ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 3 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 3 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
ออกจากโลกของเกมได้สามวันแล้ว หลายวันมานี้ซูหว่านก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เธอกดเงินฝากในธนาคารทั้งหมดออกมา และเริ่มเปิดบัญชีการลงทุนระยะสั้น หลังจากนั้นซูหว่านก็ลาออกจากงานเดิม และส่งอีเมลสมัครงานไปที่สตูดิโอเกมแห่งหนึ่ง
เวลาว่างที่เหลือ ซูหว่านใช้ไปกับการพักผ่อน
ในโลกความเป็นจริงเธอไม่มีเพื่อนมากนัก เพราะทุกคนต่างยุ่งกับงาน จึงมีเวลามาพบปะกันน้อยมาก สือหลี่ฮว่าเหมยเพื่อนในเกมของซูหว่านเห็นเธอไม่ออนเกมมานาน ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว โทรมาหาซูหว่าน ถามถึงความเป็นไปของเธอ
เนื่องจากทั้งสองคนอยู่ในเมืองเดียวกัน ซูหว่านจึงนัดพบเธอที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
ชื่อของสือหลี่ฮว่าเหมยคือสวีฮว่า ตัวจริงของเธอไม่สูงเหมือนกับในเกม แต่เธอดูเป็นคนมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ และมีความเป็นมิตรมากๆ
เนื่องจากทั้งสองคนรู้จักกันในเกม ดังนั้นพวกเธอทั้งสองคนจึงคุ้นเคยที่จะเรียกชื่อของอีกฝ่ายตามชื่อ ID ในเกม
“หว่านเย่ว์ เธอคงไม่เลิกเล่นจริงๆ หรอกใช่ไหม”
หลังจากสั่งบลูเมาท์เทนมาหนึ่งแก้ว สวีฮว่ามองไปยังซูหว่านด้วยความเสียดายเล็กน้อย เธอเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมออนไลน์มากคนหนึ่ง ช่วงสองสามปีมานี้คนที่ทำให้เธอรู้สึกนับถือและเป็นฝ่ายเข้าหาก่อนในเกมมีเพียงแค่ซูหว่านคนเดียวเท่านั้น
ถึงแม้ว่าซูหว่านจะไม่ได้อยู่ในกิลด์ซื่อเทียนแล้ว แต่ว่าไม่กี่ปีมานี้พวกเธอร่วมทุกข์ร่วมสุขในเกมกันมามากมาย ซูหว่านทุ่มเทอะไรบ้างเพื่อซื่อเทียน สวีฮว่ารู้ดี
ในตอนนี้เยี่ยเทียนบอกว่าเขาไม่ต้องการเธอ ก็คือไม่ต้องการเธอแล้ว เรื่องนี้ทำให้สวีฮว่าโกรธเป็นอย่างมากจากก้นบึ้งหัวใจ!
“ฉันไม่มีวันเลิกหรอก ฮว่าเหมย”
ซูหว่านค่อยๆ จิบกาแฟอย่างสบายๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองสวีฮว่าอย่างจริงจัง “สองสามวันมานี้ฉันแค่อยากพักผ่อนอย่างเต็มที่ก็เท่านั้นเอง วันอังคารหน้าหลังจากที่เกมอัปเดต ฉันก็จะกลับไปออนไลน์ต่อ!”
“จริงเหรอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน ดวงตาของสวีฮว่าก็เป็นประกาย ในฐานะหัวหน้ากิลด์ สวีฮว่าก็ตั้งตารอเกี่ยวกับการอัปเดตระบบเกมเวอร์ชันใหม่เหมือนกัน เธอรู้ว่าการปรากฏตัวของรองหัวหน้าคนใหม่จะทำให้คนในกิลด์ลำบากมากขึ้น เพียงเสี้ยววินาทีสวีฮว่าก็อ่านความคิดของซูหว่านออกได้ในทันที “หว่านเย่ว์ เธอทำแบบนี้ดีแล้วเหรอ เอาแบบนี้ไหม! ถ้าเธอออนไลน์แล้วก็มาเข้าร่วมหอเซียวเหยากับฉันไหมล่ะ แล้วฉันจะพาเธอไปเก็บระดับ!”
“ไม่ ไม่เป็นไร”
ซูหว่านปฏิเสธน้ำใจของสวีฮว่าเสียงเนือยๆ “ฮว่าเหมย ตอนนี้กิลด์ของเธอรั้งท้ายไปมาก เธอไม่ต้องลำบากใจแทนฉันแล้วล่ะ ฉันหาคนมาช่วยฉันไว้แล้ว พวกเขาจะช่วยให้ฉันเพิ่มระดับได้”
“เอ๋”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน สวีฮว่าก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย เพราะว่าในเซิร์ฟสี่ ไม่มีใครกล้าต่อกรกับตี้ซื่อเทียนและตู๋หลังเหมือนเธอ
คนที่ซูหว่านพูดถึง เป็นใครกันนะ
ในเวลานี้ ที่อีกแห่งหนึ่งในใจกลางเมือง ในสตูดิโอเกมออนไลน์จวี้เฟิง ชายที่มีใบหน้าเย็นชาคนหนึ่งกำลังเหม่อมองไปที่อีเมลในกล่องจดหมาย…
นี่คือจดหมายสมัครงานฉบับหนึ่ง เป็นจดหมายที่พิเศษมากฉบับหนึ่ง
ผู้ที่ส่งจดหมายมาคือตัวละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเซิร์ฟสี่ ซูเฉิงหว่านเย่ว์
เขาคุ้นเคยกับ ID นี้เป็นอย่างดี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เขาได้ติดต่อกับกิลด์ซื่อเทียนอยู่บ่อยๆ และซูเฉิงหว่านเย่ว์ก็เป็นรองหัวหน้ากิลด์ซื่อเทียนในตอนนั้น
จากรองหัวหน้ากิลด์ที่เกรียงไกร มาถึงตอนนี้เป็นได้แค่หนูข้างถนน อย่าพูดว่าซูเฉิงหว่านเย่ว์เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเลย ต่อให้เป็นผู้ชายอกสามศอกก็เกรงว่าคงไม่สามารถยืนหยัดได้ขนาดนี้
แต่ว่า…
ชายคนนั้นขยับมือเลื่อนเมาส์และลากจดหมายไปไว้หลังสุด จู่ๆ ด้านบนจดหมายก็แนบเลขบัญชีธนาคารพร้อมกับรหัสผ่าน
หลังจากค่อยๆ กรอกรหัสผ่านอย่างระมัดระวัง ชายคนนั้นก็ใช้เบอร์โทรของตัวเองเข้าระบบบัญชีธนาคาร เมื่อได้เห็นยอดเงินข้างใน ชายคนนั้นก็หรี่ตามองโดยไม่รู้ตัว ยัยซูเฉิงหว่านเย่ว์ตัวดี!
รู้จักเธอมานานขนาดนี้ นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่เขาจะต้องมองเธอใหม่แล้วจริงๆ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ตามที่ระบบได้อัปเดตเวอร์ชันใหม่ ในโลกของเกมก็ได้กลับมาคึกคักครื้นเครงเหมือนในช่วงที่เพิ่งเปิดให้ใช้บริการ
หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ซูหว่านก็เข้าสู่เกมอีกครั้ง และเธอก็ยังคงอยู่ในหมู่บ้านมือใหม่
เธอเดินออกจากทางเข้าหมู่บ้านอย่างช่ำชอง มาถึงจุดตีมอนสเตอร์ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน จากระดับ 10 เลื่อนเป็นระดับ 11 โดยไม่จำเป็นต้องใช้ค่าประสบการณ์มาก
หลังจากที่ซูหว่านใช้เวทกระสุนแสงระดับต้นของตนเองโจมตีกระต่ายขาวตัวเล็กน่ารักไปสิบกว่าตัว ทั้งร่างของเธอก็มีประกายแสงสีขาวสายหนึ่งวาบผ่าน ตัวละครเลื่อนระดับแล้ว
หลังจากที่ซูหว่านได้เลื่อนระดับแล้วก็ไม่ได้อยู่ที่เดิม เธอเดินทางต่อไปยังที่ราบหยางเฉวียน นี่คือจุดเลื่อนระดับประมาณ 13 เป็นที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเพิ่มระดับของซูหว่าน
ในเขตแผนที่นี้ไม่ค่อยมีมือใหม่ผ่านมามากนัก ซูหว่านเดินทางไกลคนเดียว ต่อสู้กับมอนสเตอร์อย่างสบายๆ ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ซูหว่านก็ได้เพิ่มระดับไปถึง 14 แล้ว
ระดับ 15 มีเงื่อนไขอยู่อย่างหนึ่ง หากต้องการเพิ่มระดับเป็น 15 จะต้องไปยังเขตชานเมืองหลงเฉิงเพื่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับ 15
เมืองหลงเฉิงคือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกของ ‘หลิงเสิน’ ณ ตอนนี้ ทุกตัวละครที่เพิ่มถึงระดับ 15 จะมีสิทธิ์เข้าเมือง หลังจากที่ลงชื่อของตัวเองไว้ที่จุดแวะพักของเมืองหลงเฉิง ครั้งต่อไปก็สามารถเทเลพอร์ตกลับไปที่เมืองหลงเฉิงได้ทุกที่ทุกเวลา และถ้าหากคุณใช้เครื่องระบุตำแหน่งละก็ จะสามารถเอาจุดเกิดของตัวเองมาไว้ที่ใจกลางเมืองหลงเฉิงได้อีกด้วย
ซูหว่านลังเลอยู่เล็กน้อยตรงทางเข้าด้านนอกเขตชานเมืองหลงเฉิง จากนั้นก็หายตัวเข้าไปตามทางเข้าในแผนที่ และเมื่อลืมตาขึ้นมา สิ่งที่เธอเห็นก็ไม่ใช่พื้นที่ราบผืนหนึ่งอีกต่อไปแล้ว แต่กลับเป็นผืนป่าที่เขียวชอุ่ม
ที่นี่ คือที่ๆ เธอถูกฆ่าในครั้งนั้น
ทุกครั้งเมื่อกลับมามีระดับ 15 ก็มักจะนึกถึงความทรงจำที่ถูกฆ่าอย่างน่าอนาถขึ้นมา สีหน้าของซูหว่านก็กลับมาจริงจังอีกครั้ง
เธอค่อยๆ สังเกตบริเวณรอบๆ อย่างระมัดระวัง โชคดีที่ในเวลานี้ผู้คนส่วนใหญ่กำลังเฝ้าดูความตื่นเต้นอยู่ที่หน้าประตูดันเจี้ยนแห่งใหม่ ในเวลานี้มีเพียงผู้มาใหม่ที่กำลังตีมอนสเตอร์อยู่ที่ชานเมืองหลงเฉิง และชัดเจนว่าผู้มาใหม่เหล่านั้นต่างก็ไม่คุ้นชินกับชื่อ ID ซูเฉิงหว่านเย่ว์
ดูเหมือนว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เธอจะไม่ได้รออย่างเปล่าประโยชน์ ซูหว่านหาจุดที่มอนสเตอร์ชุกชุม และเริ่มเก็บแต้มเลื่อนระดับเพียงลำพัง
การต่อสู้กับมอนสเตอร์เก็บแต้มเพื่อเลื่อนระดับที่จริงเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก อีกทั้งปีศาจต้นไม้และอสูรโคมไฟที่ชานเมืองหลงเฉิงกับพวกมอนสเตอร์ตัวน้อยที่ภาพลักษณ์ของมันภายนอกดูน่ารักในหมู่บ้านมือใหม่ เทียบกันแล้วช่างห่างไกลกันลิบลับ
โชคดีที่ซูหว่านไม่ใช่เด็กผู้หญิงธรรมดาทั่วไป สำหรับมอนสเตอร์ที่น่ากลัวเหล่านี้แล้ว เธอไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ ต่างกับกลุ่มผู้เล่นเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากเธอไม่ไกล มักจะมีเสียงตื่นตระหนกของหญิงสาวดังลอยมาเป็นระยะๆ …
“นี่! ว้ายๆ มันมาแล้ว! น่ากลัวจัง!”
“แงๆ มอนสเตอร์ตัวนี้ตายน่าเกลียดจริงๆ!”
ซูหว่านได้ยินเสียงนั้นก็ทำเพียงแค่ปรายตามองเล็กน้อย เธอเห็นทีมเล็กหน้าใหม่สามคนนั้น คิดไม่ถึงว่าจะเป็นนักเรียนอายุ 15-16 ปี มองปราดเดียวก็รู้แล้ว
ถึงแม้ว่าเสียงของเด็กหญิงจะดังไปหน่อย แต่ซูหว่านก็ไม่รู้สึกรำคาญใจ
เด็กผู้หญิงในวัยนี้ก็ควรจะใสซื่อและน่ารักอยู่แล้ว แต่กับหุยโหมวอีเซี่ยวนี่เห็นอยู่ชัดๆ ว่าอายุยี่สิบกว่าแล้ว แต่มักจะทำหน้าไร้เดียงสา แตกต่างกันมากขนาดนี้…โลกนี้นี่มันช่างยุ่งเหยิงซะจริง เธอเสแสร้งทำเป็นใสซื่อให้ใครดูกันนะ
…………
“เอ๊ะ! ทำไมใต้เท้าของมีวงกลมสีแดงล่ะ” ยังคงเป็นเสียงใสแจ๋วของเด็กผู้หญิงคนนั้น ครั้งนี้น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“นี่เรียกว่าบอสป่า!” เพื่อนในทีมที่อยู่ด้านข้างตอบข้อสงสัยของเธออย่างรวดเร็ว
ความคิดของซูหว่านถูกขัดจังหวะด้วยเสียงบทสนทนาของพวกเขา เมื่อสติเธอกลับมา ก็ได้เห็บอสปีศาจต้นไม้ที่ใต้เท้ามีวงแสงตัวหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ถูกมือใหม่สามคนจับไว้แล้ว
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกับบอสป่า พวกเขาทั้งสามคนต่างมือไม้พันกันไปหมด เพราะระดับไม่สูง อุปกรณ์บนตัวของพวกเขาก็ยังไม่ดี จึงทำให้คนในทีมถูกบอสตีจนเลือดหายไปครึ่งหลอดอย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวอู่ รีบเพิ่มเลือดให้พี่ชายเธอเร็ว!”
จอมเวทชายที่อยู่ข้างๆ ชื่อว่าปิงหั่วสิงเจ่อกำลังยิงลูกศรน้ำแข็งขนาดเล็กล้อมบอสไว้อย่างสุดชีวิต และยังคอยเตือนนักบวชหญิงที่อยู่ข้างๆ คนที่เพิ่งพูดเยอะๆ เมื่อครู่ ชื่อ ID ของเธอคือ อู่เป่าเป้ย
เมื่อได้ยินคำพูดของปิงหั่ว อู่เป่าเป้ยก็รีบโบกคทานักบวชของเธอ ในตอนที่เธอเพิ่งจะใช้ทักษะออกไป จู่ๆ บอสปีศาจต้นไม้ก็ได้ยืดกิ่งแตกก้านออกมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เป็นท่าโจมตีแบบกลุ่ม…
“อ๊ะ! ฉันเสียเลือดแล้ว!”
อู่เป่าเป้ยตกใจกลัวมาก เธอรีบถอยหลังออกไปหลายก้าว เมื่อเธอได้เห็นตัวเองเสียเลือด ก็ได้รีบเพิ่มเลือดให้ตัวเองอีกครั้ง
และในตอนนี้เอง นักรบที่อยู่ด้านข้างก็เหลือเลือดอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าหากว่านักรบผู้กำลังแทงค์ให้อยู่คนนี้โดนโจมตีอีกละก็ อีกสองคนที่เหลือก็ฆ่าตัวตายกลับไปยังเมืองได้เลย
และก็เป็นในตอนนี้เอง ทันใดนั้นบนร่างของนักรบก็อาบไปด้วยแสงสว่าง จากนั้นก็มีตัวเลขลอยออกมาต่ออย่างต่อเนื่องจากบนศีรษะของเขา…
+100 +100 +100
เวทรักษาของนักบวช!
อู่เป่าเป้ยและปิงหั่วสิงเจ่อหันหน้าไปโดยไม่รู้ตัว ก็ได้เห็นหญิงสาวในชุดคลุมของนักบวชยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาด้วยสายตาเฉยเมย “อย่ามองฉัน สู้กับมอนสเตอร์ต่อไป!”
“โอ้ โอ้!”
ปิงหั่วสิงเจ่อหมุนตัวไปสู้กับมอนสเตอร์ต่อ แต่สายตาของอู่เป่าเป้ยกลับวาบประกายวิบวับ จับจ้องไปยังชื่อ ID บนหัวของนักบวชที่เพิ่งจะปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน…
ซูเฉิงหว่านเย่ว์!
กรี๊ดๆ ๆ! กรี๊ดๆ ๆ!
อู่เป่าเป้ยรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถสงบนิ่งได้อีกต่อไปแล้ว!
เป็นซูเฉิงหว่านเย่ว์! เป็นซูเฉิงหว่านเย่ว์ตัวจริง! ใต้เท้าไอดอล! ในที่สุดฉันก็ได้เห็นในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่!