มรรคาสู่สวรรค์ ภาคที่ 2 - ตอนที่ 66 สวรรค์ในกา
ภายในคุกสะกดมารมีเสียงร้องโหยหวนและเสียงด่าเทด้วยความโกรธแค้นของเหล่านักโทษดังออกมา ไม่รู้ว่ามีห้องขังมากน้อยเท่าไรที่จู่ๆ ก็หดเล็กลง บีบอัดนักโทษที่อยู่ด้านในจนกลายเป็นก้อนเนื้อ
เสียงตะโกนโหยหวนและเสียงด่าทอด้วยความโกรธแค้นขยับเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วตามการหดเล็ดลงของฟ้าดิน จากนั้นค่อยๆ ห่างออกไป — มิใช่เป็นเพราะฟ้าดินแยกจากกันอีกครั้ง หากแต่เป็นเพราะหน้าผาที่พังถล่มลงมาและบึงน้ำที่ยกตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วได้ประกบเข้าด้วยกัน กลายเป็นพื้นที่ปิดแน่นหนาที่ก่อตัวขึ้นมาจากก้อนหิน
ระยะห่างระหว่างฟ้าดินพลันหดสั้นลงอย่างฉับพลัน สรรพสิ่งล้วนถูกบีบอัด ก้อนหินเหล่านั้นก็เช่นเดียวกัน พวกมันถูกบีบอัดจนมีความหนาแน่นและความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ไม่มีรอยแตกใดๆ ให้เห็นแม้แต่น้อย
แม้นจะเป็นจักรพรรดิแห่งหมิง การจะเปิดมันออกไปก็ยังเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างมาก
ผิวภายนอกของก้อนหินที่หนาแน่นและแข็งแกร่งมีความเรียบลื่นเป็นอย่างมาก น้ำในบึงสีเขียวซัดสาดเป็นระลอกคลื่นจำนวนนับไม่ถ้วน จอกแหนค่อยๆ แตกกระจาย เกิดเป็นฟองอากาศจำนวนมหาศาล
ดูไปแล้วเหมือนกับมีมือขนาดใหญ่ที่ไร้รูปร่างกำลังเขย่ากาสุราอยู่ น้ำสุราสีเขียวที่อยู่ภายในกาหมุนวนไปมาไม่หยุด
จักรพรรดิแห่งหมิงและชายชราอยู่ในกาสุรากานี้
เมื่อเห็นภาพนี้ จักรพรรดิแห่งหมิงคิดถึงตอนที่ไท่ผิงกินหม้อไฟกับตัวเองอยู่ที่ริมแม่น้ำหมิงเมื่อหลายปีก่อน เขาเคยท่องกลอนบทหนึ่งออกมา —- ฟองอากาศสีเขียวบนสุราข้าวที่บ่มขึ้นมาใหม่
จักรพรรดิแห่งหมิงยิ้มเล็กน้อย สะบัดแขนเสื้อ พุ่งตัวขึ้นมาจากน้ำสีเขียว ลอยอยู่กลางอากาศ
เมื่อได้รับการเรียกจากจิตจำแนกของเขา เพลิงวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในคุกสะกดมารก็เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงขึ้นมาอีกครั้ง กลายร่างเป็นจักรพรรดิแห่งหมิงตัวเล็กๆ มุดเข้าไปในรอยแตกเหล่านั้น
ชายชราส่งเสียงอึกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด สีหน้าขาวซีดเป็นอย่างมาก บินข้ามคลื่นยักษ์ที่ก่อตัวขึ้นมาจากบึงน้ำสีเขียว สองมือยื่นออกไปด้วยความเร็วสูง
พื้นที่ว่างภายในคุกสะกดมารกำลังหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว ภูเขาและบึงน้ำกลายเป็นกาสุรา อีกทั้งยังเป็นกาสุราที่ไม่มีปากด้วย
จักรพรรดิแห่งหมิงไม่มีที่ให้หลบ เขาถูกชายชราคว้าจับมือทั้งสองข้างเอาไว้ จากนั้นดึงกลับลงไปในบึงน้ำใหม่อีกครั้ง
“ข้าคือเทพมังกร สามารถท่องทะยานไปในเมฆฝน ยิ่งใหญ่ราวมหาบรรพตและมหานที แล้วก็เล็กจ้อยได้เหมือนฝุ่นผง ขอเพียงเจ้าออกมาจากจุดสำคัญของข้า ข้าก็จะทำให้เจ้าได้เห็นพลังแห่งเซียนที่แท้จริง!”
ชายชรากล่าวเสียงแข็งกร้าว
จักรพรรดิแห่งหมิงถูกขังอยู่ในกาหิน เยื่อเพลิงวิญญาณที่อยู่บนร่างกายถูกน้ำในบึงกัดกร่อน เบาบางลงเรื่อยๆ แต่บนใบหน้าเขากลับไม่มีความหวาดกลัวใดๆ
“ก็แค่สวรรค์ในกาของตระกูลไป๋มิใช่หรือ พลังแห่งเซียนอะไรกัน? เจ้าเองก็ถือเป็นผู้ยิ่งใหญ่ขั้นทะลวงสวรรค์ แต่กลับทำได้เพียงแอบซ่อนอยู่ใต้ดินแล้วใช้ลูกไม้เช่นนี้ ไม่ได้มีความยิ่งใหญ่ของสัตว์เทพแห่งบรรพกาลแม้แต่น้อย? ในอดีตนกจูเชวี่ย เมื่อเทียบกับมันแล้วเจ้าถือเป็นแค่แมลงตัวหนึ่งเท่านั้น”
ชายชรากล่าว “ฝ่าบาทอย่าได้ยั่วโมโหข้าเลย ขอเพียงสามารถมีชีวิตยืนยาว ซ่อนอยู่ใต้ดินแล้วยังไง ใช้ลูกไม้แล้วยังไง?”
จักรพรรดิแห่งหมิงกล่าวถาม “แปลงกายเป็นคุกสะกดมาร ไม่เคยได้เห็นเดือนเห็นตะวัน หรือเจ้าไม่รู้สึกเบื่อ อ้างว้างโดดเดี่ยว?”
“ในกามีฟ้าดินอยู่ อยู่ที่นี่จะต่างอะไรกับอยู่ข้างนอก?”
ชายชรารู้ว่าจักรพรรดิแห่งหมิงกำลังถ่วงเวลาและคิดหาวิธีที่จะหนีออกไป แต่เขามิได้ใส่ใจ
ไม่มีใครที่จะหนีออกไปจากสวรรค์ในกาได้
จริงอยู่ที่สวรรค์ในกานั้นมิใช่พลังที่เซียนควรใช้ แต่มันกลับเป็นหนึ่งในพลังที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกมนุษย์
ชางหลงใช้มันครั้งหนึ่งจะต้องสูญเสียสภาวะที่ได้บำเพ็ญมาสามร้อยปี ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดใช้วิธีนี้จัดการกับจิ๋งจิ่ว เพราะมันไม่คุ้มค่า แต่หากใช้มันจัดการกับจักรพรรดิแห่งหมิงล่ะก็ ขอเพียงสามารถกินจักรพรรดิแห่งหมิงได้ สภาวะสามร้อยปีก็สามารถชดเชยกลับคืนมาได้ไม่ยาก
กายักษ์ที่เกิดขึ้นมาจากหน้าผาและบึงสีเขียวมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม ไม่มีที่ว่างใดๆ เหลืออยู่อีก ชายชราและจักรพรรดิแห่งหมิงจมลงไปในบึง
น้ำสีเขียวในบึงกระแทกใบหน้าของจักรพรรดิแห่งหมิง จอกแหนลอยเข้าไปในหูของเขา อีกทั้งเพราะเขาไม่มีขนคิ้ว จึงดูแล้วค่อนข้างตลก
แต่ที่มากกว่านั้นคืออันตราย
เยื่อเพลิงวิญญาณตรงนิ้วมือของเขาถูกน้ำในบึงกัดกร่อนจนเป็นรูเล็กๆ น้ำในบึงไหลเข้าไป ผิวหนังตรงนิ้วมือเกิดการเปื่อยยุ่ย มีควันสีขาวลอยขึ้นมา
สถานการณ์ของชายชราเองก็แย่อย่างมาก คุกสะกดมารหดตัวลงอย่างรวดเร็ว ระดับความรุนแรงที่ได้รับจากการถูกเพลิงวิญญาณโจมตีจึงยิ่งมากขึ้น เจ็บปวดจนยากที่จะทนรับได้ ใบหน้าของเขาขาวซีดจนเหมือนภูตผีอย่างไรอย่างนั้น
“บึงสีเขียวนี้น่าจะเป็นกระเพาะของเจ้า น้ำในบึงเหล่านี้ก็คือน้ำย่อยของเจ้าที่สามารถย่อยสลายสิ่งต่างๆ ได้” จักรพรรดิแห่งหมิงมองเขาพลางกล่าว “ถึงแม้เจ้าจะถือกำเนิดขึ้นมาจากดวงจิต แต่ก็ถือเป็นกึ่งร่างจริง ย่อมต้องอันตรายเช่นเดียวกัน ระหว่างเจ้าและข้ามีความแค้นอันใด ถึงทำให้เจ้ายอมจ่ายค่าตอบแทนที่มากมายเช่นนี้เพื่อสังหารข้า?”
ชายชราพลันหัวเราะขึ้นมา กล่าวว่า “ระหว่างเจ้ากับข้าไม่มีความแค้นต่อกัน ทั้งหมดนี้ก็แค่เพราะว่าข้าอยากกินเจ้า ความจริงข้าอยากทำแบบนี้มานานแล้ว แต่นักพรตไป๋เอาเจ้าไปขังไว้ในคุกไท่ฉาง ทำให้ข้าไม่อาจทำอะไรได้ วันนี้สวรรค์ได้มอบโอกาสอันดีมาให้ ขอเพียงข้ากลืนเจ้าเข้าไปในท้อง ทั่วทั้งแผ่นดินนี้ยังจะมีใครเป็นคู่ต่อสู้ข้าได้อีก? เจ้าคิดไม่ถึงใช่มั้ยล่ะ? วันนี้เจ้ากับสารเลวชิงซานนั้นก่อเรื่องมากมายขนาดนี้ แต่มันกลับเป็นการเอาตัวเองมาส่งถึงปากข้า!”
จักรพรรดิแห่งหมิงยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าว “อย่างนี้นี่เอง แต่เจ้าได้คิดถึงบ้างไหมว่า กระทั่งเขาที่มาอยู่ตรงปากเจ้า เจ้าก็ยังไม่อาจกินได้ แล้วเจ้าจะกินข้าได้อย่างไร?”
ครั้นกล่าวจบ สองมือเขาก็พลิกกลับไปคว้าข้อมือของชายชราเอาไว้
ชายชราตกใจเล็กน้อย แต่กลับไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้
ในตอนแรกสุด เขาจับสองมือของจักรพรรดิหมิงเอาไว้ก็เพราะไม่อยากถูกรบกวนในตอนที่เริ่มใช้สวรรค์ในกา
ตอนนี้จักรพรรดิแห่งหมิงถูกขังอยู่ในสวรรค์ในกา ถูกแช่อยู่ในน้ำสีเขียวคล้ำ อาจจะสลายกลายเป็นน้ำเลือดได้ทุกเมื่อ แต่เขากลับคว้าข้อมือของตัวเองเอาไว้ทำไม?
หรือเจ้าคิดจะทำให้ข้าถูกน้ำสีเขียวคล้ำในบึงกัดกร่อนจนกลายเป็นน้ำเลือดเช่นเดียวกัน? ความคิดนี้ช่างน่าขันเสียจริง
ขณะที่ชายชรากำลังคิดเรื่องเหล่านี้ ทันใดนั้นเขาพลันรู้สึกแปลกๆ จึงก้มหน้ามองดูมือของทั้งสองตน สีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย
นิ้วมือของเขาค่อยๆ จมลงไปในข้อมือของจักรพรรดิแห่งหมิงอย่างช้าๆ สัมผัสมันๆ ลื่นๆ คล้ายกำลังจมลงไปในเนยหรือไม่ก็เนื้อเน่า
ขณะเดียวกันนิ้วมือของจักรพรรดิแห่งหมิงก็กำลังจมลงไปในข้อมือของเขา ค่อยๆ แหวกผิวหนังและเนื้ออย่างช้าๆ จนกระทั่งหลังนิ้วมือใกล้จะจมลงไปจนหมด
ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกหรือภาพที่อยู่ตรงหน้าล้วนแต่น่าขยะแขยง กระทั่งเขาก็ยังรู้สึกขยะแขยง
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ชายชรารู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรง
สวรรค์ในกาก่อตัวเสร็จสิ้น ต่อให้จักรพรรดิแห่งหมิงแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางหนีออกไปได้ ชายชราเตรียมจะหนีออกไป
ขอเพียงเขาออกไปจากที่นี่ ไม่ว่าจักรพรรดิแห่งหมิงยังมีลูกไม้อะไรแอบซ่อนอยู่ เขาก็ได้แต่ต้องแหลกสลายไปในบึงพิษแห่งนี้
เขามือมังกรเทพชางหลง ตามหลักแล้วสามารถหายตัวไปจากที่ใดในคุกสะกดมาร แล้วก็ไปปรากฏตัวที่ใดในคุกสะกดมารก็ได้ ไม่มีใครจะหยุดเขาได้
ก่อนหน้านี้ที่จิ๋งจิ๋วไม่ใช่สามารถใช้กระบี่เซียนแห่งยมโลกสลัดเขาได้ก็ด้วยเหตุนี้
แต่ในเวลานี้ชายชรากลับพบว่าตัวเองไม่สามารถออกไปได้
ไม่ว่าเขาจะกระตุ้นจิตจำแนกอย่างไร ใช้พลังอย่างไร สุดท้ายก็ยังอยู่ในบึงน้ำ ยังคงยืนอยู่ตรงหน้าจักรพรรดิแห่งหมิง
“เจ้าคือดวงจิต ต่อให้เป็นดวงจิตของชางหลง สุดท้ายก็ยังเป็นเพียงดวงจิตดวงหนึ่ง”
จักรพรรดิแห่งหมิงมองชายชรา พลางกล่าวยิ้มๆ ว่า “และถ้าพูดถึงการควบคุมดวงจิตแล้ว…ใต้ฟ้าใต้ดิน ข้าแข็งแกร่งที่สุด”
นี่ต่างหากคือบัญชาเพลิงวิญญาณที่แท้จริง
สีหน้าของชายชรายิ่งขาวซีดขึ้นมาทันที ไม่รู้เป็นเพราะว่าความเจ็บปวดที่แผ่มาจากตรงบาดแผล หรือเป็นเพราะคำพูดของจักรพรรดิแห่งหมิงและอนาคตที่พอจะเห็นได้รำไร
อนาคตที่มืดมัวและน่ากลัวอันนั้น อนาคตที่เขาเคยมอบให้แก่นักโทษจำนวนมากอันนั้น
เขาจะถูกจักรพรรดิแห่งหมิงกลืนกิน