ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 5 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 5 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
ในโลกของ ‘หลิงเสิน’ นอกจากกิลด์ใหญ่ๆ แล้ว ยังมีทีมส่วนตัวเล็กๆ และสตูดิโอเกมออนไลน์อีกมากมาย แต่อย่างไรก็ตามสตูดิโอส่วนใหญ่ต่างก็มักจะเอาผลประโยชน์มาก่อน แย่งบอส ลอบกัด และฆ่าคนแย่งเอาอาวุธมา เรื่องแบบนี้สำหรับพวกเขาแล้วมักจะทำเป็นประจำ พวกใช้โปรแกรมโกงก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยทำ
แต่ว่า เมื่อมาถึงในโลกของ ‘หลิงเสิน’ ในตอนที่เกมออนไลน์เปลี่ยนจากโลกจำลองเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น หลายๆ สตูดิโอต่างต้องดิ้นรนในโลกใบนี้และไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน
ไม่ว่าก่อนหน้านี้คุณจะเคยทำเรื่องที่เลวร้ายมามากมายแค่ไหนล้วนไม่มีใครรู้ หรือแม้แต่คุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้ แต่ที่นี่ทุกคนจะเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงของพวกเขาออกมา อีกทั้งยังไม่สามารถสร้างชื่อเล่นและเปลี่ยน ID ของตัวเองได้ ถ้าหากชื่อเสียงของเขาแย่ เขาก็ไม่สามารถอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตามเรื่องทุกอย่างล้วนมีข้อยกเว้น ท่ามกลางบรรดาสตูดิโอเกมออนไลน์หลายแห่ง ก็มีข้อยกเว้นเอาไว้เช่นกัน พวกเขาก็คือสตูดิโอจวี้เฟิง จะให้เรียกพวกเขาว่าเป็นสตูดิโอเกมแห่งหนึ่งเหมือนที่อื่นๆ ไม่สู้เรียกพวกเขาว่าเป็นทีมเล็กๆ กลุ่มหนึ่งจะดีกว่า
หัวหน้าของทีมเล็กๆ นี้ก็คือจื้อจุนอู๋ซั่ง สมาชิกในทีมแบ่งออกเป็น หนิงเหมิงปู้ซวน เหิงเตาลี่หม่า และหลิงตู้หรานเซา
สตูดิโอของพวกเขาเมื่อก่อนเคยโด่งดังมาจากการฆ่าคน จนตอนนี้มาอยู่ใน ‘หลิงเสิน’ พวกเขาทั้งสี่คนยังคงไม่แยกจากกันไปไหน เหล่าผู้เล่นสันโดษที่ชอบเก็บระดับคนเดียวหรือเหล่าสมาชิกในกิลด์เล็กๆ เหล่านั้นต่างก็ทั้งรักทั้งเกลียดสตูดิโอที่มักจะคอยแย่งบอสและไอเทมระดับสุดยอดนี้ ที่เกลียดก็คือ พฤติกรรมไร้ยางอายของพวกเขา ที่รักก็คือ ท่ามกลางบรรดาจุดเก็บระดับที่มีอยู่มากมายซึ่งกิลด์ใหญ่ๆ ต่างเป็นผู้ครอบครองนั้น มีเพียงแค่สตูดิโอจวี้เฟิงเท่านั้นที่สามารถยึดครองได้ ตราบใดที่คุณมีเงิน พวกเขาก็สามารถพาคุณบินทะยานเพิ่มระดับได้ การเลื่อนไปสู่ระดับ 30 ได้ภายในวันเดียวนั้นไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน!
ซูหว่านเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ เธอถึงตัดสินใจเข้าร่วมสตูดิโอจวี้เฟิง และร่วมมือกับจื้อจุนอู๋ซั่ง
ภายใต้สถานการณ์เช่นในตอนนี้ มีเพียงคนของจวี้เฟิงเท่านั้นที่จะสามารถช่วยให้เธอเลื่อนระดับได้ในช่วงเวลาอันสั้น ขอแค่เธอสามารถกลับไปสู่ระดับ 45 เธอก็สามารถใช้เวทชุบชีวิตได้ อีกทั้งยังสามารถสวมไอเทมระดับสูงได้ แค่นี้ซูหว่านก็จะไม่กลัวพวกคนที่ไล่ล่าเธออีกต่อไปแล้ว
แน่นอนว่า เมื่อก่อนตอนที่ซูหว่านถูกตามล่า ก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่คิดจะจ้างสตูดิโอเกมเพื่อช่วยให้ระดับเธอเพิ่มขึ้น แต่ในเวลานั้นไม่มีใครกล้าช่วยเธอจากการไล่ล่าต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้นสตูดิโอธรรมดาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทั้งสองกิลด์ใหญ่ในเซิร์ฟแห่งนี้ มีเพียงแค่สตูดิโอจวี้เฟิงเท่านั้นที่ไม่เกรงกลัวสองกิลด์ใหญ่
แม้ว่าคนของจวี้เฟิงจะมีไม่กี่คน แต่พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นผู้เล่นระดับหัวกะทิทั้งนั้น พวกเขาทั้ง 4 คนเป็นที่รู้จักกันดีในการจัดอันดับของเซิร์ฟ และหัวหน้าของพวกเขา จื้อจุนอู๋ซั่ง ยังเป็นมือสังหารอันดับหนึ่งในเซิร์ฟ มือสังหารผู้สามารถซ่อนกายสังฆ่าคนได้อย่างไร้ร่องรอยผู้นี้ ข้างกายเขายังมีนักบวชระดับสูงคนหนึ่งคอยสนับสนุนอยู่เคียงข้าง เพื่อที่จะช่วยเหลือเขาได้ตลอดเวลา การผสานงานของพวกเขาเรียกได้ว่าฟ้าไร้ตะเข็บเลยทีเดียว ต่อให้เผชิญหน้ากับตี้ซื่อเทียนที่แข็งแกร่งที่สุดในเซิร์ฟ พวกเขาก็มีพลังที่จะต่อกร ร่วมถึงคนของกิลด์อื่นๆ ด้วย เพราะพวกเขากลัวการสังหารของจื้อจุนอู๋ซั่ง ฉะนั้นหากลดการปะทะได้ พวกเขาต่างก็พยายามจะอยู่กับสตูดิโอจวี้เฟิงอย่างสันติ
แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าสตูดิโอจวี้เฟิงจะไม่มีศัตรูเลย เพียงแต่หัวหน้าของกิลด์ใหญ่ๆ ในแต่ละวันมีเรื่องหลายอย่างให้จัดการเยอะเท่านั้น ไม่มีใครมาทุ่มเทเวลาและเรี่ยวแรงของตัวเองเพื่อสตูดิโอเล็กๆ หรอก ใช่ไหมล่ะ
ด้วยเหตุนี้ จื้อจุนอู๋ซั่งรู้ตัวเองดี ดังนั้นตอนที่เขาเพิ่งได้รับจดหมายสมัครงานของซูหว่าน ในตอนแรกจื้อจุนอู๋ซั่งตั้งใจจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเธอเพิ่มระดับตรงเอกสารแนบท้ายของจดหมายที่เธอส่งมาแล้ว จื้อจุนอู๋ซั่งก็หัวใจหวั่นไหว
เขาตรวจสอบเงินฝากในบัตรธนาคารแล้ว จำนวนยอดเงินคงเหลือข้างในเยอะมากจนเขาตกใจ ในตอนนั้นเขาถึงได้รู้ว่าครั้งนี้ซูเฉิงหว่านเย่ว์มีความตั้งใจมากจริงๆ!
ได้เงินมาแล้วไม่เก็บไว้ ก็ถือว่าโง่เต็มทีแล้วละ!
ดังนั้นตอนนี้จื้อจุนอู๋ซั่งเชิญซูหว่านเข้าร่วมทีม ก็ถือว่าได้ตอบรับตามคำขอของเธอแล้ว ต่อจากนี้ไป เธอเป็นสมาชิกคนหนึ่งของสตูดิโอจวี้เฟิงแล้ว และต่อจากสัปดาห์นี้เป็นต้นไป หน้าที่ของสมาชิกทั้งหมดของสตูดิโอจวี้เฟิงก็คือ ทำให้ระดับของซูหว่านเพิ่มขึ้น!
ด้วยความช่วยเหลือของพวกจื้อจุนอู๋วั่งทั้งสี่คน เส้นทางการเพิ่มระดับของซูหว่านก็เปลี่ยนเป็นราบรื่นอย่างมากแล้ว
ในเวลานี้มีดันเจี้ยนเพิ่งเปิดใหม่ หัวหน้าของกิลด์ใหญ่ทุกคนในเซิร์ฟ ต่างก็ส่งกองทัพไปเปิดดันเจี้ยนเพื่อสำรวจเส้นทางอย่างแข็งขัน ถึงแม้ว่าจะมีคนเห็นเงาของซูหว่าน แต่ก็ไม่มีใครมีเวลาว่างมาตามล่าเธอแล้ว
และในเวลานี้ตี้ซื่อเทียนก็กำลังจู๋จี๋อยู่กับหุยโหมวอีเซี่ยว เขาลืมซูเฉิงหว่านเย่ว์ไปนานแล้ว เสี่ยวเฟิงฉานเย่ว์รองหัวหน้ากิลด์คนใหม่ของกิลด์ซื่อเทียน เดิมทีก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นซูหว่านถูกไล่ฆ่าอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องที่เธอกลับมาเล่นเกมใหม่จึงถูกเสี่ยวเฟิงฉานเย่ว์ระงับไว้ ตี้ซื่อเทียนกลับไม่เหลียวแล…
เพียงพริบตาเดียวก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แล้ว ในตอนนี้ระดับของซูหว่านก็เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 45 แล้ว นี่คือข้อดีของการเข้าเกมทีหลัง ตอนที่เกมเพิ่งเปิดตัวครั้งแรก มอนสเตอร์มีน้อยแต่คนเยอะ ทุกคนต่างพากันเพิ่มระดับไปด้วยและตามล่าหามอนสเตอร์ไปด้วย เพราะมีผู้เล่นหลายคนแย่งมอนสเตอร์ตัวเดียวกัน จึงต้องล้มลุกคลุกคลานกว่าจะไปถึงระดับ 30 แต่ตอนนี้มีทีมระดับสูงพาเธอไปจุดที่มอนสเตอร์ชุกชุมเพื่อเพิ่มระดับ ด้วยประสบการณ์ที่เคยมีจึงทำให้ลื่นไหลเหมือนสายน้ำ เกือบจะเลื่อนไปถึงระดับ 30 ได้ในวันเดียวเลย
แน่นอนว่า หลังจากที่ซูหว่านไปถึงระดับ 45 ความเร็วในการเลื่อนระดับของเธอก็ช้าลงเช่นกัน เธอลองคำนวณสัดส่วนค่าประสบการณ์ที่หลายๆ คนได้รับดูแล้ว ถ้าเธอต้องการเลื่อนระดับกลับไปที่ 50 ให้ได้ในเวลาอันสั้น ก็มีเพียงแค่วิธีเดียวเท่านั้น…นั่นคือไปดันเจี้ยนดินแดนพันปี!
ดินแดนพันปีถือว่าเป็นดันเจี้ยนขนาดเล็กประมาณระดับกลางในเกมตอนนี้ เหมาะกับทีมเล็กๆ ที่ไปพร้อมกันห้าคน แน่นอนว่าหากมีไอเทมที่ดีพอ สามารถไปทีมละสองคนหรือจะไปคนเดียวก็ได้
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาซูหว่านใช้ทักษะหลอมของตัวเองสร้างชุดนักบวชระดับ 40 ให้ตัวเองตัวหนึ่ง ตีบวกอุปกรณ์สวมใส่ทั้งร่างกายถึงระดับ 8 หากเทียบกับคนในระดับเดียวกันแล้วถือว่าเป็นชุดที่ไม่ธรรมดาเลย อีกทั้งตอนนี้ยังสามารถใช้ทักษะหายากที่เธอได้รับมาก่อนหน้านี้ได้หลายทักษะแล้ว เช่น เวทชุบชีวิต เวทป้องกัน และเวทลดกำลัง ล้วนแล้วแต่เป็นทักษะที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะเวทลดกำลังซึ่งเป็นเวทที่ไม่สามารถละเลยได้ในการจัดการบอส
หลังจากบอกความคิดของตัวเองกับจื้อจุน ซูหว่านก็ได้ใช้จุดเทเลพอร์ตข้ามไปยังทางเข้าของดันเจี้ยนดินแดนพันปี โดยส่วนมากผู้เล่นธรรมดาทั่วไประดับจะอยู่ที่ประมาณ 50 ดังนั้นทางเข้าของดันเจี้ยนดินแดนพันปีจึงมีความคึกคักเป็นอย่างมาก
ซูหว่านค่อยๆ เดินเข้าไปในฝูงชนอย่างช้าๆ ในตอนแรกเธอไม่ได้ดึงดูดความสนใจของใครเลย แต่เธอยังไม่ทันจะเดินไปหา NPC ที่ด้านหน้าดันเจี้ยน ก็ได้เจอกับเงาร่างอันคุ้นเคย…
ไป๋หลัง มือสังหารระดับ 60 ผู้อาวุโสของกิลด์หลังหยา
มือสังหารผู้มีใบหน้าซีดขาว เมื่อแย้มรอยยิ้มกลับให้ความรู้สึกไม่ประสงค์ดีผู้นี้ เมื่อตอนที่ซูหว่านเพิ่งเข้าสู่โลกภารกิจ เขาคือมือสังหารที่ไล่ฆ่าเธอคนนั้น
“ซูเฉิงหว่านเย่ว์”
เวลานี้ไป๋หลังก็เห็นร่างของซูหว่านแล้วเช่นกัน เขาถึงกับผงะไปชั่วขณะเผลอมองไปที่ร่างซูหว่านอย่างไม่ได้ตั้งใจ…
ID : ซูเฉิงหว่านเย่ว์
เพศ : หญิง
อาชีพ : นักบวช
ระดับ : 45
กิลด์ : ไม่มี
ค่าความดีเลว : -798
ค่าความดีและความเลวในเกมนี้จะอิงตามจำนวนการฆ่าคน ทุกครั้งที่ฆ่าหนึ่งคนก็จะเสียหนึ่งแต้ม เมื่อการคำนวณเป็นอย่างนี้ การทำให้ค่าความเลวแต่ละแต้มหายไปจำเป็นต้องออนไลน์เป็นเวลา 1 ชั่วโมง และช่วงนี้ซูหว่านมักจะออนไลน์บ่อยๆ เธอไม่ได้ฆ่าใครมานานแล้ว เพราะฉะนั้นค่าความดีเลวจึงค่อยๆ ลดลง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีค่าความเลวสูงถึง 700 ก็เพราะตอนที่เธออยู่ในกิลด์ซื่อเทียน เธอฆ่าคนเยอะยังไงล่ะ!
“ดูเหมือนช่วงนี้เธอดูสบายดีนะ”
ไป๋หลังเลียริมฝีปากของเขาเล็กน้อย และมองไปยังซูหว่านอย่างมุ่งร้าย ในตอนที่เขาเรียกชื่อเธอเมื่อกี้ เสียงของเขาดังมาก จนสายตาของทุกคนตกอยู่ที่ซูหว่าน
เมื่อเผชิญหน้ากับการยั่วยุของไป๋หลังและท่าทียียวนของคนอื่นๆ แววตาของซูหว่านพลันเคร่งขรึมลง “หมาที่ดีไม่ขวางทาง!”
“ซูเฉิงหว่านเย่ว์!”
ไป๋หลังโมโหกับคำพูดของซูหว่าน เขายกแขนขึ้นเพื่อขวางทางเธออีกครั้ง “รนหาที่ตายรึไง เชื่อไหมว่าฉันสามารถเรียกคนเป็นสิบมาที่นี่เพื่อฆ่าเธอให้ตายเหลือแค่ระดับสิบได้เลย!”
“คนของหลังหยาอย่างพวกนายก็ชอบรุมรังแกคนเหรอ แล้วยังชอบรังแกผู้หญิงเป็นพิเศษด้วยใช่ไหม”
ในขณะที่พูด ซูหว่านมองตาไป๋หลังอย่างเหยียดหยาม “นายกล้าสู้กับฉันบนสนามประลองตัวต่อตัวไหมล่ะ”
ถ้าไม่ยอมก็มาสู้กัน นี่คือวิถีของซูหว่าน
“ทำไมจะไม่กล้าล่ะ”
เจ้าไป๋หลังคนนี้ก็หลงตัวเองไร้ที่เปรียบ เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่านเขาก็เปิดห้องที่สนามประลองทันที แล้วส่งคำเชิญไปให้ซูหว่าน
“ถ้าเธอเอาชนะฉันได้ นับตั้งแต่นี้ไปฉันจะไม่ยุ่งกับเธออีก!”
“เหอะ”
เมื่อได้ยินคำพูดไป๋หลัง ซูหว่านก็แค่ยิ้มเยาะทีหนึ่ง เธอกดตกลงทันที ร่างของทั้งสองคนก็ถูกย้ายไปที่ห้องในสนามประลอง
สนามประลองของ ‘หลิงเสิน’ เป็นสถานที่ที่ให้ทุกคนเอาไว้ทดสอบฝีมือแลกเปลี่ยนการเรียนรู้กัน ผู้ที่พ่ายแพ้ที่นี่จะไม่เสียค่าประสบการณ์ และผู้ที่ชนะค่าความเลวก็จะไม่เพิ่มขึ้นจากการฆ่าคน
เมื่อเห็นทั้งสองคนเข้ามาในสนามจริงๆ ผู้ชมที่เหลือต่างก็ไม่อยากพลาด ไม่ต้องชวนก็พากันหลั่งไหลเข้ามาในสนามประลองจนเกือบจะเต็มแล้ว…