ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art - ตอนที่ 81
ตอนที่ 81 ศักยภาพ
ท้องฟ้ามืดครึ้ม หิมะตกหนัก
อัจฉริยะมากมายจ้องมองไปที่ลูกเห็บนับไม่ถ้วนบนท้องฟ้า เมื่อรอบที่สามเริ่มขึ้น ห่าฝนลูกเห็บก็ตกลงมาอีกครั้ง พวกมันพุ่งลงมาด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเดิม
เร็วเกินไป อัจฉริยะหลายคนรู้สึกราวกับฝนลูกเห็บนั้นไปถึงตรงหน้าพวกเขาในพริบตา ไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดและตอบโต้ ก่อนที่พวกเขาจะได้หลบ ลูกเห็บก็กระแทกโดนตัวไปแล้ว
‘มันจบแล้ว ข้าโดนเข้าแล้ว’
‘บ้าเอ้ย’
‘เร็วเกินไป’
อัจฉริยะหลายคนโดนลูกเห็บกระแทกใส่ จำนวนคนที่ถูกลูกเห็บกระแทกเข้าใส่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พลังที่มองไม่เห็นยกพวกเขาขึ้นและเอาไปวางลงที่เหล่าผู้ชม
“ถึงจะผ่านเงื่อนไขขั้นต่ำของเขาหยวนชู แต่การที่ทนรอบที่สามไม่ได้แสดงว่าพวกนี้มีความเร็วในการตอบสนองแค่ธรรมดาๆ”
“ถ้าไม่มีความสามารถอย่างอื่นที่น่าพึงพอใจ ก็ไม่มีคุณค่าพอที่จะให้เขาหยวนชูชุบเลี้ยง” เหล่าเทพอสูรพูดคุยกัน มีเพียงอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดเท่านั้นที่มีคุณสมบัติในการเข้าสู่เขาหยวนชู อัจฉริยะธรรมดาก็มีแต่จะเปลืองพลังของบ่อโลหิตเทพอสูร
…
รอบที่สามจบลงอย่างรวดเร็ว มีอัจฉริยะทั้งหมด 58 คนถูกโยนออกไป
ยังเหลืออัจฉริยะอยู่อีก 181 คนที่ยังคงยืนอยู่ในวงกลม ลูกเห็บหยุดลงชั่วขณะก่อนที่จะตกลงมาเป็นครั้งที่สี่ ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อ่านตอนล่าสุดที่ my-novel.co หรือ www.thai-novel.com
‘เร็วเกินไป’
‘นี่มัน…’ หลายๆคนเพียงแค่ได้เห็นลูกเห็บพุ่งผ่านไป กว่าที่สมองของพวกเขาจะตอบสนองทัน ลูกเห็บก็โดนเข้าที่ตัวแล้ว
ฟุบๆๆๆ!
อัจฉริยะหลายคนถูกยกลอยขึ้นไปในอากาศ ภาพนี้ทำให้เหล่าผู้ชมต้องร้องอุทานด้วยความตกใจ เพราะว่ามีคนมากเกินไปที่ถูกคัดออกในรอบที่สี่ จำนวนของอัจฉริยะที่ลอยอยู่กลางอากาศนั้นมากกว่าจำนวนคนที่เหลืออยู่ในวงกลมของตัวเองซะอีก
‘ข้ารอดมาได้ซะด้วย’ อัจฉริยะที่ยังคงอยู่ในวงกลมต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพียงหลังจากนั้นเท่านั้นที่พวกเขาพบว่ามีคนที่ยังยืนอยู่ในวงกลมน้อยขนาดไหน มี 102 คนที่สอบตกในรอบที่สี่ มีเพียง 79 คนเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่
อัจฉริยะทั้ง 79 คนนี้เก่งกาจมาก พวกเขาได้กินสมุนไพรหายากเข้าไปจนทำให้รากฐานเทพอสูรนั้นแข็งแกร่ง หรือไม่ก็เป็นคนที่เก่งและมีความเร็วในการตอบสนองที่ดีมาก
แน่นอนว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีรากฐานเทพอสูรเหมือนเมิ่งชวนและเหยียนจิน มีเพียงสิบคนเท่านั้นที่เป็นอย่างนั้น ส่วนมากก็ได้กินสมุนไพรหายากธรรมดาเข้าไปแค่อันสองอันเท่านั้น หรือบางคนก็ได้กินไขกระดูกหยกเทพอสูรเข้าไป แต่อย่างน้อยพวกเขานั้นก็แกร่งกว่าอัจฉริยะธรรมดาประมาณห้าถึงแปดส่วน และยิ่งรากฐานเทพอสูรนั้นแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ร่างเทพอสูรของพวกเขาก็แกร่งมากเท่านั้น และแน่นอนว่าพวกเขานั้นสามารถตอบสนองได้ไวกว่าเช่นกัน
ฟู่ว ราชาตงเหอยืนกับที่และจ้องมองดูด้วยสายตาเย็นชา เพียงแค่อึดใจเดียว ลูกเห็บรอบที่ห้าก็ตกลงมา
ฟิ้วๆๆๆๆๆ!
ลูกเห็บจำนวนนับไม่ถ้วนได้โปรยปรายลงมาและอัจฉริยะทั้ง 79 คนก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลบมัน เหล่าผู้ชมที่เฝ้าดูจากระยะไกลต่างก็รู้สึกกังวล พวกเขารู้ว่าเขาหยวนชูจะคัดเพียงแค่ยี่สิบคน! แต่พวกเขานั้นจะเลือกอย่างไร? แน่นอนว่ามันคัดจากผลการคัดเลือกในรอบต่างๆ ผลการคัดเลือกสามรอบแรกและการคัดเลือกรอบสุดท้ายจะเอามารวมกันและตัดสินใจเลือกไปยี่สิบคน
ดังนั้น ยิ่งคนๆนั้นโดดเด่นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้เข้าไปในนั้น แต่หากคนๆนั้นไม่โดดเด่นในด้านใดเป็นพิเศษเลย พวกเขาก็ต้องทำให้ได้ดีในทุกๆด้าน มีเพียงเท่านั้นถึงจะได้เข้าไปอยู่ในยี่สิบคนนั้น
“นายน้อยสอง ท่านต้องทำให้ได้ ท่านต้องทำให้ได้” ชายชราเฝ้าดูอย่างเป็นกังวล
‘ศิษย์รักของข้า ศิษย์รักของข้า…. อีกนิดเดียว หากเจ้าผ่านรอบที่ห้านี้ไปได้ โอกาสที่เจ้าจะได้ไปอยู่ในนั้นก็จะสูงขึ้นมาก’ ชายชราร่างอ้วนคนหนึ่งเฝ้ามองอย่างเป็นกังวล ‘ข้ามันเป็นอาจารย์ที่ไร้ประโยชน์ ไม่สามารถหาซื้อสมุนไพรมีค่าใดๆมาให้เจ้าได้ เจ้าต้องทำให้ได้ด้วยตัวเอง’
สมบัติสมุนไพรที่หายากนั้นมีค่ามากเกินไป หากไม่ได้กินเข้าไปซักอันก็จะเสียเปรียบไปมาก การที่สามารถทนมาได้ถึงขนาดนี้เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีความสามารถสูงมากจริงๆ
‘ชวนเอ๋อร์’ เมิ่งต้าเจียงเฝ้ามองดู ‘ชวนเอ๋อร์เคยต่อสู้กับราชาอสูรระดับสองมาก่อน และยังสามารถหลบหนีการติดตามแบบนั้นได้ ความเร็วในการตอบสนองต้องไวมากแน่ๆ’
ทุกคนเฝ้าดูอย่างเป็นกังวล
ลูกเห็บมันเร็วเกินไป มีอัจฉริยะหลายคนถูกกระแทกใส่ก่อนที่จะได้ตอบสนองอะไรเสียอีก พวกเขาถูกโยนออกไปกันทีละคน จนในที่สุดลูกเห็บรอบที่ห้าก็จบลง
‘เฮ้อ’ เขาไม่ผ่านรอบนี้ไปได้ ผู้ชมหลายคนก็ถอนหายใจเมื่อความหวังของพวกเขาต้องมาจบลงในรอบที่ห้า
‘เขาผ่านรอบนี้มาได้ ศิษย์รักของข้าผ่านรอบนี้มาได้’ ชายชราร่างอ้วนตื่นใจที่ได้เห็นศิษย์ของเขา ที่ไม่เคยได้กินสมุนไพรมีค่าใดๆ ได้ผ่านรอบที่ห้าไปได้
…
เมิ่งชวนมองไปรอบๆและพบว่ารอบๆเขานั้นมีคนเหลือน้อยเพียงใด มีเหลืออยู่เพียง 23 คนเท่านั้นนับจากรอบที่ห้า
อย่างผู้ที่มีรากฐานเทพอสูรที่แข็งแกร่งอย่างฉู่หยง หยานเฟิง เหยียนจิน ซงชาและเจ้าหญิงหลี่อิ๋งนั้นก็ผ่านไปได้เป็นเรื่องปกติ ส่วนอัจฉริยะสิบสามปี เหยียนชื่อถง แม้ว่ารากฐานเทพอสูรของเขาจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังห่างไกลจากจุดสูงสุดของ “พลัง” เพราะว่าเขาพึ่งเขาถึง “พลัง” มาไม่นานนี้เอง หากเขาพลาดที่จะเข้าถึงพลังแห่งฟ้าดิน การหลบเองนั้นก็จะยากด้วยเช่นกัน เพราะเหตุนั้นเขาจึงยังไม่ผ่านรอบที่ห้า
“มีสามคนที่ผ่านรอบที่ห้าโดยที่ไม่เคยได้กินสมบัติสมุนไพรใดๆเลย ร่างเทพอสูรของพวกเขานั้นอ่อนแอกว่ามาก” ชายที่ดูกระเซอะกระเซิงกล่าว “ร่างเทพอสูรของพวกเขาอ่อนแอ แต่ก็ยังสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว พรสวรรค์ของพวกเขาช่างสูงมากจริงๆ”
“นั่นสินะ ซัวเซี่ยว ชังกวนเฟิงและหยู่ฉาง” หญิงสาวชุดสีฟ้าพยักหน้า “ทั้งสามคนนี้ควรค่าที่จะได้รับการดูแลจริงๆ อย่างไรก็ตาม พวกเขาพลาดที่จะสร้างรากฐานเทพอสูรให้แข็งแกร่งในระดับก่อกำเนิด ในอนาคตคงจะยากถ้าจะให้ตามมาทัน ไหนดูซิ…หากพวกเขาผ่านไปจนถึงรอบสุดท้าย และถ้าทำได้ดีในส่วนอื่นๆด้วย พวกเราคงจะคัดไปให้ได้อยู่”
ชายที่ดูกระเซอะกระเซิงพยักหน้า
ราชาตงเหอและทั้งสองเป็นคนจัดการการสอบนี้ พวกเขาเป็นผู้ตัดสินใจจัดอันดับ
เทพอสูรที่มีรากฐานที่แข็งแกร่งนั้นจะถูกให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ ส่วนสามคนเหล่านั้น ที่ไม่เคยได้กินสมุนไพรมีค่ามาก่อนเลยนั้น การที่ผ่านเข้ามารอบที่ห้าได้ก็ทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะได้เข้าสู่เขาหยวนชู ตราบใดที่พวกเขาทำได้ดี มันก็อาจจะเพียงพอที่เขาหยวนชูจะรับพวกเขาเข้าไป
…
มีอัจฉริยะเหลือเพียง 23 คน
ราชาตงเหอมองดูหนุ่มสาวทั้ง 23 อย่างใจเย็น แม้ว่าจะมีคนที่ยังไม่เคยได้กินสมุนไพรหายากมาก่อนแต่มีความสามารถที่สูง แต่ที่เขาหยวนชูต้องการนั้นคืออัจฉริยะที่มีความสามารถสูงแล้วก็มีรากฐานเทพอสูรที่แข็งแรง
ฟิ้ว รอบที่หกเริ่มขึ้นพร้อมกับลูกเห็บที่ตกลงมา ความเร็วของลูกเห็บเพิ่มขึ้นไปมากกว่าเดิมอีก
“เร็วเกินไปแล้ว”
ทันใดนั้นเองอัจฉริยะหลายคนก็โดนกระแทกเข้าไป รอบที่ห้านั้นเป็นที่สุดแล้วสำหรับใครหลายๆคน พวกเขารับความเร็วของลูกเห็บระดับนี้ไม่ไหวแล้ว
‘ทนเอาไว้’ เจ้าหญิงชุดสีม่วง หลี่อิ๋งพยายามจะอดทนเอาไว้ เธอรู้สึกได้ลางๆว่าอัจฉริยะคนอื่นๆถูกลูกเห็บกระแทกใส่ เธอพยายามที่จะรอดไปจากรอบที่หกนี้ให้ได้ แม้ว่าเธอจะเป็นเจ้าหญิงที่มีสถานะสูงมาก แต่การแข่งขันภายในราชวงศ์เองก็หนักหนาไม่แพ้กัน… ในฐานะตระกูลเทพอสูรอันดับหนึ่งในราชวงศ์โจวที่ยิ่งใหญ่ สถานะของเธอในฐานะเจ้าหญิงไม่ได้มีความหมายมากนัก ความแข็งแกร่งของเธอนั้นสำคัญกว่า
เจ้าหญิงที่ไปไม่ถึงระดับเทพอสูรไม่มีคุณค่าใดสำหรับตระกูล
พิ้ว!
ลูกเห็บเริ่มเร็วขึ้นและยากขึ้นเรื่อยๆที่จะหลบ จนท้ายที่สด ก็มีลูกเห็บพุ่งเฉียดซองธนูของเธอไป สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปในทันที ในฐานะจอมยุทธที่แท้จริง เธอสามารถควบคุมร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม แต่การที่มีลูกเห็บสัมผัสโดนซองธนูของเธอนั้นหมายถึงความล้มเหลว
พลังที่มองไม่เห็นโอบล้อมเธอและเธอก็เริ่มลอยขึ้ยไป เธอเข้าใจว่าเธอไม่ผ่านรอบนี้ เธอหันไปมองรอบๆและพบว่ามีอัจฉริยะอีก 7 คนที่ยังเหลืออยู่ เธอจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ‘ข้ายังมีโอกาสถูกคัดเลือกเป็นหนึ่งในยี่สิบอยู่’
‘ไม่ดีแล้ว’ ร่างของจินฮ้วนเปลี่ยนเป็นสายฟ้าขณะที่เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลบครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในที่สุดลูกเห็บมันก็รวดเร็วเกินความเร็วในการตอบสนองของเขา
จินฮ้วนเองก็ถูกพลังที่มองไม่เห็นพันรอบตัวเขาและยกขึ้นไป เขามองไปรอบๆ
เหลืออยู่หกคน
ก้ม!
เหยียนจินหลบอย่างสุดกำลัง เขาฝึกฝนร่างเทพเพลิงน้ำแข็งและเก่งในการต่อสู้ระยะประชิด ในการต่อสู้ระยะประชิดนั้น มีเส้นกั้นบางๆระหว่างความเป็นกับความตาย! ปกติแล้วเขาจะสามารถใช้กระบี่ทั้งสองเพื่อปัดป้องกับศัตรู แต่ในตอนนี้ เขาทำได้เพียงแค่หลบ เขาพยายามพึ่งสัญชาตญาณอย่างเต็มที่เพื่อที่จะหลบลูกเห็บที่ร่วงหล่นลงมา เพราะลูกเห็บนั้นมันเร็วเกินไป ทำให้เขาได้แต่ต้องเชื่อในสัญชาตญาณเท่านั้น
ฟุบ
ลูกเห็บเฉียดหลังของเหยียนจินไป เขาหน้าซีด เขาเองก็พลาดเช่นกัน
เขาเองก็ถูกห่อหุ้มด้วยพลังที่มองไม่เห็นขณะที่ลอยขึ้นไป
ตอนที่เหยียนจินลอยขึ้นไป เขาก็เห็นฉู่หยงและหยานเฟิงเช่นเดียวกัน พวกเขาเองก็พลาด
…
เมื่อลูกเห็บหยุดลง มีเพียงสามคนที่ยังเหลืออยู่ เมิ่งชวน ซงชาและชี่หยวนถง
อัจฉริยะคนอื่นๆมองพวกเขาด้วยอารมณ์ที่หลากหลายพร้อมกับทุกคนที่ต่างจ้องมองไปที่ทั้งสามที่เหลืออยู่
“ดี” ในที่สุดก็มีรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของราชาตงเหอ