ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 17 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 17 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
ข้างทะเลสาบอิ๋นเย่ว์ที่ส่องแสงระยิบระยับ ซูหว่านและหุยโหมวอีเซี่ยวต่างยืนจ้องหน้ากันเงียบๆ
เสี่ยวเจี่ยวปิงเหลียง ที่เพิ่งถูกส่งมาเห็นทั้งสองยืนอยู่ริมทะเลสาบจากระยะไกล ก่อนที่จะมีคนมาเจอเขา เขาจึงรีบไปซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ และเปิดฟังก์ชั่นบันทึกวิดีโอ
เวลานี้ หุยโหมวอีเซี่ยวไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังถูกบันทึก เมื่อเธอเห็นว่าซูหว่านไม่ยอมพูดอะไร และยังทำหน้าเยาะเย้ยใส่เธอ ก็ยิ่งทำให้เธออึดอัดในใจ เธอจึงเอ่ยปากพูดขึ้นอีกครั้ง “ฉันรู้ว่าในใจเธอและแม้กระทั่งใครหลายๆ คนต่างก็รู้สึกว่าฉันไม่คู่ควรกับพี่เทียน พวกเธอคิดว่าฉันจิตสำนึกไม่ดี ควบคุมเกมไม่ได้ และไม่เหมาะกับเล่นเกมออนไลน์ แต่…ความรักมันบังคับกันไม่ได้ พี่เทียนบอกว่าตั้งแต่ที่เขาเจอฉันครั้งแรก เขาก็ชอบฉันแล้ว และฉันก็ชอบเขาด้วย ฉันแค่อยากอยู่กับเขาเงียบๆ ให้ความสุขเขาและทำให้เขามีความสุข ทำไมเธอถึงไม่ยอมปล่อยพวกเราไปสักทีล่ะ “
“เหอะๆ “
ซูหว่านหัวเราะแห้งๆ สองครั้ง “หนึ่ง ฉันไม่เคยคิดทำลายพวกเธอเลย ต่อให้พวกเธอบอกว่าเป็นความรักแบบอิสระ หรือแต่งงานและมีลูกกัน มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยแม้แต่น้อย สอง เธอบอกว่าพวกเธอเป็นรักแรกพบกัน ต่างหลงรักซึ่งกันและกันงั้นเหรอ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันน่าจะยังเป็นรองหัวหน้ากิลด์ของซื่อเทียนและยังเป็นภรรยาของ ‘ใต้เท้าหัวหน้ากิลด์’ ด้วยมั้ง ที่แท้พวกเธอก็เริ่มคบหากันตั้งแต่แรกแล้ว นี่ทำให้ฉันประหลาดใจมากจริงๆ!”
พูดไป ซูหว่านก็ยังแสดงสีหน้าเกินจริงออกมาด้วย
“ไม่ ไม่ใช่ พวกเราแค่…ควบคุมความรู้สึกที่มีต่อกันไม่ได้ พี่เทียน พี่เทียนบอกว่าเขาไม่เคยรักเธอเลย”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน หุยโหมวอีเซี่ยวก็รีบพูดความจริงแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมา
“อ้อ ตี้ซื่อเทียนพูดแบบนั้นเหรอ บังเอิญจริงๆ ฉันก็ไม่เคยรักเขามาก่อนเหมือนกัน”
พูดพลางซูหว่านก็ก้าวไปข้างหน้าเหมือนเป็นพี่สาวน้องสาวที่รู้ใจกัน และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ฉันไม่รู้นะว่าตี้ซื่อเทียนจะพูดยังไงกับเธอ พวกเรารู้จักกันมาห้าปี แล้วเขาบอกด้วยว่า ความรักในเกมก็แค่เล่นสนุกเท่านั้น ถ้าให้รักกันจริงคงจะไม่ได้ ดังนั้นถึงแม้ฉันกับเขาเคยถูกเรียกว่า ‘คู่สามีภรรยาตัวอย่าง’ แต่ที่จริงระหว่างฉันกับเขาไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย แม้แต่จับมือก็ไม่เคย แล้วดูสภาพเธอตอนนี้สิ ฉันคิดว่าพวกเธอคงสนิทสนมชิดใกล้กันมากแล้วสินะ”
ซูหว่านพูดพลางก็เหล่ตาจ้องมองหุยโหมวอีเซี่ยว ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ และรีบหลบสายตาของซูหว่านในทันที “ไม่ ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย”
“เหรอ งั้นก็ดี เมื่อก่อนตี้ซื่อเทียนเคยอวดกับฉันว่าเขานอนกับผู้หญิงมามาก! ฉันกลัวว่าเธอ… “
“เป็นไปไม่ได้!”
หุยโหมวอีเซี่ยวโกรธจนตะโกนขัดคำพูดของซูหว่าน “พี่เทียนไม่ใช่คนแบบนั้น เขาบอกว่าฉันเป็นคนแรก…”
ราวกับเธอตระหนักได้ว่ากำลังผิดคำพูด หุยโหมวอีเซี่ยวก็รีบปิดปากฉับก้มหน้าลง
เป็นผู้หญิงที่โง่จริงๆ!
มุมปากของซูหว่านเผยอขึ้น “บางทีเขาอาจจะจริงจังกับเธอก็ได้นะ ฉันขอแสดงความยินดีกับพวกเธอด้วยนะ”
“อะไรนะ!”
หุยโหมวอีเซี่ยวมองไปที่ซูหว่านอย่างไม่อยากเชื่อ “เธอมาที่นี่เพื่อมาบังคับให้ฉันเลิกกับเขาไม่ใช่เหรอ”
“ทำไมเธอถึงคิดว่าฉันจะบังคับให้พวกเธอเลิกกันล่ะ ฉันไม่ชอบตี้ซื่อเทียนจริงๆ และ…ฉันก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว และเขาก็อยู่ในเกมนี้ด้วย เมื่อระบบการแต่งงานเปิดแล้ว พวกเราก็จะแต่งงานกัน”
ซูหว่านมองหุยโหมวอีเซี่ยวอย่างจริงจัง ทุกถ้อยคำที่พูดล้วนมาจากใจจริง
“จริงเหรอ เขาเป็นใคร”
หุยโหมวอีเซี่ยวก็ยังไม่ยอมเชื่อที่ซูหว่านพูด ราวกับว่าเธอจะถามเอาคำตอบให้ได้ จนกว่าจะเปิดโปง ‘คำโกหกบ้าๆ บอๆ’ นี้ของซูหว่านด้วยตัวของเธอได้
“เขาเป็นคนถ่อมตนมากและไม่ชอบประกาศเรื่องของพวกเราไปทั่ว แต่ว่าอีกไม่กี่วันเธอก็จะรู้เอง”
เมื่อพูดถึงคนที่เธอชอบ สายตาของซูหว่านก็อ่อนโยนลง สีหน้าแบบนั้นดูไม่เหมือนโกหกเลย
หุยโหมวอีเซี่ยวงุนงงไปชั่วขณะ และพูดออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า “แล้ววันนี้เธอนัดฉันมาทำไม”
“ความแค้นในยุทธจักรก็ต้องจัดการในยุทธจักร”
ซูหว่านยิ้มพลางยกไม้คทานักบวชของตนขึ้น “เพราะเธอ ทำให้ตี้ซื่อเทียนสั่งให้คนมาไล่ฆ่าฉันห้าครั้ง ปัญหาเกิดขึ้นที่ใครก็ต้องไปแก้แค้นที่คนนั้น ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นเพราะเธอ ก็ต้องให้มันจบลงที่เธอ!”
พูดพลางซูหว่านก็เริ่มใช้ทักษะของนักบวชระดับ 60 บทลงโทษแห่งสวรรค์!
จากนั้นก็มีสายฟ้าสีขาวฟาดลงมา เลือดของหุยโหมวอีเซี่ยวลดลงอย่างต่อเนื่อง เธอไม่เคยต่อสู้กับใครมาก่อน บวกกับความตื่นตระหนก หุยโหมวอีเซี่ยวจึงลืมไปว่าเธอสามารถเพิ่มเลือดให้ตัวเองได้ กลับรีบหันหลังกลับคิดจะหนีไป!
จากนั้นซูหว่านก็ร่ายเวทลดความเร็วและเวทลดกำลังอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นก็สาดเวทแสงศักดิ์สิทธิ์และเวทกระสุนแสงใส่หุยโหมวอีเซี่ยวในทันที!
เดิมทีนักบวชก็มีค่าพลังป้องกันต่ำและเลือดน้อยอยู่แล้ว แถบเลือดของหุยโหมวอีเซี่ยวจึงลดลงเหลือน้อยในทันที ตอนนี้เธอเพิ่งจะคิดได้ว่าสามารถเพิ่มเลือดให้กับตัวเองได้ แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างสายเกินไป ซูหว่านร่ายเวทกระสุนแสงอย่างต่อเนื่อง โจมตีจนทำให้ค่าพลังชีวิตของหุยโหมวอีเซี่ยวหมดลง…
จะตายแล้วเหรอ
หุยโหมวอีเซี่ยวรู้สึกว่าตรงหน้าตนเองมืดไป เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง สิ่งที่เธอเห็นไม่ใช่จุดคืนชีพในเมือง แต่เป็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของซูหว่าน
นี่คือ…
ซูหว่านยิ้มและร่ายเวทแสงศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งครั้งและเวทกระสุนแสงอีกสามครั้งใส่หุยโหมวอีเซี่ยว เธอล้มลงอีกครั้ง จากนั้นซูหว่านก็ใช้ ‘บังคับคืนชีพ’ ชุบชีวิตเธอขึ้นมา และฟื้นฟูเลือดได้ 20% แต่ด้วยการโจมตีอย่างต่อเนื่องของซูหว่าน ทำให้ค่าพลังชีวิตนี้ดูเหมือนน้อยจนไม่สามารถทำอะไรได้
ด้วยวิธีนี้ ซูหว่านร่ายเวทบังคับคืนชีพใส่หุยโหมวอีเซี่ยวครั้งแล้วครั้งเล่า และฆ่าเธอให้ตายครั้งแล้วครั้งเล่า
ในเวลานี้ มีผู้คนจำนวนมากมาที่ทะเลสาบอิ๋นเย่ว์ หลายคนเป็นกิลด์เฟิ่งอู่จิ่วเทียน หลายคนก็แค่ผ่านมาดูเท่านั้น และยังมีบางคนที่มาจากกิลด์อื่น
ซูหว่านไม่สนใจฝูงชนเลย เธอมีสีหน้าเฉยชา และยังคงปล่อยทักษะของเธอตลอดเวลา ในเวลาไม่ถึงสิบนาทีเธอก็ทำให้ระดับของหุยโหมวอีเซี่ยวลดลงจนไม่เหลืออะไรเลย ฆ่าจนลดถึงระดับ 10 เป็นความเร็วที่เร็วน่าทึ่งจริงๆ
ถึงแม้มีไอเทมตกบนอยู่บนพื้นเต็มไปหมด ซูหว่านก็ไม่ได้เก็บไอเทมที่ตกลงบนพื้น
หุยโหมวอีเซี่ยวที่อยู่ในระดับ 10 จะถือว่าอยู่ภายใต้การป้องกันของมือใหม่ และในเวลานี้เธอมองไปที่ซูหว่านด้วยความโกรธแค้น “ซูเฉิงหว่านเย่ว์ เธอฆ่าฉันจะนับเป็นอะไรกัน แน่จริงเธอก็ไปฆ่าตี้ซื่อเทียนสิ”
“รอให้ฉันถึงระดับ 70 ก่อน ฉันไปฆ่าเขาแน่”
พูดถึงตรงนี้ ซูหว่านก็เก็บไม้คทานักบวชของตัวเองอย่างใจเย็น “ฉันไม่ได้มีความสามารถอะไร ฆ่าเธอที่เป็นนักบวชระดับ 70 คนเดียว ยังต้องใช้เวลาถึงแปดนาทีกว่าๆ ช่างเป็นนักบวชที่น่าอับอายจริงๆ เลยนะ!”
“เธอ…”
ต่อให้หุยโหมวอีเซี่ยวจะโง่แค่ไหน แต่ก็ฟังออกว่าซูหว่านกำลังล้อเลียนตัวเธอเองอยู่ “ฉันอยู่ในระดับที่สูงกว่าเธอ แต่ฉัน ไม่เคยฆ่าคน!”
“ผิด ตอนนี้เธอต่ำกว่าฉันมาก แล้วก็…”
ซูหว่านเหล่ตามองหุยโหมวอีเซี่ยวอย่างรุนแรง “เธอไม่เคยฆ่าคน ก็เพราะเธอฆ่าใครไม่เป็น ถ้าหากเธอมีฝีมือจริงๆ ฉันเชื่อว่าเธอจะฆ่าคนไม่น้อยไปกว่าฉัน”
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ฉันแตกต่างจากเธอ! ซูเฉิงหว่านเย่ว์ เธอมันเป็นมารคลั่งไล่ฆ่าคน”
หุยโหมวอีเซี่ยวทนไม่ไหวอีกต่อไป และดูเหมือนว่าเธอจะโกรธซูหว่านจนเลอะเลือนไปแล้ว จึงด่าซูหว่านออกไปตรงๆ
“มารคลั่งไล่ฆ่าคน? หุยโหมวอีเซี่ยว ทำไมเธอมักจะดึงตัวเองให้ไปอยู่จุดสูงสุดของศีลธรรมเสมอล่ะ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซูหว่านก็หันกลับไปมองฝูงคนที่ยืนชมอยู่ไม่ไกลแต่ไม่กล้าก้าวเข้ามาดู “ทุกคนเล่นเกมกันต่างก็ต้องการความสนุกสนาน จะไม่ไป PK กับคนอื่นได้ยังไง ทุกคนต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว และไม่ใช่เด็กประถมที่ไร้เหตุผล ในสงครามกิลด์ใครบ้างที่ไม่ฆ่าคน หรือว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็เป็นมารคลั่งไล่ฆ่าคนกัน”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน ทุกคนรอบๆ ต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกัน ก็จริงคนที่เล่นเกมนี้ใครไม่เคยฆ่าคนบ้าง ใครไม่เคยถูกฆ่าบ้าง
นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
ในเกมออนไลน์ นี่เป็นสิ่งที่พบบ่อยที่สุดไม่ใช่เหรอ
“ตอนแรกฉันก็แค่โกรธตัวเองที่ถูกผู้คนในซื่อเทียนทอดทิ้ง ฉันฆ่าเธอไปสองครั้งแล้วไงล่ะ หุยโหมวอีเซี่ยว ถ้าเธอสามารถกลับมาถึงจุดเหมือนเดิมด้วยตัวเองได้ ฉันซูเฉิงหว่านเย่ว์ก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก แต่เธอยังไปกระซิบบอกตี้ซื่อเทียนและตู๋หลังให้มาไล่ฆ่าฉัน และยังออกคำสั่งไล่ฆ่า เธอนี่มันสุดยอดจริงๆ นะ! เล่นสนุกกับหัวหน้ากิลด์ใหญ่ในเซิร์ฟ 4 ทั้งสองคนซะจนหัวปั่น!”
“เธอ เธออย่ามาใส่ร้ายป้ายสี!”
ในเวลานี้ สีหน้าของหุยโหมวอีเซี่ยวดูน่าเกลียดขึ้นเอามากๆ ก็จริง เธอและตู๋หลังเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีช่วงหนึ่ง แต่เพราะเธอกลัวว่าเยี่ยเทียนจะเข้าใจผิด เธอเลยปิดบังเยี่ยเทียนไว้ตลอด
ตั้งแต่แรก ตอนที่ตู๋หลังออกคำสั่งไล่ฆ่า คนทั้งเซิร์ฟต่างคิดว่าความแค้นที่เขามีให้ซูเฉิงหว่านเย่ว์เป็นเพราะเกิดจากความรัก และไม่มีใครรู้เรื่องราวภายในเลย
“ใส่ร้ายป้ายสีงั้นเหรอ”
เมื่อเห็นหุยโหมวอีเซี่ยวทำสีหน้าน่าสงสาร ซูหว่านก็ยิ้มให้อย่างเย็นชา “หรือจะให้ฉันไปหาพาตู๋หลังมาถามความจริงกันล่ะ ตอนที่ฉันฆ่าเธอครั้งที่สองตอนนั้น เขาก็อยู่ข้างๆ เธอ เพราะเหตุการณ์ตอนนั้นเกิดขึ้นกะทันหัน เขามาห้ามฉันไม่ทันเท่านั้นเอง”
พูดถึงตรงนี้ซูหว่านก็ชะงักไปสักครู่ เพราะอู๋เฟิงส่งข้อความมาหาเธอว่าคนของซื่อเทียนกำลังจะมาถึง และยังมีคนไปบอกตี้ซื่อเทียนที่ออฟไลน์แล้วอีกด้วย กลัวว่าอีกสองนาทีตี้ซื่อเทียนก็จะออนไลน์แล้ว
“หุยโหมวอีเซี่ยว พูดให้มากกว่านี้ก็ไม่เป็นไร วันนี้ฉันแค่จะมาล้างแค้นให้ตัวเองเท่านั้น ถ้าหากเธอไม่ยอม ก็ไปหาผู้ชายของเธอได้ ไปบอกเขาให้มาไล่ฆ่าฉันอีก ฉันซูเฉิงหว่านเย่ว์รออยู่!”
พูดพลาง ซูหว่านก็ใช้ม้วนคาถากลับเมือง และร่างนั้นก็หายวับไปในทันที หลังจากที่ซูหว่านหายตัวไปไม่นาน สมาชิกกิลด์ซื่อเทียนที่เพิ่งทราบข่าวกว่าจะมาถึงก็สายไปเสียแล้ว…