ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art - ตอนที่ 127
ตอนที่ 127 วิธีการฝึกแก่นสารแห่งจิต
อสูรภูเขาสีแดงดํามั่นใจมากๆตอนที่นําหินออกมาสร้างเป็นเขตแดน “ตราบใดที่เจ้าอยู่ในเขตแดนข้าเจ้าก็หนีไปไหนไม่รอด”
เพิ่งชวนยืนอยู่กับที่ไม่ขยับตัวและเหลือบมองดูหินจํานวนนับไม่ถ้วนรอบตัวเขาด้วยความเย็นชาเขาจ้องมองอสูรภูเขาสีแดงเข้มตรงหน้า
“ไปเลย!” เพียงแค่คิดออกมา พลังอสูรของมันก็เพิ่มขึ้นพร้อมกับควบคุมหินจํานวนนับไม่ถ้วนให้พุ่งเข้าใส่เพิ่งชวน
เพิ่งชวนยังคงยืนนิ่ง และในที่สุดเขาก็ขยับตัวก่อนที่หินเหล่านั้นจะไปถึงเขา
ครืนๆๆๆ
โลกสีแดงดําดูจะสั่นสะเทือนในขณะที่เสียงคํารามของอสูรดังก้องพร้อมกับลําแสงกระบี่ที่ปะทุออกมา ภายในพริบตา เมิ่งชวนก็ใช้วิชาสมิงคํารนไปสิบเก้าครั้ง นั่นเป็นท่าโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเมิ่งชวนแล้ว ด้วยพละกําลังของเขาในฐานะเทพอสูรระดับมหาสุริยัน เขาแข็งแกร่งกว่าคราวก่อนที่เขาใช้วิชาดวงใจกระบี่มาก
ลําแสงกระบี่ทะลวงผ่านหินจํานวนนับไม่ถ้วน ฝุ่นคลุ้งไปทั่ว พื้นที่รอบๆตัวเขาหนึ่ง ได้สลายกลายเป็นฝุ่นไม่มีหินเหลือแม้แต่ก้อนเดียว
เกิดระเบิดติดๆกันอย่างรุนแรงเข้ามาแทน! แม้ว่าลําแสงกระบี่จะไม่โดนเข้าที่หิน แต่พวกมันก็ยังคงถูกปนเป็นผงอยู่ดีเพราะ “แรงกระแทก” ที่เกิดจากลําแสงกระบี่
“อะไรนะ?” อสูรภูเขาที่กําลังพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงก็ช้าลงและจ้องมองด้วยความตกใจ
ก้อนหินกว่าหกส่วนที่เคยเป็นร่างส่วนนอกของมันถูกทําลายโดยสิ้นเชิง! เมิ่งชวนยืนอยู่ในที่โล่งกว้างพร้อมกับถือกระบี่ด้วยมือเดียวและจ้องมองอสูรภูเขาด้วยความเย็นชา
“เจ้านี่มันแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหนกัน?” อสูรภูเขาตกใจ แม้จะผ่านระดับแดนอมตะไปยังมหาสุริยัน แต่พละกําลังของคนๆนั้นปกติก็จะเพิ่มขึ้นแค่ไม่กี่เท่า ทําไมพลังในการโจมตีถึงทรงพลังเช่น
“อ่อนแอเหลือเกิน” เมิ่งชวนมองเหยียดพร้อมกับเปลี่ยนเป็นสายฟ้าพุ่งเข้าใส่
“ไม่ดีแล้ว” อสูรภูเขาสีแดงเข้มตื่นตระหนก
เพราะว่าไม่มีหินในระยะหนึ่งนี้ อสูรภูเขาจึงหยุดเขาด้วยเขตแดนไม่ได้แล้ว
สู้ประชิด? ข้าชอบสู้ประชิด!? แม้อสุรภูเขาสีแดงเข้มจะตื่นตระหนกแต่มันก็ไม่ได้กลัว มันอ้าแขนทั้งแปดออกและพุ่งเข้าใส่เพิ่งชวน
“ตายซะ!” เมื่อมันพุ่งใส่สายฟ้า หกแขนก็แกว่งไปมาอย่างบ้าคลั่ง มันโจมตีใส่เพิ่งชวนด้วยฝ่ามือกรงเล็บ หรือหมัด แขนแต่ละข้างของมันเต็มไปด้วยพลังมากมายอย่างน่าทึ่งเพียงการโจมตีครั้งเดียวก็สามารถทําให้เทพอสูรระดับมหาสุริยันกลายเป็นฝุ่นได้ แต่เพิ่งชวนที่ฝึกร่างอสูรตัดสายฟ้าก็ขมวดคิ้วน้อยๆเขาไม่อยากจะสู้กับศัตรูตัวนี้ตรงๆ
ฟุบ
เพิ่งชวนวนรอบมันอย่างรวดเร็ว หลบการโจมตีของอสูรภูเขาสีแดงเข้มไปได้
“อะไรกัน?”เมื่อเห็นว่าทั้งหกแขนนั้นไม่โดนเมิ่งชวน อสูรภูเขาสีแดงเข้มก็โกรธเกรี้ยว
ร่างพร่ามัววนรอบอสูรภูเขาสีแดงเข้ม ทุกๆร่างชักกระบี่ออกมาฟันใส่อสูรภูเขา ลําแสงกระบี่ที่แต่ละร่างชักออกมาส่งเสียงคํารามเหมือนกับมังกรออกมา
อสูรภูเขาสีแดงเข้มพยายามจะป้องกันด้วยแขนทั้งแปดของมัน แต่มันก็พบว่ากระบี่เหล่านั้นสว่างจ้าและแทงเข้าใส่ร่างมันในทันทีด้วยการฟันทะลุมิติเข้ามา! อสูรภูเขาไม่มีโอกาสจะได้ป้องกันแม้แต่น้อย
การโจมตีติดๆกันสิบสองครั้ง! แต่ละครั้งก็มีเส้นทางที่แปลกประหลาดแตกต่างกันออกไปแต่ละครั้งทําให้มิติบิดเบี้ยว อสูรภูเขาไม่สามารถป้องกันได้แม้แต่ครั้งเดียว ลําแสงกระบี่เต็มไปด้วยพลังทะลุทะลวงมหาศาล ร่างที่แท้จริงของมันไม่สามารถทนรับไหวแม้แต่น้อยและถูกทะลวงเข้าไปได้สําเร็จ
หลังจากที่สิ้นเสียงมังกรคําราม ก็มีรูสิบสองรูปรากฏขึ้นที่ตัวของอสูร หัวของมันถูกทะลวงผ่านไปเลยด้วยซ้ํา! แต่ว่าอสูรภูเขาก็ยังคงจ้องมองเมิ่งชวนอยู่ “เทพอสูรมนุษย์เอ๋ยข้าประมาทเจ้าไปจริงๆ” พลังอสูรของมันเพิ่มขึ้นในทันที พลังของมันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลมันเปลี่ยนเป็นร่างเงา สีแดงและพุ่งเข้าใส่เพิ่งชวน
แม้ว่าการโจมตีนั้นจะรุนแรง แต่รูทั้งสิบสองก็ค่อยๆรักษาอย่างช้าๆ
การจะสังหารอสูรภูเขานั้น ข้าต้องทําลายแกนของร่างที่แท้จริงของมัน เทพอสูรมหาสุริยันนั้นมีพลังชีวิตที่มากมายพวกเขายังมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ําแม้ว่าหัวใจจะถูกแทงทะลุ ส่วนราชาอสูรที่ฝึกฝนร่างกายเป็นหลักอยู่แล้วนั้น พลังชีวิตของมันจึงมากกว่ามนุษย์อยู่แล้ว
จอมยุทธที่แข็งแกร่งที่ใช้พลังปราณมีวิชาลึกลับมากมาย และพลังของพวกเขานั้นมากมายมหาศาล
เหล่าอสูรนั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่า เช่นเดียวกันกับวิชาอันแปลกประหลาดของมันที่เกิดมา จากสายเลือด
“ตายซะ” อสูรภูเขาใช้วิชาต้องห้ามและพุ่งเข้าใส่เพิ่งชวน
ฟุบ
เมิงชวนหายวับไป หลบการโจมตีนั้นได้อย่างง่ายดาย เขาโผล่ไปด้านหลังของอสูรภูเขาลําแสงกระบี่สว่างจ้าจนทําให้ช่องว่างเกิดการบิดเบี้ยวและแทงเข้าใส่หลังของราชาอสูร
เขาใช้วิชาดวงใจกระบี่ออกมา
ตูม!
หลังจากที่ลําแสงกระบี่พุ่งออกไป ระเบิดหยินหยางก็ทะลวงผ่านร่างของมันไปก่อน ที่แก่นกลางของมันจะระเบิดอย่างรวดเร็ว! แก่นกลางของมันสั่นสะเทือนและกระจายออกเป็นชิ้นๆ
ไม่” ดวงตาของอสูรภูเขาเบิกกว้าง มันอยากจะพูดคําสุดท้ายออกมา แต่ว่าพลังชีวิตมันหายไปอย่างรวดเร็วและร่วงลงสู่พื้น เพราะว่าพลังชีวิตของมันหายไป มันจึงได้สติจากการควบคุมของเขาหยวนชู
“นี่ข้าถูกจับไปเมื่อนานมาแล้วรึ? ข้าถูกจับให้มาเป็นเป้าซ้อมประลองสําหรับเทพอสูรมนุษย์รี?” อสูรภูเขานึกขึ้นได้ในที่สุด ไม่ว่ามันจะได้มาเจอกับเมิ่งชวนรึเปล่า ชะตาของมันก็ถูกกําหนดเอาไว้นานแล้ว
หลังจากที่เพิ่งชวนสังหารราชาอสูรภูเขา เขาก็เห็นพื้นผิวของมันเข้มลง เปลี่ยนกลายเป็นสีของหินธรรมดา
เขาไม่รู้สึกถึงความสําเร็จหลังจากได้สังหารราชาอสูรแม้แต่น้อย เพราะไม่ว่ายังไงมันก็ถูกเขาหยวนชูควบคุมมานานแล้ว!
หากเขาอยากสังหารอสูร เขาต้องเข้าไปในสนามรบและต่อสู้
โอ๋” เมิ่งชวนมองไปด้านหน้าที่โลกสีดําแดงได้คืนกลับเป็นถ้ําเหมือนเดิม “ทางออกของถ้ําเก้าปริศนารี?? ข้าผ่านการทดสอบของมันแล้วในที่สุด เมิ่งชวนเดินออกไป ตามปกติแล้วหากศิษย์คนนั้นแพ้จะถูกส่งกลับไปที่หน้าถ้ํา ต้องผ่านการทดสอบเท่านั้นทางออกถึงจะปรากฏออกมา
เขาเดินออกมาจากถ้ํา เขาเห็นทุ่งดอกไม้อันกว้างใหญ่ในทันที ทุ่งดอกไม้ที่เติบโตขึ้นในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลินั้นเป็นเรื่องที่หาได้ยาก
ทุ่งดอกไม้สีม่วง
” อาชวน” ในทุ่งดอกไม้นั้นหลิวชีเยว่ยืนอยู่และยิ้มให้เพิ่งชวน
“ข้าผ่านมันแล้ว แล้วพรุ่งนี้เจ้าก็จะผ่านเช่นกัน” เมิ่งชวนกล่าวยิ้มๆ
เขามั่นใจในความสามารถของหลิวซีเยว่มาก ศัตรูที่เขาหยวนชูจัดเอาไว้นั้นถูกกําหนดเอาไว้สําหรับศิษย์แต่ละคนแล้ว
อย่างเช่น เพิ่งชวนสามารถสังหารอสูรภูเขาด้วยความเร็วเพียงอย่างเดียวได้หากเขาไปถึงระดับมหาสุริยันไม่ว่าอสูรภูเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่มันก็ไม่สามารถแตะตัวเมิ่งชวนได้แม้แต่ปลายเล็บกลับกันเพิ่งชวนสามารถปล่อยการโจมตีอย่างต่อเนื่องใส่มันได้เขาถูกกําหนดเอาไว้อยู่แล้วให้ชนะหากเขาไม่ได้ขึ้นเป็นเทพอสูรระดับมหาสุริยัน มันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะทําลายร่างภายนอกของอสูรภูเขาร่างจริงของมันก็ยิ่งไปใหญ่การทําลายแก่นกลางก็ยากยิ่งกว่าทําลายร่างจริงเสียอีก
เขาหยวนชูอยากให้เพิ่งชวนสัมผัสได้ถึงพลังของราชาอสูรระดับสาม พวกเขาจึงบังคับให้เพิ่งชวนไปถึงระดับมหาสุริยันก่อนที่จะได้ลงจากเขา
เช่นเดียวกับเชวเฟิง เขาพึ่งจะผ่านถ้ําเก้าปริศนาหลังจากที่ได้รับจิตวิญญาณแห่งกระบี่ขึ้นสูงและไปถึงระดับมหาสุริยันก็เท่านั้น
วันถัดมาหลิวชีเยว่ก็ทําสําเร็จ
ทั้งคู่ไปที่ตําหนักแม่น้ําสวรรค์
“ผู้อาวุโสอื่” เมิ่งชวนและหลิวชีเยวโค้งคํานับด้วยท่าทางนอบน้อม
ผู้อาวุโสอื่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเสื่อ เขายิ้มมองดูทั้งสองคนตรงหน้าเขา หนุ่มสาวคู่นี้ที่เขาเอ็นดูมาก พวกเขาคือเทพอสูรระดับต้นๆที่เขาหยวนซูเลี้ยงดูมาเลย! แม้พวกเขาจะยังเด็กแต่ก็แข็งแกร่ง!ตราบใดที่ได้เข้าสู่สนามรบมากกว่านี้ พวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างรววดเร็วและสามารถปกป้องเมืองด่านของตัวเองได้
“ขอแสดงความยินดีกับพวกเจ้าทั้งสองคนด้วยที่ผ่านถ้ําเก้าปริศนาได้ หลังจากที่ลงจากเขาพวกเจ้าจะได้พบกับการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย พวกเจ้าทั้งคู่จะต้องคอยสนับสนุนซึ่งกันและกันและจะต้องระมัดระวังเมื่อเข้าสู่สนามรบ อย่าปรมาท พวกเจ้ายังมีประสบการณ์ในสนามรบน้อยนิดนัก” ผู้อาวุโสอีสั่งสอน
หลิวชีเยว่ยิ้มและกล่าว “ท่านผู้อาวุโส พวกเราทั้งคู่จะระมัดระวังและข้าเองก็จะจับตาดูอาชวนด้วยเจ้าค่ะ”
เพิ่งชวนยิ้ม
“พวกเจ้าทั้งสองคนต้องคอยจับตาดูซึ่งกันและกัน” ผู้อาวุโสี่กล่าวยิ้มๆในขณะที่เขาหยิบหนังสือสามเล่มออกมา “นี่คือร่างอสูรตัดสายฟ้าเล่มที่สอง และร่างเทพวิหคเพลิงเล่มที่สองส่วนเล่มสุดท้ายนั้นคือวิธีลับในการฝึกฝนแก่นสารแห่งจิต”
ผู้อาวุโสอิ่มอบหนังสือทั้งสามเล่มให้กับเยิ่งชวนและหลิวชีเยว่
พอไปถึงระดับมหาสุริยัน พวกเขาจะได้คัมภีร์ร่างเทพอสูรฉบับสมบูรณ์มา! ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาจะได้รับวิธีลับในการฝึกแก่นสารแห่งจิตอีกด้วย