ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art - ตอนที่ 111
ตอนที่ 111 กระแสพลังวินาศไม่เพียงพอ?
เมิ่งชวนเองก็พอเข้าใจเจตนาดีของปรมาจารย์
เขาช่วยให้เพิ่งชวนกดดันตัวเองเพื่อตั้งใจฝึกฝนจิตใจ จิตใจที่กล้าแข็งนั้นสําคัญมาก กระทั่งสําหรับเทพอสูรระดับสูงๆ เพราะสุดท้ายแล้วขุนนางเทพอสูรและราชาเทพอสูรก็ยังมาที่หลุมแห่งความพิศวงนี้หลังจากที่กลับมาที่เขาหยวนด้วยเช่นกัน
“ข้ามาคืนหนังสือสองเล่มนี้” ใจของเมิ่งชวนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ว่าเขาก็ยังไปที่ห้องสมุดเพื่อหาหนังสือใหม่อีกสองเล่ม
การเรียนรู้เพิ่มเติมยังทําให้ใจเขาผ่อนคลายด้วยเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงทํามันต่อไป
หลังจากได้หนังสือใหม่สองเล่ม เมิ่งชวนก็กลับไปที่ถ้ําของตน
ภายในห้องปิดในที่พักของเขา
หลังจากปิดห้อง เมิ่งชวนก็หยิบขวดกระเบื้องสีแดงที่เขาซ่อนเอาไว้ออกมา นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง ได้เวลาเริ่มการขัดเกลาจุดที่แปดแล้ว!
เขาลงไปในบ่อสมุนไพรทุกครั้งในช่วงที่ขัดเกลาจุดที่แปดเพราะเขาต้องรักษาจากอาการบาดเจ็บและถึงจะถูกรบกวนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่าหกประสงค์วินาศนี้นั้น หากเขาทดมันไม่ได้ มันอาจจะส่งผลต่อจิตใจและสติของเขา แม้ว่าเขาจะสามารถรักษาสติให้ยังคงเลือนลางอยู่ได้ แต่ว่ามันก็ปลอดภัยกว่าหากเขาฝึกวิชาอยู่ในห้องป์ตเพื่อป้องกันอุบัติเหตุมาเลย
เพิ่งชวนค่อยๆเปิดจุกขวดออกแล้วสูดหายใจเข้าลึก พลังปราณของเขาดึงกระแสพลังวินาศสีแดงออกมาเข้าสู่ร่างกายของเขาผ่านทางจมูก
เมิ่งชวนไม่ได้ใช้วิชากระบีสําหรับขัดเกลาเพราะว่ามันเป็นเพียงการช่วยเหลือและขึ้นร่างกาย ในขัดเกลากระแสพลังวินาศ แต่ว่าเมื่อใช้แก่นสารแห่งจิตในการขัดเกลากระแสพลังวินาศแล้วนั้น ไม่มีความจําเป็นที่จะต้องใช้วิชากระบี่เลย
ร่างกายของเขาไม่ได้ดูดซับหกประสงค์วินาศเข้าไปทันที การจะให้ร่างกายดูดซับหกประสงค์วินาศนั้นยากมากๆ แม้ว่าเขาจะใช้วิชากระบีสําหรับขัดเกลาก็ตามแต่เขาก็ยังคงไม่สามารถดูดซับหกประสงค์วินาศได้หากเข้าไม่บรรลุเจตจํานงกระบี่ กลับกันเมิ่งชวนยืนอยู่นิ่งๆ
ปล่อยให้แก่นสารแห่งจิตดูดซับมันเข้าไปก่อนให้ร่างกายดูดซับมัน
หลังจากหกประสงค์วินาศเข้าสู่ร่างของเขา มันก็เข้าไปพันรอบแก่นสารแห่งจิตของเขาอย่างรวดเร็ว เส้นด้ายสีแดงอ่อนๆพันรอบแก่นสารแห่งจิตของเขาและพยายามจะทะลวงมันเข้าไป
หกประสงค์วินาศนั้นเกิดมาจากใจมนุษย์ เมื่อมันทะลวงเข้าไปในร่างได้แล้ว มันจะโจมตีใส่ขจิตวิญญาณของพวกเขาโดยอัตโนมัติ หากจิตใจไม่เข้มแข็งพอก็จะถูกความปรารถนาเข้าควบคุมโดยสมบูรณ์ วิญญาณมนุษย์ที่อ่อนแอนั้นง่ายต่อการควบคุม ยิ่งแก่นสารแห่งจิตหรือจิตใจแข็งแกร่งเท่าไรหกประสงค์วินาศก็จะควบคุมได้ยากขึ้นเท่านั้น
เมิ่งชวนไม่ได้ใช้แก่นสารแห่งจิตเพื่อกันมันออกไป เขาปล่อยให้หกประสงค์วินาศทะลวงแก่นสารแห่งจิตและให้มันเข้ามาเปลี่ยนร่างของเขา
หืม? ในใจของเขาเต็มไปด้วยความปราถนานานับประการ
เขายืนอยู่ในสวน เมื่อมองไปไกลๆ ก็จะเห็นพ่อ แม่ และหลิวซีเยว่ยืนอยู่ตรงนั้น พ่อหัวเราะอย่างมีความสุข แม่ก็ดูเหมือนกับตอนที่สอนให้เขาวาดรูปไม่มีผิด ชีเยว่กําลังถืออาหารอยู่ ทุกๆคนยิ้มและตะโกน “ชวนเอ๋อร์มากินข้าวเย็นเร็ว” เมิ่งชวนอยากจะเข้าไปหามาก เขาอยากจะกลับไปอยู่กับครอบครัว แต่ว่าเขาก็รักษาจิตใจให้กระจ่างไว้ได้และรับรู้ได้ว่าทุกอย่างนั้นคือภาพลวงตา
ไม่นาน ภาพนั้นก็หายไป
มีสาวงามมากมายปรากฏออกมาตรงหน้าเขา พวกเธอนั้นดูงดงามมาก เธอเหล่านั้นสวมเพียงแค่ผ้าไหมบางๆ และดูงดงามน่าดึงดูดกว่านางโลมชื่อดังเสียอีก พวกเธอเกี่ยวแขนเมิ่งชวนและยั่วยวนเขา มนุษย์นั้นมีความต้องการทางเป็นอยู่แล้วเป็นปกติ เมื่อเขาดูดซับหกประสงค์วินาศเข้าไป ความต้องการเหล่านั้นมันก็มากยิ่งกว่าเดิม เมิ่งชวนทําได้แค่อดทน
หลังจากที่ภาพตรงหน้าหายไป เขาก็พบว่าตัวเองอยู่กลางทุ่งรกร้าง ข้างหลังเขาคือราชาอสูรจํานวนมากกําลังไล่ตามเขาอย่างไม่ลดละ บางตัวก็อยู่บนพื้น บางตัวก็บินอยู่ และพวกมันก็ล้อมโจมตีเขา
ความรู้สึกกลัวและสิ้นหวังอย่างแรงกล้าผุดขึ้นในใจของเขา เขาปราถนาที่จะมีชีวิตอยู่ ความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่นั้นแข็งแกร่งมาก มันเป็นความปรารถนาโดยสัญชาตญาณ ความปราถนานี้กําลังจะทําให้สติของเขาจมลงไป
ข้ากําลังขัดเกลาหกประสงค์วินาศ ทุกอย่างนี้เป็นแค่ของปลอม พวกมันเป็นของปลอม เมิ่งชวนต่อต้านความปราถนาของเขาอย่างเต็มที่สติของเขาเริ่มถูกดึงไปในหลายๆสถานการณ์
ความปราถนาเหล่านั้นแทบจะทําให้เหตุและผลของเมิ่งชวนหายไปจนหมด และเมื่อเป็น เช่นนั้นแล้วเขาก็จะถูกความปราถนาเข้าควบคุมโดยสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม จิตใจของเพิ่งชวนนั้นแข็งแกร่งมาก จิตใจของเขาแข็งแกร่งกว่าการไปถึงยอดของแท่นบูชาแห่งความมืดหลายเท่า เขาทนต่อความปราถนาอย่างอื่นอีกหลายๆอย่างที่เข้ามาโจมตีใส่จิตใจอย่างต่อเนื่อง บางอย่างก็เป็นความปราถนาทางอารมณ์ ความปราถนาทางกาย และจุดมุ่งหมายของเขา ทุกความปราถนานั้นมีผลที่ต่างกันแต่เพิ่งชวนก็สามารถทนต่อการโจมตีเหล่านั้นได้
เมิ่งชวนถอนหายใจและได้สติกลับมา เมื่อเปิดตาขึ้นมาเขาก็เห็นห้องที่ปิดอยู่ หกประสงค์วินาศหลอมรวมเข้ากับแก่นสารแห่งจิตของเขาอย่างสมบูรณ์
คราวนี้ข้าก็จะเริ่มการขัดเกลาได้แล้ว การขัดเกลาจุดที่เก้านั้นมีจุดประสงค์เพื่อการเสริมร่างกายให้แกร่งขึ้น กระแสพลังวินาศทั้งแปดอย่างก่อนหน้านั้นหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขาโดยสมบูรณ์ มีเพียงหกประสงค์วินาศเท่านั้นที่ต้องถูกแก่นสารแห่งจิตดูดซับเข้าไปก่อน จากนี้ร่างกายของเขาก็จะสามารถเริ่มดูดขับกระแสพลังวินาศได้ นี่ก็เพื่อให้ร่างกายและจิตวิญญาณเท่าเทียมกัน หลังจากที่ทุกอย่างเท่าเทียมแล้ว เขาก็จะสามารถรับร่างอสูรตัดสายฟ้าที่สมบูรณ์แบบได้ใน บ่อโลหิตเทพอสูร
หายใจเข้า! เขาสูตหกประสงค์วินาศเข้าไปอีกรอบ มันเข้าไปในสติของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ว่าคราวนี้เขาใช้พลังของแก่นสารแห่งจิตเพื่อกันไม่ให้มันทะลวงเข้าไปในจิตของเขาได้ และเขาก็ใช้วิชากระบี่สําหรับขัดเกลาพร้อมกับเจตจํานงแห่งกระบี่
วิชากระบี่นี้จะทําให้เขาใช้แรงออกมาได้มากขึ้น ทําให้สามารถดูดซับหกประสงค์วินาศได้ไวและดีขึ้น เขาค่อยๆดูดขับหกประสงค์วินาศเข้าไปอย่างช้าๆ พลังปราณของเขาปกคลุมร่างกาย และกันไม่ให้หกประสงค์วินาศออกไปจากร่างของเขา หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูปเขาก็ขัดเกลาจนเสร็จ
แก่นสารแห่งจิตของเมิ่งชวนดูดซับหกประสงค์วินาศเข้าไปสามกระแส ส่วนร่างกายของเขาดู ซับเข้าไปหกอัตราส่วนหนึ่งต่อสองคืออัตราส่วนที่ดีที่สุดตามที่บันทึกเขียนเอาไว้กลับกัน ในคัมภีร์ของร่างอสูรตัดสายฟ้าไม่มีเขียนเอาไว้ มันเขียนไว้เพียงแค่ว่าให้ดูดซับกระแสพลังวินาศเข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้
ร่างกายของเขาสามารถทนรับหกประสงค์วินาศได้เพียงหกกระแสเท่านั้น แต่ว่าแก่นสารแห่งจิตของเขานั้นยังรับได้อีกมาก แต่ว่าหกประสงค์วินาศหนึ่งขวดมีเพียงแค่เก้ากระแสเท่านั้น ของการดูซับหกประสงค์วินาศหนึ่งขวดต่อวันนั้นไวมากๆ เมิ่งชวนไม่กังวลเรื่องว่าจะขัดเกลาจุดที่ เก้าได้สําเร็จหรือไม่อีกต่อไป
วันถัดมา เมิ่งชวนไปที่คลังสมบัติเพื่อพับกับผู้อาวุโสอีอีกครั้ง
“เจ้าขัดเกลาหกประสงค์วินาศแล้วรึ?” ผู้อาวุโสอิ่มองเมิงชวนด้วยความตกใจ
การที่ได้รับหกประสงค์วินาศขวดแรกก็หมายความว่าเม็งชวนผ่านการขัดเกลาจุดที่แปดไปแล้ว และการที่ได้รับขวดที่สองก็หมายความว่าเมิ่งชวนขัดเกลาหกประสงค์วินาศได้เรียบร้อยแล้ว มันยากเกินไปสําหรับมนุษย์ในการขัดเกลาหกประสงค์วินาศ ความแข็งแกร่งของจิตใจขั้นต่ำมันมากเกินไป
มีปัญหาหลักๆสองอย่างในการขัดเกลาหกประสงค์วินาศ อย่างแรกคือมันยากเกินไปที่จะให้จิตใจดูดซับหกประสงค์วินาศ อย่างที่สองถึงจิตใจของคนๆนั้นจะแข็งแกร่งมากเพียงพอ พวกเขาก็รักษาสติได้เพียงแค่เลือนลางตอนดูดซับหกประสงค์วินาศ เพราะเหตุนี้วิชากระบีสําหรับขัดเกลาจึงอ่อนแอกว่าเดิม ดังนั้นปกติแล้วจะขัดเกลาหกประสงค์วินาศก็ต่อเมื่อไปถึงขั้นเจตจํานงระดับที่สูงกว่านี้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ร่างอสูรตัดสายฟ้าที่สมบูรณ์จึงเกิดขึ้นมาเพียงไม่กี่ครั้งในหลายร้อยปีเพียงเท่านั้น
“เอาล่ะ นี่หกประสงค์วินาศขวดที่สองของเจ้า” ดวงตาของผู้อาวุโสเต็มไปด้วยความคาดหวัง เมิ่งชวนเพียงแค่ต้องการเวลาในการขัดเกลาจุดที่เก้าให้สําเร็จ ไม่นานร่างอสูรตัดสายฟ้าที่สมบูรณ์ก็จะเกิดขึ้นมา
“นี่ขวดที่สาม” ผู้อาวุโสอสามารถเห็นกระแสพลังวินาศในร่างของเมิ่งขวนได้ในพริบตา เขา เอาขวดใหม่ให้เมิ่งชวน “เจ้าไวนะนี้ ขัดเกลาได้วันละขวดเลยรึ?”
“นี่ขวดที่ห้า”
“นี่ขวดที่สิบ”
“เจ้าดูดซับหกประสงค์วินาศเข้าไปครบห้าสิบขวดแล้ว เมิ่งชวน มีคนมากมายบนเขากําลังเฝ้ารอเจ้าได้รับร่างเทพอสูรที่สมบูรณ์อยู่นะ” ผู้อาวุโสค่อนข้างคาดหวัง
เนื่องจากเพิ่งชวนมาเอาหกประสงค์วินาศทุกวัน ข่าวจึงแพร่กระจายเร็วมากหลายๆคนบนเขาต่างรู้ว่าเมิ่งชวนดูดซับหกประสงค์วินาศหนึ่งขวดทุกวัน หลังจากผ่านไปกว่าสองร้อยปี ก็จะมีร่างเทพอสูรที่สมบูรณ์ปรากฏขึ้นมาเสียที
ในหมู่เหล่าศิษย์ที่ยังไม่ได้ลงจากเขา เมิ่งชวนกลายเป็นคนดัง
นอกจากเมิ่งชวนแล้ว ก็มีศิษย์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่สําเร็จร่างเทพอสูรที่สมบูรณ์แบบในช่วงสิบปีที่ผ่านมา นั่นก็คือเขวเฟิง เขวเฟิงสําเร็จร่างอสูรทรายดําที่สมบูรณ์ ในการจัดอันดับความยาก ในการฝึกฝนของร่างเทพอสูร โดยไม่สนใจร่างเทพมังกรและร่างวิหคเพลิงแล้ว ร่างห้าร่างจากสิบ ร่างนั้นมีความยากในการฝึกฝนมากที่สุด และร่างอสูรตัดสายฟ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในประวัติของเขาหยวนซู ร่างเทพอสูรระดับสูงพิเศษอีกห้าร่างที่มีความยากในการฝึกฝน น้อยกว่านั้น ก็จะพบร่างเทพอสูรที่สมบูรณ์แบบได้ทุกๆสิบปี ส่วนอีกห้าร่างที่ยากกว่านั้น ร่า งเทพอสูรที่สมบูรณ์แบบมักจะปรากฏออกมาทุกๆหลายสิบปีเท่านั้น พวกมันหายากกว่ามาก
ส่วนร่างเทพมังกรและร่างเทพวิหคเพลิงนั้นขึ้นอยู่กับโชคช่วยล้วนๆ เมื่อสายเลือดได้ตื่นขึ้นมา แล้วนั่นก็หมายถึงความสําเร็จ หากสายเลือดไม่ตื่นขึ้นก็ไม่มีความหวัง
ผลก็คือศิษย์คนอื่นๆต่างประทับใจเมิ่งขวนผู้ที่สามารถฝึกฝนร่างอสูรตัดสายฟ้าที่สมบูรณ์ได้ จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะได้รับความสนใจ ศิษย์หลายคนเข้ามาคุยกับเขาทุกครั้งที่เต๋าเจี่ยวหลิง พวกเขาพยายามจะทําความรู้จักกับเมิ่งชวน เพราะในอนาคตอาจจะขอความช่วยเหลือจากเขาก็
ขวดที่เจ็ดสิบ ขวดที่แปดสิบ ในที่สุดเพิ่งชวนก็ได้ขวดที่เก้าสิบไป
ในคืนนั้น เมิ่งชวนขัดเกลาหกประสงค์วินาศ
เขาไม่ได้ตื่นเต้น แต่งุนงงเสียมากกว่า
ข้าดูดซับหกประสงค์วินาศไปเก้าสิบขวดแล้ว จากอัตราส่วนหนึ่งต่อสองร่างกายของข้าดูดซับไปหกสิบขวดและแก่นสารแห่งจิตดูดขับไปหกสิบขวด แต่ว่าข้าก็ยังขัดเกลาจุดที่เก้าไม่สําเร็จ” เมิ่งชวนยืนอยู่ในห้องนิ่งๆ รู้สึกงุนงงทําอะไรไม่ถูก
“ข้ารู้สึกได้ว่าร่างกายของข้าดูดซับหกประสงค์วินาศจนสุดแล้ว แต่แก่นสารแห่งจิตนั้นยังขาดอยู่ เหมือนว่าแก่นสารแห่งจิตของข้าจะยังดูดขับไปไม่มากพอ ยังอยู่อีกไกลนักกว่าจะถึงขัดสุดจากบันทึกของศิษย์พี่ ปกติแล้วเก้าสิบขวดคือที่สุด ขนาดผู้ที่มีพรสวรรค์มากมายยังสามารถดูดซับได้มากกว่านั้นเพียงไม่กี่ขวด
“แต่ข้าว่าแก่นสารแห่งจิตของข้ายังอยู่อีกไกลจากขีดจํากัด อย่าบอกนะว่าข้าต้องดูดซับไปอีกซักสิบยี่สิบขวต?
เมิ่งชวนทําอะไรไม่ถูก ถ้าจะไปเอามาอีกซักขวดสองขวดโดยบอกว่าร่างของเขานั้นพิเศษนิดหน่อยก็คงได้ แต่ว่าการไปเอามาสิบกว่าขวดนั้นคงจะเป็นปัญหาแน่ๆ เมิ่งชวนรู้สึกหมดหนทาง
วันรุ่งขึ้นเมิ่งชวนไม่ได้ไปที่ถ้ําหมื่นกระปี กลับกันเขาไปที่ตําหนักแม่นาสวรรค์เพื่อไปหาอาจารย์ของเขา