ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 3 ระบบพลิกบทนางรอง (3)
กินแกนผลึกเป็นอาหารมาหนึ่งอาทิตย์แล้ว แม้ว่าซูหว่านจะยังไม่ค่อยชินกับร่างใหม่ของตัวเอง แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายในสองสามวันมานี้ การเคลื่อนไหวของเธอพลิ้วไหวกว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมาก พละกำลังก็มากขึ้นหลายเท่า ซูหว่านเดาว่าแค่ฝ่ามือเดียวก็คงตบรถบุบได้!
หึๆ สรุปก็คือเป็นซอมบี้สาวพลังช้างสารไงล่ะ!
ตอนนี้คนในเมือง S ก็น้อยลงทุกที ผู้มีพลังวิเศษส่วนใหญ่จะพาครอบครัวออกจากพื้นที่ที่ถูกยึดครองไปยังศูนย์ช่วยเหลือที่ใกล้เมือง S ที่สุด ซูหว่านไม่มีแกนผลึกเหลืออยู่ในถุงแล้ว เธออยากจะฉวยโอกาสตอนมืดไปยังเขตเมืองเพื่อควักแกนผลึกกลับมาสักหน่อย ควักมาได้สักจำนวนหนึ่ง เธอก็จะได้เวลาเดินทางออกจากที่นี่สักที
ฟ้า รู้ตัวอีกทีก็มืดแล้ว
“แฮ่ แฮ่ แฮ่ แฮ่”
กลางคืนคือเวลาที่ซอมบี้ชอบมากที่สุด มองไปรอบๆ เห็น ‘เหล่าเพื่อนร่วมทาง’ ต่างตื่นเต้นดีใจ ซูหว่านก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร
ซอมบี้เหล่านี้เคยเป็นมนุษย์ตัวเป็นๆ ตอนนี้พวกเขาสูญเสียวิญญาณและสติปัญญา กลายเป็นศพเดินได้ สถานการ์ณแบบนี้ไม่ได้ดีไปกว่าคนที่ดิ้นรนมีชีวิตอยู่ในยุคโลกาวินาศสักเท่าไร
ซูหว่านเดินไปยังเขตเมืองช้าๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหนพวกซอมบี้ระดับล่างที่สัมผัสกลิ่นอายของเธอได้ต่างพากันถอยห่างแต่โดยดี
พวกมันไม่มีความคิด เพียงแต่รับรู้ได้เองว่าสหายผู้นี้แข็งแกร่งและอันตราย
ใช่แล้ว ตอนนี้ซูหว่านได้เป็นซอมบี้ระดับสองแล้ว แม้ว่าเธอจะยังไม่มีพลังพิเศษกลายพันธุ์อะไร แต่ด้วยร่างกายที่พลิ้วไหวขึ้นเรื่อยๆ และกำลังภายในร่างกายกำลังปะทุ ถ้าต้องปะทะกับผู้มีพลังวิเศษระดับหนึ่ง เธอก็ไม่กลัว
เมื่อซูหว่านเดินมาถึงเมือง S ซอมบี้ที่เลื่อนลอยอยู่บนถนนก็หนาตาขึ้นเรื่อยๆ พวกมันไม่ได้กินเลือดเนื้อสดใหม่มานานแล้ว ได้แต่หาซากศพเน่าเปื่อยประทังความหิว
มองดูซอมบี้เหล่านั้นนั่งยองๆ อยู่กับพื้นใช้เล็บยาวๆ ตะกุยเลือดเนื้อซากศพเหวอะหวะ เคี้ยวเขมือบคำใหญ่ ตอนแรกที่เห็นภาพแบบนี้ซูหว่านก็รู้สึกสะอิดสะเอียน แต่ตอนนี้เธอเข้าใจความเลวร้ายของยุคโลกวินาศอย่างลึกซึ้ง ซูหว่านไม่สนใจภาพพวกนี้แล้ว…
นี่คือกฎของธรรมชาติ
ในโลกาวินาศที่มนุษยชาติอยู่ในภาวะเลวร้าย ผู้คนดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด พวกซอมบี้ก็ไม่ต่างกัน
ทุกคนล้วนต่างทำเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป
ความต้องการธรรมดาแบบนี้ ในยุคโลกาวินาศกลับเป็นความปรารถนาอันมีค่าสูงสุด…
อ้อมผ่านถนนสายที่มีซอมบี้อยู่มากที่สุด ซูหว่านมาถึงที่ที่พบกับเด็กผู้ชายคราวก่อนโดยไม่รู้ตัว
“เฮ้!”
เด็กชายสวมเสื้อนักเรียนสกปรกมอมแมมทั้งตัวยังยืนอยู่ที่เดิม สีหน้าซีดเซียว คล้ายกับอดกลั้นความตกใจกลัวภายในใจไว้ เมื่อมองเห็นเงาของซูหว่าน เด็กชายพลันกระโจนออกจากที่ซ่อนตัว พุ่งมาหาเธอ ตะโกนเสียงดัง “เธอเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม ถ้าเข้าใจให้พยักหน้า!”
ความรู้สึกที่ถูกมองเป็นตัวประหลาดนี่มันอะไรกัน
ซูหว่านลังเล ก่อนจะพยักหน้า
เมื่อเห็นซูหว่านพยักหน้า เด็กชายก็มีสีหน้ายินดี เขาลังเลก่อนรวบรวมความกล้าเดินหน้าขึ้นอีกก้าว ยืนต่อหน้าซูหว่าน เขาค่อยๆ คลายมือออก ในมือของเขามีแกนผลึกอยู่เจ็ดแปดเม็ด
“ฉันรอเธออยู่ตลอดเลย ฉันคืนพวกนี้ให้เธอ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เด็กชายก็มองซูหว่านด้วยสายตาสว่างเป็นประกาย สีหน้าร้องขอคำชม
“แฮ่ แฮ่”
ซูหว่านอ้าปาก แต่เปล่งเสียงได้เพียงแบบนี้เท่านั้น
“เธอกำลังพูดขอบคุณอยู่เหรอ”
ได้ฟังเสียงซูหว่าน เด็กชายกลับช่วยเธอแปลให้ตัวเอง “ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนดี เอ่อ…เป็นซอมบี้ดีน่ะ ฉันขอเป็นเพื่อนกับเธอได้ไหม ฉันชื่อเยี่ยนอวี่ เธอชื่ออะไร”
เยี่ยนอวี่…
ได้ยินชื่อนี้ ซูหว่านพลันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีอะไรอย่างนี้!
เด็กชายเบื้องหน้าที่ดูไร้เดียงสาแถมยังขี้ขลาดหน่อยๆ คนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าอนาคตจะเป็นบอสใหญ่จอมวายร้ายทำลายโลกชื่อเสียงเทียบเท่าดอกเตอร์แอลในยุคโลกาวินาศ!
อืม แน่นอน ไม่มีใครเกิดมาเพื่อล้างแค้น ว่ากันว่าจอมวายร้ายใจอำมหิต ล้วนมีอดีตขมขื่นน้ำเน่า สำหรับเยี่ยนอวี่เขากลายเป็นวายร้ายตัวพ่อเพราะถูกบางอย่างกระตุ้นเร้า!
บุคคลสำคัญที่เปลี่ยนแปลงเส้นทางชีวิตเขาชื่อว่าซูเหยียน
ซึ่งก็คือน้องสาวที่พลัดพรากกันไปของซูหว่าน…
เอาเถอะ ช่างเป็นพรหมลิขิตเสียจริง!
ซูหว่านคิดถึงความทรงจำเกี่ยวกับชาติก่อนบนโลกนี้ที่เคยได้รับมา
ในชาติก่อน ซูหว่านหาน้องสาวไม่เจอ ในตอนนั้นเธอกับฉู่เฟยหยางได้สร้างฐานเฟยหยางขึ้นมาด้วยกัน ทุกอย่างของฐานดำเนินไปอย่างถูกต้อง แต่กลับถูกฝูงกองทัพซอมบี้ฝูงหนึ่งลอบโจมตี กองทัพซอมบี้ฝูงนี้ถูกคนควบคุม ผู้ควบคุมอยู่เบื้องหลังมีพลังพิเศษกลายพันธุ์ระดับ S เยี่ยนอวี่นั่นเอง
เยี่ยนอวี่ในตอนนั้นเป็นวัยรุ่นอายุสิบแปดสิบเก้าปี ท่าทางผิดกับตอนนี้อย่างกับคนละคน
เยี่ยนอวี่ที่จิตใจเข้มแข็งทะลุพิกัดนำเหล่าฝูงซอมบี้หมายมุ่งจะตีเมืองจนแตกให้ได้ ในตอนนั้นฉู่เฟยหยางกับซูหว่านลุกขึ้นสู้ แต่เมื่อเห็นซูหว่านเยี่ยนอวี่ก็อึ้งไปทันใด (ตอนนี้รัศมีนางเอกคงจะเริ่มทำงานละสิ)
ที่แท้เยี่ยนอวี่สมัยวัยรุ่นได้พบกับความเปลี่ยนแปลงโลกาวินาศครั้งใหญ่ เขาร่อนเร่อยู่ในพื้นที่ที่ถูกยึดครองเมือง S ตัวคนเดียว ตอนนั้นเขาได้สูญเสียครอบครัวไปเช่นเดียวกับซูเหยียน
ซูเหยียนฉลาดแสนซนแต่เด็ก แม้ว่าจะอยู่วัยเดียวกับเยี่ยนอวี่แต่กลับใจกล้ากว่าเยี่ยนอวี่มาก
เด็กทั้งสองคนโตมาด้วยกัน จะว่าไปพวกเขาก็มีชะตาอายุยืน ไม่นึกว่าพวกเขาจะรอดพ้นจากปากซอมบี้มาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
น่าเสียดายโชคดีอยู่ได้ไม่นาน สามปีให้หลังซูเหยียนได้ปลุกพลังพิเศษสายพฤกษาขึ้นมา ทั้งสองคนล้มลุกคลุกคลานตลอดทางจนไปพบฐานหลงเหยียนฐานที่ใหญ่เป็นอันดับสามของหัวเซี่ยตอนนั้น
เดิมทีทั้งสองคนวางแผนจะปักหลักอยู่ที่ฐานหลงเหยียน ใครจะไปนึกว่าผู้มีพลังพิเศษระดับสี่คนหนึ่งจะแอบชอบสาวงามแรกแย้มอย่างซูเหยียน ใช้กำลังบังคับเอาซูเหยียนมาครอบครอง แต่ตอนนั้นซูเหยียนก็มีใจให้กับเยี่ยนอวี่ เธอถูกข่มขู่ไม่ได้แน่นอนและยังขัดขืนสุดกำลัง หัวหน้าฐานนั้นอับอายจนโกรธเดือดดาลพาคนไปจับตัวเยี่ยนอวี่และซูเหยียนมัดไว้ที่นอกฐาน เขาให้ลูกน้องจับมือเท้าซูเหยียนไว้ ให้เยี่ยนอวี่มองซูเหยียนถูกขืนใจด้วยตาตนเอง ซูเหยียนอับอายจนกัดลิ้นตัวเองตาย แต่คนผู้นั้นกลับไม่ปล่อยเธอไป เขายิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วโยนศพของเธอเข้าไปในฝูงซอมบี้
เหตุการณ์นั้นได้ไปกระตุ้นจิตใจชั่วร้ายที่อยากล้างแค้นโลกภายใต้ความอ่อนแอของเยี่ยนอวี่เข้า พลังพิเศษกลายพันธุ์ของเขาถูกกระตุ้นและกลายเป็นผู้มีพลังพิเศษระดับสาม เยี่ยนอวี่ผู้บ้าดีเดือดฆ่าคนไม่เลือกหน้าแม้แต่พวกฝูงซอมบี้ยังต้องหลีกทางให้เขา แต่เวลานี้หัวใจเขารู้สึกได้เพียงความสิ้นหวังที่ไม่มีวันลืมเลือน
เมื่อเขาพบซูเหยียน เธอก็กลายเป็นเพียงร่างเย็นเฉียบแล้ว แถมร่างยังเหลือเศษซากไม่ครบชิ้น…
ใครบอกว่ายุคโลกาวินาศซอมบี้น่ากลัวที่สุดกัน
สิ่งที่น่ากลัวที่สุด แต่ไหนแต่ไรมาก็คือ จิตใจมนุษย์!
จากวันนั้นมา เยี่ยนอวี่เห็นแต่ความโลภและความน่ารังเกียจของมนุษย์บนโลกใบนี้ ในยุคโลกาวินาศนี้เจ้าพวกสันดานชั่วช้ามีแต่จะขยายเพิ่มมากขึ้นไม่รู้จักจบสิ้น ถ้าเทียบกันแล้วพวกซอมบี้ยังจะสงบและสามัคคีเสียมากกว่า ดังนั้นเยี่ยนอวี่จึงใช้พลังวิญญาณของตนเรียนการบังคับซอมบี้ เขาค่อยๆ สร้างกองทัพซอมบี้ของตัวเอง หลังจากสร้างกองทัพเขาก็กวาดล้างฐานหลงเหยียนเป็นที่แรกไม่ว่าไปที่ไหนก็ราบเป็นหน้ากลอง
สิ่งเหล่านี้สำหรับเยี่ยนอวี่ในตอนนั้นแล้วถือว่ายังไม่พอ ห่างจากคำว่าพออีกมาก
เขาบุกฝ่าเข้าไปทีละฐานๆ จนกระทั่งถึงฐานเฟยหยาง เขาได้พบกับผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายซูเหยียนเป็นอย่างมาก
เธอบอกว่าเธอคือพี่สาวของซูเหยียน…
ในเรื่องราวของชาติที่แล้ว ภายใต้รัศมีนางเอกของร่างเดิมซูหว่าน ในที่สุดเยี่ยนอวี่ก็เลิกล้มความคิดการ ‘ทำลายล้างมนุษยชาติ’ พากองทัพซอมบี้ของตัวเองกลับไปสู่ที่ที่ไม่มีใครจะหาเจอ
แต่ตอนนี้….
ซูหว่านมองเจ้าเด็กน้อยด้วยใบหน้าเปี่ยมหวัง ดวงตาระยิบระยับตรงหน้า…
นี่คือว่าที่น้องเขยฉันเองเหรอเนี่ย
จะว่าไปแล้ว ถ้าสังเกตการณ์กระทำของเยี่ยนอวี่ดีๆ ละก็ อาจจะเจอน้องสาวที่พลัดพรากกันไปได้ก่อน แถมยังหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมของทั้งสองได้อีกด้วย
ไม่พูดไม่ได้ ตอนแรกที่ซูหว่านยื่นมือเข้าไปช่วยเยี่ยนอวี่ และให้แกนผลึกเขาสองเม็ด ไม่ได้มีเจตนาบริสุทธิ์นักหรอก เธออยากจะหยั่งเชิงผูกมิตรผู้มีพลังพิเศษที่ท่าทางไม่เหมือนใครผู้นี้ดู สละแกนผลึกไปสองเม็ดแต่ได้ผู้มีพลังพิเศษแก่กล้ามาเป็นพวกด้วยหนึ่งคน นี่มันกำไรเห็นๆ!
แต่ตอนนี้ รู้แล้วว่าเด็กผู้ชายคนนี้คือเยี่ยนอวี่ บอสใหญ่ในอนาคต ใจซูหว่านที่อยากจะช่วยเขาเพิ่มขึ้นอีกทวีคูณ
จะบอกว่าเป็นเพราะสายสัมพันธ์ครอบครัวกับซูเหยียนก็ไม่ใช่
เพราะที่จริงแล้ว เธอแค่ยืมใช้ร่างเดิมเท่านั้น ไม่ได้มีจิตใจของร่างเดิมเหลืออยู่มากนัก
เพียงแต่ เรื่องของซูเหยียนและเยี่ยนอวี่น่าเสียดายเล็กน้อย หากเป็นไปได้เธอหวังว่าสักวันหนึ่งทั้งสองคนจะมีตอนจบที่มีความสุข อย่างนั้นแล้วเธออาจจะเชื่อในความรักได้อีกครั้ง…