CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

มรรคาสู่สวรรค์ ภาคที่ 2 - ตอนที่ 162 ท่านมาเป็นเจ้าสำนัก

  1. Home
  2. มรรคาสู่สวรรค์ ภาคที่ 2
  3. ตอนที่ 162 ท่านมาเป็นเจ้าสำนัก
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เจ้าสำนัก​เดินทาง​มาชมการ​ประลอง​ด้วย​ตนเอง​ สำนัก​จงโจว​ก็​อย่า​ได้คิด​ที่จะ​ทำ​อะไร​เลย​ แม้แต่​สำนัก​อื่นๆ​ อย่าง​สำนัก​คุ​น​หลุน​ที่​รู้สึก​แคลงใจ​ใน​ผล​การ​ประลอง​แสวง​มรรคา​ก็​ไม่สามารถ​เปลี่ยนแปลง​อะไร​ได้​

ไม่ว่า​จะถามกระถาง​สัมฤทธิ์​หรือ​ชิงกระถาง​สัมฤทธิ์​ สุดท้าย​ยันต์​เซียน​ก็​มีผู้ครอบครอง​ งานเลี้ยง​ฉลอง​ก่อตั้ง​สำนัก​สามหมื่น​ปี​ของ​สำนัก​จงโจว​มาถึงช่วง​สุดท้าย​ของ​งาน​

ใน​คืน​วันนั้น​ไป๋​เจ่าได้​ไป​ยัง​เรือน​ลอกคราบ​เพื่อ​พบ​จิ๋งจิ่ว​ ด้วย​คิด​อยาก​จะคุย​เรื่อง​บางอย่าง​กับ​เขา​ แต่กลับ​ไม่พบ​เขา​ นี่​ทำให้​นาง​รู้สึก​ไม่ค่อย​สบายใจ​

ในขณะที่​นาง​จากไป​อย่าง​เงียบๆ​ เห​อ​จาน​ก็​ออก​ไป​จาก​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​ หลัง​เซ่อ​เซ่อ​พบ​เข้า​ก็​รีบ​ตาม​เขา​ไป​เป็น​ระยะทาง​ห้า​ร้อย​ลี้​ แต่​สุดท้าย​ก็​ไม่สามารถ​พา​เขา​กลับมา​ได้​

ซีอี้​อวิ๋น​เอง​ก็​บอกลา​สำนัก​จงโจว​ เดินทาง​ทั้งวันทั้งคืน​ กลับ​มายัง​เรือน​อี้​เหมา​เพื่อ​เขียนหนังสือ​เล่ม​นั้น​

คน​ที่​ออกมา​ก่อน​ยังมี​อีก​หลาย​คน​ ทุกคน​ล้วนแต่​เป็น​ผู้​แสวง​มรรคา​ที่​เคย​เข้าไป​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ของ​คันฉ่อง​ฟ้ากระจ่าง​ ช่วงเวลา​หลาย​สิบ​ปี​ใน​โลก​ปุถุชน​สลาย​หาย​ไป​กับ​ตา​เหมือน​ดั่ง​ฝุ่น​ควัน​ แต่​ใคร​จะสามารถ​ลืม​ทั้งหมด​ได้​ภายใน​วัน​เดียว​? พวกเขา​จำเป็นต้อง​ใช้เวลา​มาสงบใจ​แห่ง​เต๋า​อีกครั้ง​ หลังจากนั้น​ก็​ได้รับ​สิ่งที่​พวกเขา​ต้องการ​จริงๆ​ จาก​การ​รู้แจ้ง​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ หลังจากนี้​สามปี​พวกเขา​อาจจะ​ได้มา​พบกัน​อีกครั้ง​ที่​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​ แล้วก็​อาจจะ​ไม่ได้​พบกัน​อีก​ ตรงนี้​ก็​ต้อง​ดู​ว่า​สุดท้าย​พวกเขา​จะผ่าน​ด่าน​นี้​ได้​หรือไม่​

รุ่งเช้า​วัน​ที่สอง​ ศิษย์​ชิงซาน​บอกลา​ศิษย์​สำนัก​จงโจว​ภายใต้​การนำ​ของ​ฟางจิ่งเทียน​และ​หนาน​ว่าง​ จากนั้น​ก็​นั่ง​เรือ​กระบี่​ออก​มาจาก​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​

ไป๋​เจ่ายังคง​มองไม่เห็น​จิ๋งจิ่ว​ จึงแอบ​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ เมื่อ​ได้​ฟังฟางจิ่งเทียน​อธิบาย​ เหล่า​ผู้​บำเพ็ญพรต​ที่อยู่​ตรงนั้น​ถึงได้​รู้​ว่า​จิ๋งจิ่ว​ได้​ตาม​เจ้าสำนัก​ชิงซาน​กลับ​ไป​ก่อน​แล้ว​ จึงพา​กัน​วิพากษ์วิจารณ์​ขึ้น​มา ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​นี่​เหมือน​ผู้ชนะ​ใน​การ​ชุมนุม​แสวง​มรรคา​ที่ไหน​กัน​ นี่​มัน​เหมือนกับ​ว่า​ได้​ยันต์​เซียน​แล้ว​หนี​ไป​มากกว่า​ ต่อให้​สำนัก​ชิงซาน​อยาก​จะไว้หน้า​สำนัก​จงโจว​ พวกเขา​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ทำ​ถึงขนาด​นี้​หรือเปล่า​

……

……

ภายใต้​แสงสว่าง​ยามเช้า​ที่​ส่อง​ประกาย​ เมฆสีขาว​ก้อน​หนึ่ง​ได้​ลอย​ออก​มาจาก​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​ เหมือนกับ​ดอกบัว​ที่​ลอย​ไป​บน​ผิวน้ำ​ที่​ใสกระจ่าง​

ที่นี่​ยัง​คงอยู่​ใน​อาณาเขต​ข่าย​พลัง​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​ อาจจะ​เพื่อ​เป็น​การแสดง​ความเคารพ​ต่อ​สำนัก​จงโจว​ เมฆก้อน​นั้น​ไม่ได้​ลอย​ไป​เร็ว​เท่าไร​ สามารถ​มองเห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ นั่น​มิใช่เมฆที่​จับตัว​ขึ้น​มาจาก​ไอ​น้ำ​ หาก​แต่​เป็น​เมฆกระบี่​ที่​ถัก​ทอ​ขึ้น​มาจาก​เจตน์​กระบี่​ที่​แข็งแกร่ง​จำนวน​นับไม่ถ้วน​

หลิ่ว​ฉือ​และ​จิ๋งจิ่ว​ยืน​อยู่​บน​เมฆ ท่าทาง​ทั้งสอง​คน​เหมือนกัน​ สอง​มือ​ไพล่หลัง​ สายตา​มอง​ตรง​ ร่างกาย​ต้อง​แสงอาทิตย์​ยามเช้า​ ดู​แล้ว​ช่างคล้าย​เซียน​

กระบี่​แบก​สวรรค์​ปัก​อยู่​บน​แผ่น​หิน​บน​ยอดเขา​เทียน​กวง​ หาก​ไม่ใช่เรื่องใหญ่​จริงๆ​ ก็​ไม่มีทาง​จะออก​มาจาก​ชิงซาน​ ใน​อดีต​ตอนที่​บุก​ลาน​เมฆ หลิ่ว​ฉือ​จับตัว​ซีหวัง​ซุน​กลับมา​ เขา​ได้​นำ​เอา​กระบี่​แบก​สวรรค์​ไป​ด้วย​ แต่​ครั้งนี้​เขา​ไม่ได้​เอา​มา สาเหตุ​ก็​เป็น​เพราะ​จิ๋งจิ่ว​ ดังนั้น​จึงได้​แต่​ต้อง​ขี่​เมฆกระบี่​กลับ​สำนัก​ ความเร็ว​ย่อม​ต้อง​ช้าหน่อย​

กระบี่​เหล็ก​ของ​จิ๋งจิ่ว​เร็ว​กว่า​เมฆกระบี่​มาก​นัก​ แต่​หลิ่ว​ฉือ​รังเกียจ​ว่า​มัน​สกปรก​เกินไป​

อย่างไร​เสีย​ก็​ไม่มีเรื่อง​แล้ว​ ขอ​เพียง​ออก​มาจาก​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​ก็​พอ​ เมฆกระบี่​ลอย​ไป​แบบนี้​ บางครั้ง​พวกเขา​ก็​จะคุย​เล่น​กัน​ขึ้น​มาบ้าง​เล็กน้อย​

……

……

“สำนัก​กระบี่​ซีไห่​มิได้​แข็งแกร่ง​อีกต่อไป​ ตาแก่​ที่​เกาะ​หมอก​ก็​ไม่มีทาง​ออกมา​ พวก​เรื่อง​การวางแผน​อะไร​แบบนี้​ เจ้าน่าจะ​เรียนรู้​จาก​อาจารย์​ของ​เจ้าเอาไว้​หน่อย​นะ​”

“ผู้​ที่อยู่​ใน​ที่ราบ​หิมะ​คลอดลูก​ออกมา​เป็น​อะไร​? หาก​ท่าน​ไม่รู้​ แล้ว​ใคร​จะไป​รู้​ได้​? ข้า​ไม่รู้​เสียหน่อย​ว่า​อาจารย์​ไป​ซ่อนตัว​อยู่​ที่ไหน​”

“จาก​นิสัย​ของ​เขา​แล้ว​ ไม่มีทาง​ที่จะ​ซ่อนตัว​ไป​ได้​ตลอด​แน่​ รอ​ต่อไป​ก็​พอ​”

“ใน​เมื่อ​นี่​เป็น​แผน​ของ​สำนัก​จงโจว​ เหตุใด​กิเลน​ฉีหลิน​ยัง​ตาม​พวกเรา​มาอีก​?”

“ดู​แล้ว​คงจะ​ไม่ยอม​ที่​ยันต์​เซียน​ถูก​ชิงมา เพราะ​สุดท้าย​แล้ว​มัน​ก็​ยัง​เป็น​ของ​วิเศษ​อยู่​”

“มัน​ยัง​แค้น​ที่​ชางหลง​ถูก​ท่าน​ฆ่า คิด​อยาก​จะฆ่าท่าน​เพื่อ​ล้างแค้น​”

ใน​ท้องฟ้า​ที่​ถูก​แสงอาทิตย์​ยาม​เย็น​ย้อม​จน​เป็น​สีแดง​มีพลัง​จางๆ สาย​หนึ่ง​แผ่​กระจาย​ออกมา​

พลัง​สาย​นั้น​ทั้ง​เก่าแก่​และ​ศักดิ์สิทธิ์​ ทรง​อา​ณุภาพ​เป็นอย่างมาก​ เห็นได้ชัด​ว่า​พยายาม​จะปิดบัง​เอาไว้​ แต่ไหน​เลย​จะปิดบัง​ทั้งสอง​คน​ได้​

พวกเขา​ไม่จำเป็นต้อง​มอง​ก็​รู้​ว่า​ผู้​ที่มา​คือ​ใคร​

หลิ่ว​ฉือ​ย่อม​ต้อง​รู้​ว่า​ผู้​ที่​หลบหนี​ออก​มาจาก​คุก​สะกด​มาร​ผู้​นั้น​คือ​จิ๋งจิ่ว​

แล้ว​เขา​ก็​ย่อม​ต้อง​คิด​คำนวณ​ได้​ว่า​ผู้อาวุโส​ของ​ชิงซาน​ที่​ช่วย​กั้วตง​มาจาก​ใน​ทะเล​ตะวันตก​คน​นั้น​ก็​คือ​จิ๋งจิ่ว​อีก​เช่นกัน​

เขา​รู้ดี​ว่า​กระบี่​ของ​เจี้ยน​ซีไหล​นั้น​แข็งแกร่ง​เพียงใด​ กั้วตง​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ จิ๋งจิ่ว​ย่อม​ต้อง​ชิงเอา​ยันต์​เซียน​มาให้ได้​

ดังนั้น​เขา​จึงให้​หลิ่ว​สือซุ่ย​เข้า​ร่วมงาน​ชุมนุม​แสวง​มรรคา​ใน​ฐานะ​ศิษย์​สำนัก​อู๋เอิน​เห​มิน​ จากนั้น​ก็​ไป​นั่ง​ดู​การ​ประลอง​ด้วยตัวเอง​

สำนัก​ชิงซาน​ฝึก​กระบี่​ สิ่งที่​เน้นหนัก​คือ​สรรพสิ่ง​นั้น​เกิดขึ้น​แค่​เพียง​ชั่ว​ความคิด​ สิ่งที่​แสวงหา​คือ​ปลิด​ชีพ​ใน​กระบี่​เดียว​ ก่อนที่จะ​ลงมือ​ต้อง​คำนวณ​ทุกอย่าง​ให้​เสร็จ​เรียบร้อย​

การ​จะคิด​คำนวณ​ทุก​สรรพสิ่ง​บน​โลก​นั้น​ค่อนข้าง​ยาก​ แต่​ถ้าอยาก​จะรู้​ว่า​ศิษย์​สำนัก​เดียวกัน​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​นั้น​ค่อนข้าง​เป็นเรื่อง​ง่าย​ ดังนั้น​แต่ไหนแต่ไร​มาศิษย์​สำนัก​ชิงซาน​จึงร่วมมือ​กัน​โดย​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​มาก​

ใน​อดีต​เจ้าล่า​เยวี่ย​กับ​หลิ่ว​สือซุ่ย​ไม่มีความเกี่ยวข้อง​อะไร​ต่อกัน​ แต่​ก็​ยัง​อาศัย​แผนการ​ของ​ถงเหยียน​ร่วมมือ​กัน​สังหาร​ลั่ว​ไหว​หนาน​ได้​ นั่น​ก็​คือ​ความสัมพันธ์​เช่นนี้​

“จักรพรรดิ​แห่ง​หมิง​เป็น​คน​ฆ่าชางหลง​ ไม่เกี่ยวกับ​ข้า​”

จิ๋งจิ่ว​อธิบาย​

สำหรับ​เขา​แล้ว​นี่​เป็นเรื่อง​ที่​พบเห็น​ได้​น้อย​มาก​

เขา​แอบ​เข้าไป​พบ​จักรพรรดิ​แห่ง​หมิง​ใน​คุก​สะกด​มาร​จน​เกิด​ความวุ่นวาย​ขนาด​นั้น​ ซึ่งนั่น​อาจจะ​นำ​ปัญหา​ยุ่งยาก​มากมาย​มาสู่ชิงซาน​ได้​

หลิ่ว​ฉือ​อาวุโส​น้อยกว่า​ แต่​ถึงอย่างไร​เขา​ก็​เป็น​เจ้าสำนัก​

คำพูด​นี้​ดู​คล้าย​เป็น​คำอธิบาย​มากกว่า​

หลิ่ว​ฉือ​ถอนใจ​ออกมา​ เขา​กล่าวว่า​ “อย่างนั้น​ก็​ต้อง​ดู​ว่า​ฉีหลิน​จะเชื่อ​หรือเปล่า​”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “หลังจากนี้​ข้า​ไม่ไป​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​แล้ว​ จะเชื่อ​ไม่เชื่อ​ก็แล้วแต่​มัน​”

เมฆกระบี่​ลอย​ออก​มาจาก​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​แล้ว​ มาถึงบน​ท้องฟ้า​เหนือ​จังหวัด​อวี้จวิ้น​

พลัง​ของ​ฉีหลิน​หยุด​อยู่​ตรง​ริม​ข่าย​พลัง​อวิ๋นเมิ่ง​ มิได้​ตาม​ออกมา​อีก​

หาก​มัน​ยัง​ตาม​หลิ่ว​ฉือ​ไป​อีก​ เช่นนั้น​มัน​อาจจะ​ถูก​มองว่า​ไม่เคารพ​ต่อ​สำนัก​ชิงซาน​หรือไม่​ก็​เป็น​การข่มขู่​ได้​

หาก​สำนัก​ชิงซาน​ซ่อน​การป้องกัน​เอาไว้​ที่​หมู่​เขา​ด้านล่าง​ แล้ว​ทำการ​โจมตีกลับ​อย่าง​ฉับพลัน​ เช่นนั้น​มัน​จะต้อง​เป็น​ฝ่าย​เสียเปรียบ​อย่าง​แน่นอน​

……

……

ฉีหลิน​อยาก​จะสังหาร​จิ๋งจิ่ว​ มัน​ย่อม​ต้อง​ไม่ยอม​แน่นอน​ มัน​คงจะ​ปล่อยข่าว​ที่​เขา​ได้​ยันต์​เซียน​ออก​ไป​ แต่​อันที่จริง​แล้ว​ข่าว​นี้​ก็​ไม่มีทาง​ที่จะ​ปิดบัง​เอาไว้​ได้​นาน​เช่นกัน​ เชื่อ​ว่า​ใน​ระหว่างทาง​ที่​กลับ​ชิงซาน​อาจจะ​ต้อง​เจอ​กับ​ปัญหา​อะไร​บางอย่าง​

จิ๋งจิ่ว​ย่อม​ไม่หวาดกลัว​ การ​เดินทาง​พร้อมกับ​หลิ่ว​ฉือ​นั้น​ย่อม​ต้อง​ดีกว่า​การ​เดินทาง​ไป​กับ​ไป๋​กุ่ย​มาก​ นอกจาก​ใน​ส่วนลึก​ของ​ที่ราบ​หิมะ​แล้ว​ ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน​นี้​เขา​สามารถ​เดินทาง​ไป​ได้​ทั้งหมด​

เขา​เพียงแต่​คิด​ว่า​เมื่อ​ถึงตอนนั้น​ หาก​พา​กัน​กรู​เข้ามา​จริงๆ​ คงจะ​ยุ่งยาก​ไป​หน่อย​ จึงยื่น​นิ้วชี้​มือขวา​ไป​เจาะรู​เล็ก​ๆ บน​เจตน์​กระบี่​ไร้​รูปลักษณ์​ที่​ห่อหุ้ม​เป็น​ชั้น​บาง​ๆ บน​กำปั้น​ข้าง​ซ้าย​ขึ้น​มารู​หนึ่ง​

พลัง​เซียน​ที่​เบาบาง​สาย​หนึ่ง​ไหล​ออก​มาจาก​รู​เล็ก​ๆ จากนั้น​โปรยปราย​ลง​ไป​ยัง​พื้น​ด้านล่าง​

รอบ​ๆ จังหวัด​อวี้จวิ้น​มีภูเขา​มากมาย​ ยอด​เขาสูงชัน​ ป่าไม้​หนา​ทึบ​ ยิ่งไปกว่านั้น​ยังมี​รอยแตก​ของ​เส้น​ปราณ​แผ่นดิน​อีก​เป็น​จำนวนมาก​ แอบซ่อน​ปีศาจ​และ​ยอด​ฝีมือ​ของ​พรรค​มาร​เอาไว้​มากมาย​ แล้วก็​อาจจะ​มีปีศาจ​ที่​หลงเหลือ​มาจาก​อดีตกาล​ด้วย​

ปีศาจ​เหล่านี้​ย่อม​ไม่ร้ายกาจ​เท่า​กิเลน​ แต่​หาก​มีจำนวนมาก​ก็​น่ากลัว​เหมือนกัน​

พลัง​เซียน​โปรยปราย​ลง​ไป​ยัง​โลก​มนุษย์​เหมือน​ดั่ง​หยาดฝน​ ภายใน​หมู่​เขา​เกิด​ความเคลื่อนไหว​เป็น​จำนวนมาก​ พลัง​ที่​แข็งแกร่ง​อย่าง​น้อย​หลาย​ร้อย​สาย​ค่อยๆ​ โผล่​ขึ้น​มา ปีศาจ​และ​เหล่า​ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​มอง​ขึ้น​มาบน​ท้องฟ้า​ ถึงแม้จะรู้​ว่า​เมฆกระบี่​ที่​ลอย​อยู่​ใน​ท้องฟ้า​นั้น​จะต้อง​ไม่ธรรมดา​อย่าง​แน่นอน​ แต่​พวก​มัน​ก็​ยัง​อด​เกิด​ความละโมบ​และ​ความหิว​กระหาย​ขึ้น​มาไม่ได้​

หลิ่ว​ฉือ​รู้​ว่า​กิเลน​ฉีหลิน​ที่อยู่​ด้านหลัง​กำลัง​มอง​มาทาง​นี้​อยู่​ เขา​จึงยื่นมือ​ไป​ผนึก​มือซ้าย​ของ​จิ๋งจิ่ว​เอาไว้​อีกครั้ง​ จากนั้น​กระทืบเท้า​ลง​ไป​ เมฆกระบี่​กระจาย​ตัว​ จากนั้น​ก้ม​มอง​ลง​ไป​ยัง​พื้น​เบื้องล่าง​

สายตา​เขา​กวาด​มอง​ไป​ยัง​หมู่​เขา​ด้านล่าง​ เป็น​เหมือน​ดั่ง​กระบี่​ยักษ์​ที่​แฝงเอาไว้​ด้วย​แรงกดดัน​อัน​มหาศาล​ จากนั้น​ส่งเสียง​อืม​ออกมา​เสียง​หนึ่ง​

เสียง​อืม​นี้​เย็นชา​ โหดเหี้ยม​ ดูแคลน​ ลากเสียง​ยาว​เล็กน้อย​ สุดท้าย​ตวัด​หางเสียง​ขึ้นไป​ แสดง​ความ​ดูถูก​และ​การ​ท้าทาย​ออกมา​อย่าง​ชัดเจน​

คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​แผ่นดิน​เฉาเทียน​อยู่​ที่นี่​ เหล่า​ปีศาจ​ไหน​เลย​ยัง​จะกล้า​รั้ง​อยู่​อีก​ พวก​มัน​ต่าง​คุกเข่า​ยอม​ศิโรราบ​ ไม่กล้า​เป็น​ศัตรู​ ปีศาจ​บาง​ตัว​รีบ​มุด​ลง​ไป​ใต้ดิน​ หลบหนี​ไป​ตาม​เส้น​ปราณ​แผ่นดิน​ด้วย​กลัว​จะถูก​กระบี่​ฟัน​ตาย​

เมฆกระบี่​กลับมา​รวมตัวกัน​ใหม่​ แอบซ่อน​ร่าง​ของ​ทั้งสอง​คน​เอาไว้​ใน​ท้องฟ้า​

จิ๋งจิ่ว​คิดถึง​ภาพ​จัว​หรู​ซุ่ย​ยืน​พิง​ผนัง​อย่าง​เกียจคร้าน​ ใน​ใจรู้สึก​เสียดาย​ จากนั้น​กล่าวว่า​ “ศิษย์​ของ​เจ้าคน​นั้น​ไม่เลว​ เพียงแต่​นับวัน​จะยิ่ง​เหมือน​เจ้าเข้าไป​ทุกที​”

หลิ่ว​ฉือ​กล่าว​อย่าง​เฉยชา​ “ศิษย์​เหมือน​อาจารย์​มีปัญหา​ตรงไหน​?”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “เจ้าเคยชิน​กับ​การ​เตรียมการ​ทุกอย่าง​ให้​พร้อม​ค่อย​ลงมือ​ เหมือน​อย่าง​ใน​อดีต​ แบบ​นั้น​ไม่ได้​ ก็​เหมือนกับ​วิถี​ของ​จงโจว​ มัน​ไม่มีความ​เด็ดขาด​”

คำวิจารณ์​นี้​ตรงไปตรงมา​ โดย​เฉพาะที่​บอ​กว่า​เหมือน​วิถี​ของ​จงโจว​ สำหรับ​ศิษย์​ชิงซาน​แล้ว​นี่​คือ​เรื่อง​ที่​ไม่อาจ​ยอม​รับได้​

หลิ่ว​ฉือ​กระแทกเสียง​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ “อย่างนั้น​ท่าน​มาเป็น​เจ้าสำนัก​?”

จิ๋งจิ่ว​กล่าว​อย่าง​ไม่ลังเล​ “ไม่เอา​”

หลิ่ว​ฉือ​กล่าวว่า​ “อย่างนั้น​ท่าน​ก็​อย่า​พูดมาก​”

ท้องฟ้า​พลัน​เงียบสงบ​ขึ้น​มา

ไกล​ออก​ไป​มีเสียงร้อง​ของ​ห่าน​ป่า​ดัง​ขึ้น​

……

……

เดินทาง​ผ่าน​อ​วี้จวิ้น​ แล้วก็​ผ่าน​ฮว่า​หยาง​ แม่น้ำ​จั๋ว​ที​่ัตัดผ่าน​มณฑล​หนาน​เห​อ​เป็น​เหมือน​ดั่ง​เส้น​โคลน​ ชิงซาน​อยู่​เบื้องหน้า​

แผ่นดิน​พลัน​ยกตัว​สูงขึ้น​ ยอดเขา​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ผุด​ขึ้น​มา ไอ​หมอก​ไหล​ทะลัก​ออกจาก​หมู่​ยอดเขา​ เมื่อ​มาถึงหน้า​ภูเขา​ก็​กลายเป็น​ก้อน​เมฆ กลืน​กินเมือง​ทั้งเมือง​เอาไว้​

เมื่อ​มอง​จาก​บน​ฟ้า เมฆหมอก​เหล่านั้น​ดู​คล้าย​แถบ​ผ้า​สีขาว​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ พลิ้วไหว​อยู่​ระหว่าง​หมู่​ยอดเขา​เขียวขจี​ ดู​งดงาม​เป็น​ยิ่งนัก​

หลังจาก​ไป๋​เจ่ากลับมา​ฝึก​วิชา​อีกครั้ง​ ตรง​แขน​ของ​นาง​ก็​มีแถบ​ผ้า​สีขาว​ห้อย​ตก​ลงมา​ เวลา​ที่​พุ่ง​ทะยาน​ออก​ไปดู​ช่างอ่อนช้อย​ คล้าย​ดั่ง​เซียน​จริงๆ​ อย่างไร​อย่างนั้น​

องค์​หญิง​แคว้น​ฉิน​ก็​เหมือน​จะแต่งกาย​เช่นนี้​

จิ๋งจิ่ว​พลัน​คิด​ขึ้น​มาได้​ว่า​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ก็​เหมือน​จะมีหม้อไฟ​อยู่​เช่นกัน​ แต่กลับ​ไม่รู้​ว่า​รสชาติ​เป็น​อย่างนั้น​ จึงกล่าวว่า​ “ข้า​จะลง​ไป​กิน​หม้อไฟ​”

หลิ่ว​ฉือ​เลิกคิ้ว​พูด​อะไร​ไม่ออก​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​ใน​มือ​ท่าน​กำ​ยันต์​เซียน​เอาไว้​อยู่​ ชิงซาน​อยู่​ตรงหน้า​ แต่​ไม่ยอม​รีบ​กลับ​ไป​ กลับ​ยัง​จะกิน​หม้อไฟ​อีก​?

ใน​เมือ​งอ​วิ๋น​จี๋มีเหลา​สุรา​อยู่​หลาย​แห่ง​ แต่​เหลา​สุรา​ที่​มีห้องส่วนตัว​แล้ว​ขาย​หม้อไฟ​ด้วย​กลับ​มีอยู่​ไม่มาก​ ดังนั้น​จิ๋งจิ่ว​จึงยังคง​พา​หลิ่ว​ฉือ​กลับ​ไป​ร้าน​เดิม​ร้าน​นั้น​

เถ้าแก่​ของ​เหลา​สุรา​ได้​ป่วย​ตาย​ไป​แล้ว​ ตอนนี้​ผู้​ที่​รับ​ช่วงต่อ​คือ​บุตรชาย​คน​ที่สาม​ การ​ตกแต่งภายใน​เหลา​สุรา​เอง​ก็​ดู​เก่า​เป็นอย่างมาก​เช่นกัน​ จึงได้​ชื่อว่า​เป็น​ร้าน​เก่าแก่​ที่​มีชื่อเสียง​

ความแตกต่าง​ระหว่าง​ผู้​บำเพ็ญพรต​และ​คนธรรมดา​ก็​คือ​ความรู้สึก​สิ้นหวัง​และ​เสียใจ​ที่​เกิดขึ้น​ระหว่าง​การ​ไหล​ไป​ของ​เวลา​

หม้อ​ยวน​ยาง​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ ผัก​และ​หัวไชเท้า​ที่​เรียบง่าย​วาง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ เถ้าแก่​หยิบ​เอา​ใบไม้​ทองคำ​ไป​เดินลง​ไป​จาก​เหลา​สุรา​

เขา​คิดถึง​เรื่องราว​ที่​พ่อ​ของ​เขา​เคย​เล่า​ให้​ฟังหลาย​รอบ​เหล่านั้น​ หอบ​หายใจ​หนัก​ๆ อยู่​สิบ​กว่า​ครั้ง​ถึงจะค่อยๆ​ ได้สติ​ขึ้น​มา จากนั้น​โบกมือ​เพื่อ​บอก​ให้​ผู้ดูแล​ปิดประตู​ ไม่รับแขก​อีก​

ที่แท้​อาจารย์​เซียน​ชื่นชอบ​กิน​หม้อไฟ​ของ​ร้าน​ตัวเอง​จริงๆ​

……

……

น้ำแกง​สีแดง​ ยังคง​เดือด​พล่าน​ น้ำแกง​สีขาว​ใกล้​จะเหือดแห้ง​

จิ๋งจิ่ว​มิได้​ขยับ​ตะเกียบ​ หลิ่ว​ฉือ​มิได้​รู้สึก​แปลกใจ​ ใน​อดีต​ตอนที่​กิน​หม้อไฟ​อยู่​บน​ยอดเขา​ซั่งเต๋อ​ก็​เป็น​เช่นนี้​เหมือนกัน​ — เมื่อ​บำเพ็ญ​เพียร​นาน​วัน​ขึ้น​ หม้อไฟ​ที่​จิ๋งจิ่ว​กิน​ก็​ยิ่ง​จืด​ขึ้น​เรื่อยๆ​ จนกระทั่ง​ไม่กิน​อีก​ มีเพียง​ตอน​ฤดูหนาว​ หยวน​ฉีจิงจะใช้อาหารสด​ใหม่​จาก​จังหวัด​เล่อ​หลา​งมาเป็น​วัตถุดิบ​ใน​การ​กิน​หม้อไฟ​ เขา​ถึงจะขยับ​ตะเกียบ​บ้าง​เล็กน้อย​

น้ำแกง​ใกล้​จะแห้ง​แล้ว​ หม้อไฟ​เอง​ก็​ใกล้​จะกิน​เสร็จ​แล้ว​ ถึงเวลา​ที่​ต้อง​คุย​ธุระ​แล้ว​

“ตอนนั้น​เขา​ใช้ร่าง​ของ​ศิษย์​เผ่า​หมิง​หนี​ออก​มาจาก​คุก​กระบี่​ แล้ว​ถูก​เจ้าล่า​เยวี่ย​สกัด​เอาไว้​ได้​ที่นี่​ จากนั้น​ก็​ถูก​ศิษย์​แซ่เมิ่งคน​หนึ่ง​สังหาร​ แต่​ความจริง​แล้ว​นั่น​เป็น​การฉวยโอกาส​หลบหนี​ออก​ไป​”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “ศิษย์​แซ่เมิ่งผู้​นั้น​ถูก​ขัง​อยู่​บน​ยอดเขา​ซั่งเต๋อ​มานาน​ขนาด​นี้​ สืบ​ได้​อะไร​บ้าง​แล้ว​หรือยัง​?”

หลิ่ว​ฉือ​กล่าวว่า​ “เขา​บอ​กว่า​ได้รับ​คำสั่ง​มาจาก​ศิษย์​น้อง​ฟาง”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “เจ้าคิด​อย่างไร​?”

หลิ่ว​ฉือ​กล่าวว่า​ “คอย​ดู​ต่อไป​ก่อน​”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “ก่อนหน้านี้​ข้า​เคย​บอก​แล้ว​ เจ้าเคยชิน​กับ​การ​ต้อง​เตรียม​ทุกอย่าง​ให้​พร้อม​แล้ว​ค่อย​ลงมือ​ แบบนี้​ไม่ได้​”

หลิ่ว​ฉือ​กล่าวว่า​ “ถ้าท่าน​ทำได้​ท่าน​ก็​มา ตำแหน่ง​เจ้าสำนัก​ข้า​ยก​ให้​ท่าน​”

จิ๋งจิ่ว​นิ่งเงียบ​

หลิ่ว​ฉือ​กล่าวว่า​ “อย่างนั้น​ท่าน​ก็​อย่า​คิดมาก​”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “เจ้าไม่คิด​จะทำ​อะไร​”

“ใน​เรื่องราว​นี้​ พวกเรา​สามคน​คือ​ตัว​ร้าย​ที่​รังแก​อาจารย์​ทรยศ​สำนัก​ ศิษย์​น้อง​ฟางอยาก​จะฆ่าพวกเรา​เพื่อ​ล้างแค้น​ให้​อาจารย์​ มัน​ผิด​ตรงไหน​?”

หลิ่ว​ฉือ​กล่าว​อย่าง​เฉยชา​ว่า​ “เมื่อ​เจอ​กับ​เรื่อง​ที่​มีเหตุผล​เช่นนี้​ ข้า​ยัง​จะทำ​อะไร​ได้​อีก​?”

“เจ้าสามารถ​ทำได้​หลาย​เรื่อง​ อย่างเช่น​เมื่อ​สืบ​พบ​ว่า​ไม้วิญญาณ​อัสนี​หลุด​ออก​มาจาก​ยอดเขา​ปี้​หู​ เจ้าก็​ฆ่าเห​ลยพั่วอวิ๋น​ปิดปาก​ หรือ​อย่างเช่น​ต่อให้​มีไม้วิญญาณ​อัสนี​ เขา​ก็​ไม่มีทาง​คลาย​ข่าย​พลัง​กระบี่​ของ​ข้า​ได้​ มีเพียง​เจ้าที่​ทำได้​”

จิ๋งจิ่ว​ยก​มือซ้าย​ขึ้น​มา มองดู​เจตน์​กระบี่​มีห่อหุ้ม​อยู่​ด้านบน​เป็นชั้นๆ​ ก่อน​กล่าวถาม​ด้วย​น้ำเสียง​เรียบ​เฉย​ว่า​ “เจ้าเป็น​คน​ปล่อย​เขา​?”

หม้อไฟ​ใกล้​จะแห้ง​แล้ว​จริงๆ​ น้ำแกง​สีขาว​กลาย​เป็นควัน​จน​หมด​ อบอวล​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ห้อง​ จากนั้น​ไหล​ท่วม​ไป​ทั้ง​เหลา​สุรา​

บน​ถนน​พลัน​มีเสียงอุทาน​ตกใจ​ดัง​ขึ้น​มา ทุกที่​ภายใน​เมือ​งอ​วิ๋น​จี๋เต็มไปด้วย​เมฆหมอก​ เหล่า​นักท่องเที่ยว​บน​ถนน​ต่าง​พา​กัน​ตื่นเต้น​ แต่​ชาวบ้าน​ที่อยู่​ที่นี่​มาชั่วชีวิต​กลับ​รู้สึก​หงุดหงิด​รำคาญ​ เพราะ​เมฆหมอก​บดบัง​สายตา​ ทำให้​มอง​ถนนหนทาง​ไม่ชัด​ สะดุด​ล้ม​ชน​กัน​ได้​ง่าย​ แล้วก็​ยัง​มองเห็น​ภายใน​ซึ้งนึ่ง​ไม่ชัดเจน​ ทำให้​ไม่สามารถ​รู้​ได้​ว่า​ซาลาเปา​สุก​แล้ว​หรือยัง​

จุดยืน​ไม่เหมือนกัน​ ย่อม​ต้อง​มีความรู้สึก​ไม่เหมือนกัน​

ทั้ง​เซียน​และ​คนธรรมดา​ล้วนแต่​เป็น​เช่นนี้​

หลิ่ว​ฉือ​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่​ ก่อน​จะกล่าว​ขึ้น​มาว่า​ “ท่าน​มาเป็น​เจ้าสำนัก​?”

จิ๋งจิ่ว​ยังคง​กล่าว​อย่าง​ไม่ลังเล​ “ไม่เอา​”

“อย่างนั้น​ท่าน​จะถามมากมาย​เช่นนี้​ทำไม​?”

หลิ่ว​ฉือ​สะบัด​แขน​เสื้อ​ พา​จิ๋งจิ่วหา​ย​ตัว​ไป​จาก​เหลา​สุรา​

……………………………………………………………

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 162 ท่านมาเป็นเจ้าสำนัก"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์