ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 25-1 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน (ปัจฉิมบท)
ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 25-1 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน (ปัจฉิมบท)
คำประกาศขอแต่งงานสุดร้อนแรงในหน้าต่างสนทนาโลกดำเนินการติดต่อกันมาเป็นเวลาสามชั่วโมง ในที่สุดก็สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์หลังจากซูหว่านกดตกลงในตอนที่ออกมาจากดันเจี้ยน
การแต่งงานในเกมนั้นง่ายกว่าในชีวิตจริงมาก หลังจากที่ทั้งสองกดยืนยันในความสัมพันธ์ก็สามารถเป็นคู่สามีภรรยาได้เลย และจะถูกส่งตัวไปยังโถงแต่งงานใหญ่ใจกลางเมืองหลงเฉิง มี NPC นักบวชมาเป็นประธานในงานแต่งงาน แน่นอนว่าถ้าในเวลานี้เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการคำอวยพรมากกว่านี้ ก็สามารถใช้เงินของตัวเองซื้อบัตรเชิญงานแต่งระดับสูงได้ในร้านค้าของเกม แล้วจะสามารถเชิญผู้เล่นคนอื่นเข้าร่วมในงานฉลองนี้ได้…
ตามแผนการของซูรุ่ยแล้ว งานแต่งงานจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และในสถานที่จัดงานแต่งงานทั้งหมดก็จะเต็มไปด้วยคำอวยพรจากผู้เล่นที่มาร่วมงาน แต่ว่า เนื่องจากมีตัวแปรหนึ่งที่อยู่นอกเหนือแผนการของซูรุ่ย ดังนั้น คู่แต่งงานใหม่ที่ควรจะได้รับความสนใจมากที่สุดในพิธีแต่งงาน สุดท้ายกลับถูกเพิกเฉยไปผอย่างน่าเศร้า…
อู่เป่าเป้ยพูดว่า “น้องสาวน่ารักจัง! ชื่อซูเสี่ยวซู หรือว่าเป็น…น้องสาวของพี่สาวหว่านเย่ว์”
ชิงซิ่วจยาเหรินพูดว่า “น้องเสี่ยวอู่ทำไมสายตาถึงเป็นแบบนั้น นี่เป็นน้องสาวของใต้เท้าหัวหน้ากิลด์เราชัดๆ! เธอดูสิ หน้าคล้ายหัวหน้ากิลด์ของเรามากขนาดไหน!”
โยวอวี้เตอะเหม่ยหยางหยาง “ที่จริงฉันมีลางสังหรณ์แปลกๆ อีกหนึ่งอย่าง…”
ชีเย่ว์ชีรื่ออิ๋นพูดว่า “มาๆๆ โลลิต้าตัวน้อย บอกพี่สาวหน่อยว่า ว่าหนูคือน้องของใคร”
ซูเสี่ยวซู (ดึงมุมเสื้อผ้าของซูหว่าน) พูดว่า “หม่าม๊า หม่าม๊า พี่สาวคนนี้ยิ้มแปลกจัง ซูซูไม่อยากเป็นเพื่อนกับพี่เขา!”
ชีเย่ว์ชีรื่ออิ๋น “…”
ชิงซิ่วจยาเหรินพูดว่า “ฉันหูฝาดไปใช่ไหมเนี่ย”
โยวอวี้เตอะเหม่ยหยางหยาง “ว่าแล้ว ลางสังหรณ์ของฉันต้องถูก”
อู่เป่าเป้ยพูดว่า “หนูเป็นลูกสาวของพี่หว่านเย่ว์เหรอ ถ้างั้นปีนี้หนูอายุเท่าไหร่แล้ว”
ซูเสี่ยวซูพูดว่า “ปีนี้หนูอายุหกขวบ หม่าม๊าหนูอายุยี่สิบสี่ปี!”
ชิงซิ่วจยาเหรินพูดว่า “อะไรเนี่ยอายุสิบเจ็ดก็มีลูกแล้ว พ่อของเด็กคงไม่ใช่ใต้เท้าหัวหน้ากิลด์ของพวกเราใช่ไหม”
ถึงแม้จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงสัยเล็กน้อย แต่เมื่อมองไปยังรูปลักษณ์ของซูเสี่ยวซู ชิงซิ่วจยาเหรินก็ไม่สามารถพูดโน้มน้าวให้กับตัวเองได้อีก หรือนี่เป็นแค่เรื่องบังเอิญ
โยวอวี้เตอะเหม่ยหยางหยางเอ่ย “สัญชาตญาณของฉันบอกฉันว่า มีเรื่องราวอยู่ในนั้น”
ตังหงหนี่ว์จื่อพูดว่า “ซูซู ซูซู หนูช่วยเล่าเรื่องปะป๊าหม่าม๊าของหนูให้เราฟังหน่อยได้ไหม”
ซูเสี่ยวซู (แววตาเป็นประกาย) เอ่ยว่า “ได้ค่ะ ที่จริงเรื่องมันเป็นแบบนี้ ปะป๊าและหม่าม๊าของหนูต่างก็เป็นรักแรกของกันและกัน เล่นด้วยกันและรักกันมาตั้งแต่ในวัยเด็ก และหมั้นกันตั้งแต่ยังไม่เกิด! น่าเสียดายที่ครอบครัวหม่าม๊าหนูในวัยเด็กล้มละลาย หม่าม๊าก็เลยไปอยู่ที่บ้านตระกูลซือถู และไปมาหาสู่กับปะป๊าของหนู แต่ช่วงเวลาดีๆ มีไม่นานนัก หลังจากที่คุณนายซือถูพบว่าทั้งสองแอบคบกันก็บังคับให้พวกเขาเลิกกัน จากนั้นหม่าม๊าก็ใช้ชีวิตอาศัยเร่ร่อนอยู่ข้างนอก เลี้ยงดูหนูไปด้วยเรียนไปด้วย ฮือออ น่าสงสารจัง หม่าม๊าที่น่าสงสารขนาดนี้ต้องทำงานสามงานต่อวัน และยังต้องหาเงินค่านมผงผ่านการเล่นเกมในตอนกลางคืน! คนอื่นคงเห็นว่ารูปลักษณ์ภายนอกของหม่าม๊านั้นแข็งแกร่ง แต่จริงๆแล้วหม่าม๊าอ่อนแอกว่าคนอื่นมาก สิ่งที่น่าโกรธที่สุดก็คือหม่าม๊ายังถูกตี้ซื่อเทียนกับหุยโหมวอี๋เซี่ยวทั้งคู่กลั่นแกล้งอีก ซูซูเสียใจจัง~ ฮือออ…”
กลุ่มผู้เล่นหญิงต่างคิดในใจว่า เทพธิดาซูหว่านช่างน่าสงสาร!
กลุ่มผู้เล่นชายต่างคิดในใจว่า ไม่น่าล่ะเย่อวี่ถึงไล่ตามจีบภรรยาอย่างสุดชีวิต! นี่คือบทลงโทษของผู้ชายเลวที่ทอดทิ้งภรรยาและลูกสาวของเขา!
ซูรุ่ยตะลึงจนพูดไม่ออก “…”
ซูหว่านกลับเอ่ย “ซูเสี่ยวซูพอได้แล้ว! ถ้ายังพูดจาไร้สาระอีก จะขังลูกไว้ในกรงไม่ให้ออกมาอีก!”
ทุกคนตะลึงงัน “…”
หลังจากนั้น ข่าวลือก็ถูกเล่าต่อกันไปแบบนี้…
ในพิธีแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของเย่อวี่ เพื่อเป็นการแสดงความรักของตนเองที่มีต่อซูหว่าน เย่อวี่ใช้เงินเป็นจำนวนมากสั่งทำสัตว์เลี้ยงเสมือนมนุษย์ที่ร้านค้าของเกม เพื่อเป็นของแทนใจมอบให้ซูหว่าน
สัตว์เลี้ยงเสมือนมนุษย์นั้นไม่เพียงดูคล้ายกับเย่อวี่ แต่ยังฉลาดมาก ไม่เพียงจะเรียกว่า ‘ปะป๊า’ และ ‘หม่าม๊า’ ได้ แถมยังเล่าเรื่องราวด้วยสีหน้ากินใจได้อีกด้วย…
แม้ฝ่ายบริการลูกค้าของ ‘หลินเสิน’ จะอธิบายเอาไว้ว่า สัตว์เลี้ยงที่ ‘สมจริงและชาญฉลาด’ ตัวนั้นเป็นเพียงรางวัลสำหรับซูหว่านหลังจากทำภารกิจที่ซ่อนเร้นอยู่สำเร็จเท่านั้น แต่กลุ่มผู้เล่นเศรษฐีกลับรู้สึกแค่ว่าพวกเขาเป็นฝ่ายถูกดูหมิ่น…
คุณคิดว่าฉันไม่สามารถจ่ายเงินซื้อได้งั้นหรือ
มาๆๆ บอกราคามา พี่ชายจะบอกคุณว่าราศีกรกฎที่แท้จริงเป็นคนยังไง…ก็คือคนมีเงินและเอาแต่ใจยังไงล่ะ!
ดังนั้นกลุ่มคนในห้องผู้พัฒนาการเกม ‘หลิงเสิน’ จึงใช้เวลาทำงานติดต่อกันสามวันไม่พักไม่กินไม่ดื่ม จนกระทั่งสามวันให้หลังก็มีของที่แพงที่สุดในร้านของค้าเกม “หลิงเสิน” ถูกปล่อยออกมา นั่นคือ…สัตว์เลี้ยงที่กำหนดเองได้!
ทันทีที่มันถูกปล่อยออกมาก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้เล่นส่วนใหญ่ในโลก ‘หลิงเสิน’ ซึ่งเกินกว่าที่ผู้ให้บริการเกมคาดการณ์เอาไว้…
ในวันคริสต์มาส เมืองลี่เจียงมีหิมะตกหนักมาก เดิมทีซูรุ่ยวางแผนจะจองร้านอาหารตะวันตกใกล้บ้านเพื่อฉลองเทศกาลกับซูหว่าน แต่ในวันที่อากาศดีแบบนี้ เขาคิดไม่ถึงว่าจะโดนทิ้ง!
เมืองลี่เจียง ร้านกาแฟแห่งหนึ่งใจกลางเมือง…
“เธอแปลกใจที่เห็นฉันไหม”
อวี๋เซี่ยวเซี่ยวกวนกาแฟด้วยมือเดียว เลิกคิ้วเล็กน้อย และมองไปยังซูหว่านอย่างนิ่งเฉย
ซูหว่านเบะปาก และเอ่ยว่า “พูดมาเถอะ มาหาฉันมีเรื่องอะไร”
“ฉันไม่อยากกำจัดเธอให้สิ้นซาก”
อวี๋เซี่ยวเซี่ยวแสดงท่าทางอย่างผู้ชนะ แล้วพูดว่า “ดังนั้นขอแค่เธอเลิกเล่น ‘หลิงเสิน’ ฉันก็จะปล่อยเฟิ่งอู่และคนของหย่งเย่ไป ไม่อย่างนั้น…”
“ไม่อย่างนั้นจะทำไมเหรอ จะเรียกแฟนลูกครึ่งของเธอมาฆ่าพวกเราให้หมดเหรอ”
ซูหว่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดว่า “ใช่แล้ว ผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรนะ ชาร์ลีหรือชาลส์นะ เธอคิดว่าเขาถนัดในด้านธุรกิจ แล้วจะถนัดเล่นเกมเหรอ”
อวี๋เซี่ยวเซี่ยวอึ้งไปสักครู่ เธอไม่รู้ว่าซูหว่านรู้เกี่ยวกับชาลส์ได้ยังไง แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญแล้ว “ชาลส์เขาไม่ใช่นักธุรกิจธรรมดาเขาเป็นเจ้าชายแห่งราชรัฐเฟ็ลปส์ เขาสามารถทำลายตระกูลซือถูทั้งตระกูลได้ แม้กระทั่งการซื้อกิจการของ TX เพื่อซื้อ ‘หลิงเสิน’ ”
เจ้าชายอะไรกัน จะซื้อกิจการของบริษัทเกมอะไรกัน
เธอเนี่ยนะอ่านนิยายมากเกินไปแล้วมั้ง
“เยี่ยเทียนสบายดีไหม”
จู่ๆ ซูหว่านก็ถามขึ้นมาแปลกๆ ประโยคหนึ่ง
เมื่อได้ยินชื่อของเยี่ยเทียน สีหน้าของอวี๋เซี่ยวเซี่ยวก็มืดครึ้มลง “เธอ…เธอมาถามเรื่องพวกนี้ทำไม นี่เป็นเรื่องระหว่างฉันกับพี่เทียน ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ!”
“โอ้ พี่เทียนเหรอ เรียกกันสนิทสนมจัง พี่เทียนของเธอจะรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับชาลส์หรือชาร์ลีผู้ชายคนนั้นหรือเปล่านะ”
พูดพลางซูหว่านก็หยิบรูปถ่ายปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเธออย่างใจเย็น คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งหมดจะเป็นรูปบนเตียงของอวี๋เซี่ยวเซี่ยวและหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อคนนั้น
“ภาพเหล่านี้ถ่ายได้ไม่เลวเลย เธอลองเดาดูว่าถ้าเยี่ยเทียนเห็นแล้วจะว่ายังไง”
“เธอมันน่ารังเกียจ!”
ใบหน้าของอวี๋เซี่ยวเซี่ยวเปลี่ยนไปอย่างมาก รีบแย่งภาพถ่ายด้วยความตื่นตระหนก และฉีกรูปทิ้งทีละภาพ
เธอไม่ผิด เธอไม่เคยทรยศพี่เทียน เธอแค่หมดหนทาง ถึงแม้ว่าเธอจะถูกชาลส์บีบบังคับในตอนแรก แต่ตอนนี้…อย่างน้อยชาลส์ก็เต็มใจช่วยเธอให้เยี่ยเทียนกลับขึ้นบัลลังอีกครั้ง
เธออดทนต่อความอัปยศอดสู และทำทุกอย่างก็เพราะความรัก ก็เพราะเยี่ยเทียน!
“ไม่ใช่ความผิดฉัน ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น ซูหว่าน เธอนั่นแหละที่เป็นคนทำเอง ทำไมเธอถึงเลวแบบนี้!”
อวี๋เซี่ยวเซี่ยวตะโกนออกมาอย่างอดไม่ได้
ซูหว่านมองไปที่เธออย่างเฉยเมย “สมองมันงอกอยู่บนตัวเธอหรือไง เรื่องทั้งหมดก็เป็นเพราะตัวเธอนั่นแหละที่ทำเอง อวี๋เซี่ยวเซี่ยว เธอผลักทุกอย่างไปให้คนอื่นแบบนี้ มันทำให้เธอสามารถทรยศต่อความรู้สึกของเธอได้อย่างสบายใจแล้วงั้นเหรอ ไม่สิ หรือไม่บางทีมันไม่ควรจะเรียกว่าทรยศ คนอย่างเธอไม่คู่ควรกับความรัก!”
คนไร้สมองแบบนี้ แต่กลับ ‘ใครเห็นก็รัก’ กระทั่งนำเรื่องการนอกใจมาเป็นรักแท้ นางเอกที่เอาฮาเร็มของตัวเองมาเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ ซูหว่านเห็นมาเยอะแล้ว
อะไรที่เรียกว่าถูกคนอื่นบีบบังคับ
คนอื่นถือมีดจี้ที่คอของคุณแล้วให้คุณทรยศกับความรักงั้นเหรอ หรือเยี่ยเทียนที่ร้องห่มร้องไห้ขอร้องให้คุณช่วยเธอกลับขึ้นครองบัลลังก์อีกครั้งงั้นเหรอ
ที่เรียกกันว่าคิดไปเอง ก็คือแบบนี้