไรได้อีกเล่า แน่นอนว่าเขาต้องตอบสนองคำขอร้องของนาง’
และเป็นไปตามคาดว่าเซียวจื่อเซวียนนั้นยกเอาเรื่องการตั้งครรภ์มาอ้างเพื่อจะได้รับโทษสถานเบา
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นางจะโล่งอกได้อย่างสนิทใจ คำพูดของเซียวฉีเทียนก็ทำให้หัวใจของนางนั้นตกไปอยู่ตรงตาตุ่ม
“เจ้าอาจจะไม่โดนคาดโทษถึงตาย แต่ในเมื่อเจ้าไม่อาจเป็นชายาซื่อจื่อที่ดีได้ ดังนั้นตำแหน่งของเจ้าจะถูกลดเหลือเพียงอนุภรรยาเท่านั้น” เซียวฉีเทียนเอ่ยอย่างแผ่วเบา
คำพูดเหล่านั้นทำให้เซียวจื่อเซวียนขวัญผวา “ไม่นะเพคะ หม่อมฉันไม่อยากถูกลดตำแหน่งเพคะ”
นางคือชายาซื่อจื่อผู้สูงส่งและยิ่งใหญ่ นางไม่อาจยอมรับได้หากตำแหน่งของตนเองถูกลดเหลือเพียงอนุภรรยาชั้นต่ำ
“เจ้าเลือกเอาแล้วกันว่าจะถูกประหารชีวิตหรือจะถูกลดตำแหน่ง” เซียวฉีเทียนไม่สะทกสะท้านกับท่าทางหวาดกลัวของอีกฝ่าย นางกล้ามาหือกับเขา ก็สมควรจะได้รับสิ่งเหล่านี้
เซียวจื่อเซวียนทรุดตัวลงกับพื้นและมองด้วยแววตาว่างเปล่า “ไม่นะเพคะ พระองค์จะทำกับหม่อมฉันเช่นนี้ไม่ได้ หม่อมฉันมาจากตระกูลเซียวนะเพคะ”
เซียวฉีเทียนหัวเราะอย่างเยือกเย็น “แล้วเจ้ามีสิทธิ์ที่จะลอบสังหารข้าเช่นนั้นหรือ”
“หามิได้เพคะ หม่อมฉันมิได้มีต้องการจะลอบสังหารพระองค์เลยเพคะ” เซียวจื่อเซวียนรีบพูดปกป้องตัวเอง
“หืม ถ้าเช่นนั้นข้าก็อยากรู้แล้วสิว่าเจ้าคิดจะฆ่าใครกัน” เซียวฉีเทียนเย้ยหยัน นี่จะทำให้ชีวิตของนางพังพินาศหรือเปล่านะ
นางจะบอกความจริงได้เช่นไรกัน นางเป็นคนของตระกูลเซียวแล้วจะทำไมหรือ หนิงเมิ่งเหยานั้นมิได้หาเรื่องนางเลยสักนิด ความจริงแล้วนางต่างหากที่ขโมยคนรักของหนิงเมิ่งเหยามา และยังไม่ปล่อยหญิงสาวไป แม้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะแต่งงานเร็วๆ นี้ก็ตาม หากนางพูดความจริง ก็เท่ากับว่ารนหาที่ตายแท้ๆ
“อะไรรึ เจ้ามีอะไรจะพูดอีกหรือไม่ ข้าจะบอกเจ้าเอาไว้ตรงนี้เลยนะว่า เจ้าไม่มีสิทธิ์ไปทำร้ายนาง ครั้งนี้ข้าจะแค่ลดตำแหน่งให้เจ้าเป็นอนุภรรยาเท่านั้น หากมีครั้งที่สอง…ต่อให้เจ้าจะมาจากจวนตระกูลเซียวก็เถอะ แต่เจ้าก็จงเตรียมชดใช้ด้วยชีวิตเอาไว้เลย”
“ฝ่าบาท…”
“เอาเถอะ เรื่องนี้ได้รับการแก้ปัญหาแล้ว อย่างที่องค์ชายฉีพูด ว่ามีทางเลือกว่าจะยอมลดตำแหน่งเป็นอนุภรรยา หรือจะยอมแลกด้วยชีวิต แน่นอนว่าหากเจ้าเลือกข้อหลัง ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะดำเนินการเรื่องนี้ต่อ” เซียวชวี่เฟิงพูดตัดบทเซียวจื่อเซวียน
แม้ว่านางจะโกรธแค้น แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะคัดค้านใดๆ ‘ในเมื่อฮ่องเต้เป็นคนพูดเอง นางจะยังพูดอะไรได้อีกเล่า’
“หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ” เซียวจื่อเซวียนยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี แต่นั่นก็มิได้หมายความว่านางจะต้องยอมจำนน
การลดตำแหน่งเป็นเพียงอนุภรรยานั้น ราวกับเป็นการตบหน้านางและจวนตระกูลเซียว พวกเขาจะต้องไม่ยอมแน่ และนางจะต้องทำให้นางจิ้งจอกหนิงเมิ่งเหยานั่นชดใช้ด้วยชีวิต ที่บังอาจทำให้นางต้องทุกข์ทนกับเรื่องอัปยศอดสูเช่นนี้