ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 13 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 13 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
สุดท้ายแล้วซูหว่านก็รับเสี่ยวเจี่ยวปิงเหลียงกับเทียนหยาไห่เจี่ยวเข้าสู่กิลด์ เมื่อเห็นทั้งสองเข้าร่วมกิลด์ทีแรกอู๋เฟิงรู้สึกเหนือความคาดหมายอยู่หน่อย จากนั้นซูหว่านบอกเขาว่าเธอรู้จักสองคนนั้น เชื่อถือได้ อู๋เฟิงก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
ขณะนี้ในกิลด์ก็มีแค่พวกเขาหกคน เห็นซูหว่านเข้าร่วมกิลด์ด้วย คนที่ดีใจที่สุดก็คืออู่เป่าเป้ย เดิมทีเธอก็ไม่ได้มีกะจิตกะใจเก็บระดับอยู่แล้ว จึงแยกตัวออกมาจากกลุ่ม กลับไปยังเมืองหลักและเริ่มประกาศรับสมัครสมาชิกใหม่โดยใช้ลำโพงในหน้าต่างสนทนาโลก
คนที่เหลืออีกห้าคนรวมเป็นกลุ่มเล็กๆ ได้พอดี จอมเวทสองคน นักบวชสองคน นักรบหนึ่งคน เป็นส่วนประกอบที่ดีที่สุดในการเก็บค่าประสบการณ์ นอกจากปิงหั่วสิงเจ่อแล้วที่เหลืออีกสี่คนเป็นผู้เล่นที่เล่นมานานทั้งหมด การร่วมมือทำงานเป็นทีมให้ดีที่สุดได้อย่างไรทุกคนต่างรู้ดีอยู่ในใจ เสี่ยวเจี่ยวปิงเหลียงที่เป็นจอมเวทสายอัคคีและปิงหั่วสิงเจ่อทั้งสองจะแยกไปสองทาง เริ่มล่อมอนสเตอร์บนแผนที่มาอย่างไม่ขาด และอู๋เฟิงจะทำหน้าที่เป็นแทงค์กำลังหลัก รับผิดชอบในการสู้กับมอนสเตอร์และล่อมอนสเตอร์ ซูหว่านและเทียนหยาไห่เจี่ยว นักบวชทั้งสองคนรับผิดชอบการเพิ่มเลือดให้กับอู๋เฟิงอย่างสม่ำเสมอ ทั้งห้าคนค่อยๆ ปรับตัวจนร่วมมือได้ดีอย่างไม่มีที่ติ หลักจากที่ฝึกไปได้หนึ่งชั่วโมง พวกเขาก็เลื่อนระดับจนสามารถออกจากวังใต้ดินชั้นแรกเข้าสู่วังใต้ดินชั้นสอง…
ขณะนี้หน้ากระดานสนทนาของกิลด์เฟิ่งอู่เองก็คึกคักเป็นพิเศษ เพราะ ‘ความมือเติบ’ ของอู่เป่าเป้ยที่ใช้ไอเทมเหรียญทองคำในการหาสมาชิกในหน้าต่างสนทนาโลก และก็หาผู้เล่นที่ยังไม่มีกิลด์มาได้ส่วนหนึ่ง ความจริงแล้วหลังจากผู้เล่นที่ไม่มีกิลด์เข้ามาในกิลด์และเห็นว่าอู๋เฟิงเป็นหัวหน้ากิลด์ต่างก็ตะลึงไปชั่วครู่ เพราะในหมู่ผู้เล่นที่ไม่มีกิลด์อู๋เฟิงเป็นคนที่มีชื่อเสียงสูงมากทีเดียว และตอนนี้เขาสร้างกิลด์ของตัวเองขึ้นมา ทุกคนต่างก็เห็นดีด้วยกับอนาคตของกิลด์นี้ จากนั้นก็มีคนสายตาแหลมคมเห็นว่ารองหัวหน้ากลุ่มนั้นคือซูเฉิงหว่านเย่ว์ ทุกคนต่างอยู่นิ่งไม่ได้เลยทันที…
ซูเฉิงหว่านเย่ว์คือใครนะเหรอ
นั่นคือคนที่เคยเป็นรองหัวหน้าของซื่อเทียน คนที่อยู่ใต้คนคนเดียว แต่อยู่เหนือคนนับหมื่น
อย่าเห็นว่าเธอเคยถูกตามสังหารจนระดับตก ถูกส่งกลับไปยังหมู่บ้านมือใหม่ แต่ตอนนี้ไม่นึกเลยว่าจะพุ่งไปถึงระดับห้าสิบห้าอีกครั้ง! และทุกคนต่างรู้ว่าตัวของเธอยังคงมีทักษะนักบวชระดับสูงที่ได้มาจากคราวที่ซื่อเทียนบุกเบิกดันเจี้ยนสมัยที่เธอยังอยู่
สมาชิกใหม่ของกิลด์ส่งข่าวต่อกันเป็นทอดๆ ออกไปอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น ไม่นานทั้งหัวเซี่ยเซิร์ฟ 4 ต่างรู้ว่าอู๋เฟิงได้ก่อตั้งกิลด์ขึ้นมา และรองหัวหน้ากิลด์คือซูเฉิงหว่านเย่ว์!
หลังหยากับซื่อเทียนไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรกับเรื่องนี้ เมื่อเห็นหลังหยากับซื่อเทียนไม่มีเจตนาที่จะซักถามต่อ เหล่าหัวหน้ากิลด์ของกิลด์รองเหล่านั้นต่างเริ่มเสียดาย ถ้าหากรู้ว่าซูเฉิงหว่านเย่ว์กลับมาได้ง่ายขนาดนี้แต่แรก พวกเขาเองก็ควรที่จะชิงลงมือก่อน!
ดังนั้น กล่องจดหมายเกมของซูหว่านจึงถูกจดหมายมากมายถล่มอีกครั้ง ซูหว่านที่กำลังเก็บค่าประสบการณ์ไม่มีเวลาไปดูเลยแม้แต่น้อย จึงจัดการบล็อกทั้งหมดไป
ทางอู่เป่าเป้ยซึ่งเป็นผู้อาวุโสของกิลด์กลับรับสมาชิกจนมืออ่อน ช่วยไม่ได้ที่กิลด์ระดับหนึ่งรับสมาชิกได้มากสุดแค่หนึ่งร้อยคน ฉะนั้นสมาชิกจึงเต็มภายในเวลาอันรวดเร็ว
เธอรวบรวมสมาชิกร่วมกันไปทำภารกิจกิลด์ด้วยกันอย่างพึงพอใจ และกิลด์ก็ได้ขึ้นเป็นระดับสองอย่างรวดเร็ว สมาชิกจากเดิมที่รับได้แค่หนึ่งร้อยคนก็สามารถเพิ่มเป็นสามร้อยคน
กิลด์ที่เพิ่งตั้งขึ้นสดๆ ร้อนๆ ก็เหมือนกลุ่มแชตที่เพิ่งตั้งใหม่ ซึ่งจะคึกคักเป็นพิเศษ ถึงแม้จะรู้ว่าพวกของซูหว่านและอู๋เฟิงเก็บค่าประสบการณ์อยู่ที่วังใต้ดินไม่มีเวลามาคุย แต่สมาชิกใหม่ของกิลด์ต่างก็คุยกันในช่องติดต่อกิลด์กันเองอย่างสนุกสนาน
เสี่ยวเจี่ยวปิงเหลียงที่ปกติชอบความสนุกสนานเฮฮาอาศัยช่วงระหว่างเวลาว่างที่เพิ่งกำจัดมอนสเตอร์ไปกลุ่มหนึ่งแอบเปิดช่องสนทนากิลด์ดู สุดท้ายพอเห็นว่าทุกคนกำลังคิดจินตนาการความสัมพันธ์ระหว่างซูเฉิงหว่านเย่ว์กับอู๋เฟิง ทั้งคาดเดาทั้งหยอกล้อ แถมยังมีแสดงความเห็นว่า ‘ให้คบกัน’ ต่างๆ นานา ทำให้เสี่ยวเจี่ยวปิงเหลียงอดไม่ได้ที่จะเท้าลื่นขึ้นมาเกือบล้มลงไปกับพื้น…
เจ้าพวกมนุษย์เดินดินธรรมดา นี่บังอาจกล้าคิดคาดเดากันเองอีกหรือ!
พวกเจ้าคงจะเบื่อชีวิตกันแล้วสินะ!
เมื่อคิดถึงหัวหน้ากิลด์หย่งเย่ผู้มีบุญวาสนาได้เจอกันครั้งหนึ่ง เสี่ยวเจี่ยวปิงเหลียงพลันหันตัวไปประเมินอู๋เฟิงอย่างลับๆ ถึงแม้อู๋เฟิงหน้าตาก็ดูดีเหมือนกัน แต่ยังไงก็ตามอายุยังน้อย ดูไม่มีพลังอำนาจอะไร พอเอามาเปรียบเทียบกันแล้วเย่อวี่ชนะราบคาบเลยใช่ไหมล่ะ และเมื่อคืนเสี่ยวเจี่ยวปิงเหลียงยังฟังพี่ชายตัวเองบอกว่าหัวหน้ากิลด์ของพวกเขายิ่งอยู่ยิ่ง ‘บ้าระห่ำ’ ถ้าหากเย่อวี่รู้ถึงความคิดของคนพวกนี้ เสี่ยวเจี่ยวปิงเหลียงรู้สึกว่าคนพวกนี้จะต้องตายอย่างอนาถ อนาถมากๆ อนาถสุดๆ…
กลุ่มคนห้าคนอยู่วังใต้ดินชั้นสองจนถึงกลางคืนถึงจะออฟไลน์ ซูหว่านตอนนี้อยู่ที่ระดับห้าสิบเจ็ดแล้ว ปิงหั่วสิงเจ่อระดับห้าสิบหก ส่วนเทียนหยาไห่เจี่ยวกับเสี่ยวเจี่ยวปิงเหลียงนั้นก้าวเข้าสู่ระดับหกสิบแล้ว อู๋เฟิงอยู่ที่ระดับห้าสิบเก้า ค่าประสบการณ์ที่จะเข้าสู่ระดับที่หกสิบยังห่างอีกมาก ทั้งห้าคนนัดเวลาออนไลน์ของวันพรุ่งนี้เสร็จแล้วจึงออฟไลน์ไปพร้อมกัน
วันนี้เก็บค่าประสบการณ์มาหนึ่งวัน ซูหว่านที่อยู่ในการต่อสู้และการสนับสนุนอันเข้มข้นหนักหน่วงต่อเนื่องกันเป็นเวลานานได้ออกมาจากแคปซูลเกม สีหน้าของซูหว่านซีดเซียวเล็กน้อย
ไม่พูดไม่ได้ว่าในโลกภารกิจนี้ แฟนเก่าอย่างเธอนอกจากฮาร์ดแวร์จะไม่ได้มาตรฐานแล้ว ซอร์ฟแวร์ยังห่างชั้นกับซูรุ่ยอยู่อีกมาก
การออนไลน์ที่เข้มข้นหนักหน่วงติดต่อกัน ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงทั่วไปจะรับได้จริงๆ
เพราะความเหนื่อยล้ามากเกินไป ซูหว่านจึงเปิดน้ำร้อนใส่อ่างอาบน้ำในห้องอาบน้ำในห้องจนเต็ม คิดจะแช่น้ำร้อนแก้ความเมื่อยล้าสักหน่อย แต่แช่ไปแช่มาเธอกลับหลับไปโดยไม่รู้ตัว…
เมื่อซูหว่านตื่นขึ้นมา เธอพบว่าตัวเองกลับมาอยู่บนเตียงในห้องนอนตัวเองแล้ว บนตัวเปลี่ยนเป็นเสื้อนอนที่สะอาด และซูรุ่ยนอนฟุบอยู่ข้างเตียงของเธอ มือของเธอกุมอยู่ในมือซูรุ่ยอย่างแนบแน่น
ซูหว่านไม่ได้ดึงมือตัวเองออกมา เธอแค่หันหน้ามาเล็กน้อย พึ่งแสงไฟอ่อนๆ จากไฟผนังหัวเตียงมองใบหน้าของซูรุ่ยที่นอนหลับอยู่เงียบๆ
เวลาที่เขานอนหลับ ท่าทางที่สงบนั้นเสมือนเด็กน้อยที่แสนบริสุทธิ์ทำให้คนคิดจินตนาการได้ยากว่าเขาเคยเป็นมารคลั่งไล่สังหารมนุษย์
หรือบางที…ในโลกของซูรุ่ยนั้น ถูกหรือผิด ดีหรือชั่ว เป็นสิ่งที่ตรงไปตรงมาเสมอ สิ่งที่เขารักใคร่เขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง สิ่งที่เขาเกลียดชังเขาก็จะใช้ทุกวิถีทางทำลายให้สาบสูญไป
ซูรุ่ย ถ้านายเป็นแบบนี้ได้ตลอด จะดีขนาดไหน!
นายไม่ควรมาชอบฉัน ฉันไม่คู่ควรที่จะให้นายชอบ
ซูหว่านรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับความรักของซูรุ่ย เธอไม่ใช่คนที่ดีเลิศบริสุทธิ์ เธอเคยทำเรื่องที่ผิดคุณธรรมด้วยเล่ห์เหลี่ยมมากมาย และเวลาที่เธอทำเรื่องพวกนั้นไม่ได้เด็ดขาดเหมือนซูรุ่ย ใจของเธอถูกย้อมไปด้วยสีดำอันมืดมิดมานานแล้ว สีดำที่ล้างอย่างไรก็ล้างไม่ออก
ฉันไม่มีความสุข ฉันก็ไม่อยากให้ใครก็ตามมีความสุข
นี่ก็คือฉัน ซูหว่าน
ซูหว่านถอนหายใจเบาๆ แต่ว่าเสียงถอนหายใจที่แผ่วเบาก็ไม่อาจรอดพ้นไปจากโสตประสาทอันเฉียบแหลมของซูรุ่ย เขาตื่นขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตาสะลึมสะลือพบกับสายตาของซูหว่าน
“คุณตื่นแล้วเหรอ”
ซูรุ่ยพูดพลางยกมือขึ้นไปด้วย มือใหญ่ที่ดูดีแข็งแรงลูบผมยาวของซูหว่านอย่างเป็นธรรมชาติ
ในโลกนี้เส้นผมของซูหว่านเป็นสีดำตรงยาว เวลาลูบแล้วนุ่มลื่นมาก
“ขอบคุณ”
ซูหว่านไม่ได้หลบมือของซูรุ่ย กลับขอบคุณเขาเบาๆ
“คุณเหนื่อยเกินไปแล้ว จำเป็นต้องพักผ่อน”
ซูรุ่ยไม่ได้ชอบฟังซูหว่านกล่าวคำว่า ‘ขอบคุณ’ กับเขา เขาจ้องมองและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมรู้ว่าคุณเก่ง ซูหว่าน แต่ในโลกออนไลน์ ฝีมือและความสามารถของคุณต่างถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขรอบตัว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมาฝืนตัวเอง คุณยังมีผม ทุกอย่างคุณพึ่งผมก็ได้แล้ว”
“ฉันจะไม่พึ่งใครทั้งนั้น”
ซูหว่านใช้สายตาเย็นชามองซูรุ่ย น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเย็นเยือกขึ้น “แต่ว่า ฉันจะหลอกใช้ใครก็ได้”
ในโลกนี้นอกจากตัวเองแล้วเธอห้ามพึ่งใครเลย เพราะในตอนที่การพึ่งพาใครสักคนกลายเป็นนิสัยที่คุณเลิกไม่ได้ขึ้นมา คนคนนั้นก็จะกลายเป็นทั้งหมดของชีวิตคุณ
คุณจะดีใจเพราะเขาดีใจ จะโศกเศร้าเพราะเขาโศกเศร้า
เมื่อวันหนึ่ง เขาจากไปอย่างไม่มีทางหันกลับมา คุณยังจะพึ่งใครได้อีก
ความสิ้นหวังแบบนั้น ซูหว่านเคยประสบมาแล้ว ประสบมาแบบฝังใจไม่เคยลืม
เธอยอมรับว่าเธอคือคนขี้ขลาดตาขาว เพราะเคยถูกทำร้ายมาอย่างเจ็บช้ำ เธอในตอนนี้ไม่กล้าหลงเชื่อในความรักใดเลย และไม่ยอมมอบความจริงใจให้ใครสักนิดเดียว
เธอกลัวมานานแล้ว…
พอถูกซูหว่านจ้องมองอย่างเย็นชา ซูรุ่ยแค่ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “คุณไม่ต้องพึ่งผมก็ได้ ผมยินดีให้คุณหลอกใช้ผมตลอดเวลา และถ้าคุณยินยอม ก็ช่วยกรุณาหลอกใช้ผมไปทั้งชีวิต”
ไม่ว่าเธอจะแสร้งว่าเย็นชาและห่างเหินแค่ไหน ญาณสัมผัสอันยิ่งใหญ่เหนือธรรมชาติของซูรุ่ย จับได้ถึงความหวาดกลัวและความตระหนกในอารมณ์ของซูหว่านในเวลาชั่วพริบตาเมื่อครู่
เธอกำลังหวาดกลัวการเข้าใกล้ของเขา เธอกำลังตระหนกกับความรักนี้
นี่ทำให้ซูรุ่ยรู้สึกเจ็บปวดใจ
บางครั้ง เรามักจะเจอคนที่ไม่ใช่ในเวลาที่ใช่
และเมื่อถึงเวลาที่ไม่ใช่ ก็มักจะถูกจับพลัดจับผลูมาเจอคนที่ใช่ เมื่อถึงเวลานั้นคุณยังจะมีกำลังและความกล้าที่จะรักอีกครั้งอย่างกล้าหาญได้ไหม
แมงเม่าบินเข้ากองไฟ ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน
ถ้าหากแมงเม่าตัวนั้นมีโอกาสที่จะฟื้นคืนชีพใหม่ มันยังจะโถมใส่ทะเลไฟอย่างไม่ลังเลอีกครั้งไหม