ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 3 วิวาห์สลับตัวองค์หญิง (3)
กว่าเซวียนหยวนรุ่ยและเยี่ยจือหวาจะกลับถึงจวนอ๋องก็ค่ำแล้ว ในช่วงบ่ายพวกเขาไปคุมการประหารเซวียนหยวนชิงและเยี่ยจือจิ่นด้วยตนเอง เยี่ยจือหวารู้สึกโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก นางไม่เคยมีความสุขและรผ่อนคลายเช่นนี้มาก่อนเลยตั้งแต่กลับชาติมาเกิด
ในที่สุดเยี่ยจือจิ่นก็ตายและเซวียนหยวนชิงถูกตัดหัว พวกเขาไม่มีโอกาสทำร้ายนางกับเซวียนหยวนรุ่ยอีกแล้ว
“จือหวา เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ”
เมื่อเซวียนหยวนรุ่ยก้าวเข้าประตูจวนอ๋อง ก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงจากการถอนใจของเยี่ยจือหวา นางมีชีวิตชีวาขึ้นราวกับได้ปลดจากภาระหนักอึ้ง
“เปล่าเพคะ หม่อมฉันไม่ได้คิดอะไร”
เยี่ยจือหวาหน้าแดงเมื่อได้ยินเสียงเซวียนหยวนรุ่ย
ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้นางได้กลับชาติมาเกิด เพราะในชาติที่แล้ว นางไม่มีทั้งความกล้าและโอกาสที่ได้อยู่กับเซวียนหยวนรุ่ย นางได้แต่มองเซวียนหยวนรุ่ยและซูหว่านรักกันอย่างดื่มด่ำ มองดูเขาลุ่มหลงซูหว่านอย่างไม่รู้สึกผิดใดๆ
ในตอนนั้น นางเจ็บปวดใจเหลือเกิน!
โชคดีที่ซูหว่านจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน…
เมื่อคิดถึงสตรีอายุสั้นที่ช่วงชิงหัวใจเซวียนหยวนรุ่ยไปในครั้งอดีต เยี่ยจือหวาก็บอกตัวเองว่าจะวิตกไปไยกับคนที่ใกล้ตาย แต่แล้ว…
“ท่านอ๋อง จวิ้นจู่ นาง…”
“เจ้าจะเอ่ยถึงนางทำไม”
เมื่อได้ยินเยี่ยจือหวาเริ่มเอ่ยถึงซูหว่านก่อน สีหน้าที่อ่อนโยนของเซวียนหยวนรุ่ยก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นเล็กน้อย
แม้ว่าจะเติบโตมาด้วยกันกับซูหว่านแบบคู่รักในวัยเด็ก เซวียนหยวนรุ่ยก็ยอมรับว่าพระองค์มีใจให้กับนาง แต่ในทางกลับกัน นางจงใจก่อปัญหา ลงมือฆ่าลูกของเขากับจือหวาอย่างโหดเ**้ยม เมื่อหวนรำลึกถึงสตรีที่รักมาเป็นเวลาหลายปี ผู้ที่ภายนอกดูอ่อนแอและอ่อนโยน แต่ภายในนั้นโหดเ**้ยมชั่วร้าย เซวียนหยวนรุ่ยรู้สึกว่าตนเองถูกหลอก ความโกรธที่ฝังลึกในใจก็เพิ่มเป็นทวีคูณ
เมื่อเห็นเซวียนหยวนรุ่ยเกลียดชังซูหว่านมากขนาดนี้ เยี่ยจือหวาก็โล่งใจ นางปลอบใจตัวเองจากก้นบึ้งของหัวใจว่า อย่างไรเสียซูหว่านก็จะตายแล้ว ปล่อยให้ท่านอ๋องลืมๆ นางไปเสีย นี่เป็นเรื่องดีสำหรับทุกคน สมมติว่าหลังจากซูหว่านตายแล้วเดินทางไปสู่ยมโลก ท่านอ๋องจะเศร้าโศกและใจสลายโดยที่ไม่มีใครรู้เห็น
หวังว่าท่านอ๋องจะได้พบรักแท้ในชาตินี้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เยี่ยจือหวาคิดว่าเหตุที่นางกลับชาติมาเกิดใหม่นั้นเพื่อช่วยชีวิตเซวียนหยวนรุ่ย และไม่เพียงช่วยชีวิตพระองค์จากโชคชะตา แต่ที่สำคัญกว่าคือ รักษาความรักของพระองค์ไว้เพื่อนาง…
คืนนั้น บางคนหลับฝันสบายๆ บางคนเศร้าโศกฝันร้าย และก็มีบางคนที่ไม่ฝัน…
ยามซูหว่านตื่นนอน ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูงบนท้องฟ้า ห้องนางเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสมุนไพร นางมองผ่านม่านหนาไปยังท่านหมอซือที่กำลังง่วนอยู่
“ท่านหมอหลวงซือใช่หรือไม่”
ซูหว่านเปิดม่านเบาๆ และมองไปยังชายที่ยืนอยู่ไม่ไกล ดวงตานางพร่ามัว ยังมีร่องรอยของอาการง่วงนอน แต่ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
ท่านหมอซือมองตาค้างเล็กน้อยแล้วรีบหลบตา “จวิ้นจู่ตื่นแล้วหรือ ยาสมุนไพรจวนได้ที่แล้ว สักครู่ข้าจะให้ท่านทาน”
ซูหว่านเห็นท่าทางขัดเขินฝืนธรรมชาติของท่านหมอซือก็แอบยิ้ม
แทนที่จะบอกว่าท่านหมอซือนั้นโง่เขลา ควรพูดว่าเขาไร้เดียงสาเกินไปจะดีกว่า ชายที่ถูกปั่นหัวได้ง่ายนั้นโง่หรือไม่เป็นที่ต้องการกันแน่
ซูหว่านอาจไม่คิดว่าปัญหานี้เป็นปัญหาพื้นๆ อีกต่อไป เมื่อเห็นท่าทางของท่านหมอซือที่เต็มอกเต็มใจช่วยเหลือนางราวกับเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกสามถึงห้าปี เวลาเท่านี้เพียงพอที่จะทำให้เยี่ยจือหวาและเซวียนหยวนรุ่ยตายอย่างงดงามตามท้องเรื่อง
ในไม่ช้า ท่านหมอซือก็เคี่ยวยาสมุนไพรเสร็จ เขาบรรจงนำมาให้ซูหว่านทาน
ชายหญิงไม่ควรสัมผัสมือกันเมื่อรับสิ่งของ แม้แต่หมอหลวงก็ไม่จำเป็นต้องป้อนยาให้กับคนไข้ด้วยตนเอง แต่ท่านหมอซือกลับกล้าทำอย่างมั่นใจ ซูหว่านก็ไม่ปฏิเสธเพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาของเยี่ยจือหวา นางลุกจากเตียงเพื่อรับการรักษาด้วยใจที่สงบ
ยาที่กำลังจะเข้าปากนางนั้นขมเกินบรรยาย แต่ซูหว่านไม่รู้สึกถึงความขมเลย แต่นางย่นปากและขมวดคิ้ว นางน้ำตาไหลซึ่งดูน่าสงสารในสายตาของท่านหมอซือ “ขมเสียงจริง ข้าไม่อยากกินแล้ว”
มีคำกล่าวว่าหญิงที่ถูกตามใจมักจะมีแต่คนรักคนหลง ซูหว่านคนเดิมมีรูปร่างหน้าตาดี แต่เป็นจวิ้นจู่ที่ทะนงตนอยู่ในที นางไม่แสดงออกว่าเป็นจวิ้นจู่ที่ถูกตามใจต่อหน้าเซวียนหยวนรุ่ย จนถึงขั้นไม่ยอมพูดกับชายอื่นเลย
เสียของเปล่าๆ!
“ขมหรือ”
ท่านหมอซือใจเต้นรัวเมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารของซูหว่านที่กำลังบ่นกับเขาอย่างออดอ้อน ท่านหมอซือรีบหันหน้าออกและหยิบพุทราเม็ดหนึ่งจากชามใบเล็กที่วางอยู่ด้านข้าง “จวิ้นจู่ ทานนี่”
แล้วเขาก็ป้อนพุทราให้ ซูหว่านหรี่ตาอ้าริมฝีปากแดง เรียวปากอุ่นๆ ของนางสัมผัสปลายนิ้วท่านหมอซือ ท่านหมอซือรู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตจนรีบดึงมือออกมา
เขาทำอะไรลงไป
ชายโง่เขลาผู้นี้ ต้องไม่ใช่ท่านหมอซือแน่! ไม่ใช่อย่างแน่นอน!
บรรยากาศระหว่างนางกับท่านหมอซืออบอุ่นขึ้นแต่แฝงด้วยความคลางแคลงใจเล็กน้อย ซูหว่านรู้สึกว่าความกดดันที่เธอมอบให้ท่านหมอซือนั้นเหมาะสมแล้ว เธอจึงอ้าปากอีกครั้ง “ท่านหมอหลวงซือ ตอนนี้ข้าไม่ขมแล้ว ขอบคุณท่านหมอ ท่าน…ท่านช่างดีกับข้าเหลือเกิน”
“ข้า…”
เหมือนท่านหมอซืออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ซูหว่านชิงพูดเสียก่อน “เมื่อก่อนเปี่ยวเกอจะป้อนยาให้ข้า แต่ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก ช่างน่าเสียดาย…..”
“จวิ้นจู่…..”
ท่านหมอซือพูดไม่ออกเพราะใจตุ๊มๆ ต่อมๆ เขารู้สึกว่าวันนี้มีอารมณ์แปลกๆ
“แต่ก็ดีไปอีกแบบ”
ซุหว่านยิ้มฝืนๆ ให้ท่านหมอซือ “เปี่ยวเกอพบคนรัก ข้าควรจะดีใจ ใครลิขิตชะตาข้าให้เป็นเช่นนี้ ไม่ได้เลี้ยงดูลูกและไม่ได้อยู่กับเขา ตอนนี้เปี่ยวเกอไม่รักข้าแล้ว ข้าควรจะดีใจ หากข้าตายไปเช่นนี้ เขาจะไม่เจ็บปวด….”
“ท่านต้องไม่ตาย!”
ท่านหมอซือรีบขัดซูหว่านอย่างกระวนกระวายใจ ซูหว่านเงยหน้าขึ้นมองท่านหมอซืออยู่ครู่หนึ่ง
ท่านหมอซือรู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อซูหว่านจ้องมองเขา “ข้ารักษาท่านได้ จวิ้นจู่ ท่านต้องเชื่อฝีมือข้า”
ทั้งสองมองตากันครู่ใหญ่ ในที่สุดซูหว่านก็ยิ้มและพยักหน้า นางกล่าวว่า “ท่านหมอซือ ข้าเชื่อมั่นในตัวท่าน”
เสียงนี้น่าจะเป็นเสียงที่น่าฟังที่สุดในชีวิตของท่านหมอซือ หลังจากนั้นหลายปี ทุกครั้งที่เขาเมาและฝันไป เขามักฝันเห็นหญิงผู้หนึ่งที่มีรอยยิ้มสดใสพูดกับเขาว่า ท่านหมอซือ ข้าเชื่อมั่นในตัวท่าน
บัดนี้ เขารู้ชัดว่าตนถูกล่อลวงจนติดกับดักอันนุ่มนวลที่นางวางไว้ และก็เป็นหุบเหวลึกสุดหยั่งถึงได้เช่นกัน