มรรคาสู่สวรรค์ ภาคที่ 2 - ตอนที่ 84 ทำให้พวกเราลืมท้องทะเลแห่งนั้น (2)
……
……
กระบี่ฟันลงมา
กั้วตงหายตัวไป
ในตอนที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง นางอยู่ห่างออกไปหลายร้อยจ้าง
เทพกระบี่ประหลาดใจเล็กน้อย มองไปทางด้านนั้น
น้ำทะเลตรงนั้นเต็มไปด้วยฟองอากาศ ภาพดูเลือนลาง
แต่เขามองเห็นอย่างชัดเจน คนที่พากั้วตงหนีไปคือชายหนุ่มผู้หนึ่ง
เพียงแค่งุนงงเล็กน้อย ชายหนุ่มคนนั้นก็พากั้วตงหนีไปไกลขึ้นกว่าเดิม ร่างกายวูบไหวไปมาไม่นิ่ง ดูล่องลอยยากจะอธิบายได้ คล้ายกับวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น
เทพกระบี่ซีไห่แหวกน้ำทะเลพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
เขามองดูผิวทะเล สายตาค่อยๆ ทอดมองไกลออกไป จากนั้นปล่อยกระบี่ออกไปอีกครั้ง
เจตน์กระบี่อันรุนแรงปกคลุมผิวทะเลเอาไว้
โลหิตจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาราวลูกธนูอันแหลมคม
ลำแสงกระบี่อันเย็นยะเยือกสายหนึ่งฟันออกไปไกลสิบกว่าลี้ เงียบเชียบไร้ซึ่งเสียงใดๆ
เขาไม่สนใจสถานการณ์ตรงนั้นอีก หากแต่หมุนตัวมองไปยังเรือสีเขียวที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้ลำนั้น มือขวาสะบัดออก ลำแสงกระบี่อีกสายหนึ่งฟันออกไป
……
……
อาวุธวิเศษที่ดูเหมือนผ้าบางๆ ชิ้นนั้นรัดเรือสีเขียวเอาไว้แน่น มันไม่สามารถหนีไปได้
เหอจานคล้ายคนบ้า พุ่งเข้าไปหาซูจึเย่
ซูจึเย่มองดูเขา หมุนตัวเตรียมหนีไป
ในผ้าธารชำระมีเรือสีเขียวเพิ่มขึ้นมาลำหนึ่ง
เหอจานร่วงลงไปบนผ้า กอดร่างของเผยไป๋ฟ่าที่ร่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า
ร่างที่อยู่ในอ้อมอกไม่มีความรู้สึกอุ่น รูที่อยู่บนหน้าอกชายชราดูน่าหวาดกลัว
เหอจานใบหน้าขาวซีด คล้ายวิญญาณหลุดออกจากร่าง ไม่ได้สังเกตเห็นถึงลำแสงกระบี่ที่พุ่งเข้ามาเลย มองดูแล้วจะต้องตายแน่นอน
บนผิวทะเลมีคลื่นสายหนึ่งปรากฏขึ้นมา
กู้ชิงขี่กระบี่บินออกมา ขวางอยู่ด้านหน้าเหอจาน
ด้วยสภาวะของเขาในตอนนี้จะต้านทานกระบี่ของเทพกระบี่ซีไห่ได้อย่างไร?
ในชั่วลัดนิ้วมือนั้น เขาพลันคิดถึงคำพูดประโยคนั้นที่อาจารย์พูดกับตัวเองก่อนที่จะออกมาได้
“หากเจอปัญหา ให้โยนแมวออกไป”
กู้ชิงไม่ลังเล เอาแมวขาวที่อยู่ในอ้อมอกโยนไปทางลำแสงกระบี่สายนั้น
แมวขาวบินอยู่กลางอากาศ ขาทั้งสี่ข้างกางออก ขนยาวของมันพริ้วไหวตามลม
ลำแสงกระบี่มาถึง คล้ายมีสายฟ้าพุ่งขึ้นมาจากผิวทะเล
แมวขาวส่งเสียงคำรามดุร้าย เมฆลมที่อยู่รอบกายประสานเข้าด้วยกัน ป้องกันลำแสงกระบี่สายนั้นเอาไว้
เสียงตู้มดังสนั่น คลื่นยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาราวภูเขา ขวาง อยู่บนผิวทะเล
กู้ชิงไหนเลยยังจะกล้าลังเลอีก ใช้ผ้าธารชำระโอบล้อมเหอจานเอาไว้ รีบขี่กระบี่บินไปทางตะวันออก
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แมวขาวได้กลับมาอยู่ในอ้อมอกของกู้ชิง
มันก้มหน้าเลียอุ้งเท้าขวา ตรงร่องนิ้วเท้าคล้ายมีรอยเลือด
……
……
คลื่นยักษ์ที่เหมือนภูเขาลูกใหญ่ร่วงตกลงมาในทะเล เกิดเป็นสะเก็ดน้ำแตกกระจายจำนวนนับไม่ถ้วน ตกลงมาราวพายุฝน
ภายใต้พายุฝนที่ตกลงมาซูจึเย่หมุนตัว มองดูกู้ชิงพาเหอจานหนีไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เหอจานถูกลากอยู่ในผ้าที่เหมือนตาข่ายผืนนั้น ดูไปก็คล้ายกับหมูที่กำลังถูกลากไปโรงเชือด เสียดสีกับผิวน้ำทะเลเป็นระยะ ทำให้เกิดคลื่นขึ้นเป็นระลอก
เมื่อเห็นภาพนี้ ซูจึเย่พลันหัวเราะขึ้นมา
ผ่านไปไม่นาน เขาก็กลับมายังที่ที่ศิษย์สำนักกระบี่ซีไห่อยู่
“โชคดีที่ทำสำเร็จ เผยไป๋ฟ่าตายแล้ว”
เขามองดูร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในท้องฟ้าพลางกล่าว
ที่แท้เขาทรยศไปแล้ว
ในเมื่อเทพกระบี่ซีไห่ล่วงรู้แผนการลอบสังหารนี้ แล้วเขายังจะถูกฆ่าได้อย่างไร
ถงหลูมองดูใบหน้าเขาพร้อมถ่มน้ำลายออกมา
ซูจึเย่สามารถหลบได้ แต่เขาไม่ได้หลบ ยืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบๆ
เสียงแปะดังขึ้นเบาๆ น้ำลายคำนั้นตกลงไปบนใบหน้าสีเขียวของเขา ดูเหนียวหนืดน่าขยะแขยง
“เจ้ามันเป็นก้อนเสมหะ ทั้งเขียวและเหม็นเน่า”
ถงหลูจ้องมองดวงตาเขาพลางกล่าว
ซูจึเย่ไม่ได้แก้ต่าง ยังคงนิ่งเงียบ
เทพกระบี่ซีไห่มองดูถงหลูพลางกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “อย่างนั้นเจ้าล่ะ เจ้าเป็นอะไร?”
ถงหลูเงียบไปครู่ใหญ่ การกล่าวว่า “อาจารย์ ข้าหวังว่าท่านจะสมบูรณ์แบบ”
เทพกระบี่ซีไห่กล่าวว่า “ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ยกเว้นคนตาย”
ถงหลูกล่าวว่า “ถึงแม้ศิษย์จะไม่ได้หมายความเช่นนี้ แต่คำพูดประโยคนี้ก็มีเหตุผล”
เมื่อกล่าวจบ กระบี่ประจิมเหน็บหนาวก็บินออกไปจากใต้เท้าเขา
เขาร่วงตกลงไปจากบนฟ้า
ลำแสงกระบี่สายหนึ่งสว่างวาบ
กระบี่ประจิมเหน็บหนาวปาดผ่านลำคอของเขา โลหิตกระเซ็นเป็นสาย
ร่างของถงหลูร่วงตกลงไปในทะเล
กระแทกกับน้ำ
ศีรษะของเขาค่อยๆ หลุดออกจากร่าง
ค่อยๆ แยกจากกันบนน้ำทะเล
จมลงไปข้างล่างอย่างช้าๆ
เทพกระบี่ซีไห่นิ่งเงียบไปครู่ ก่อนกล่าวว่า “เจ้าไม่ได้หลบ แสดงให้เห็นว่าเจ้ารู้สึกผิดอยู่ในใจ แบบนี้ดีมาก”
เขามองซูจึเย่พลางกล่าว
แต่ไม่ว่าจะเป็นตัวซูจึเย่เองหรือว่าศิษย์สำนักกระบี่ซีไห่ที่อยู่รอบๆ ก็ล้วนแต่รู้ว่าคำพูดประโยคนี้เขาพูดกับถงหลู
บนทะเลเงียบสงบ เสียงคลื่นแผ่วเบาจนไม่ได้ยิน
ซูจึเย่กล่าวถามว่า “คนที่ปรากฏขึ้นภายหลังคือใครขอรับ?”
“คนจากชิงซาน”
เสียงของเทพกระบี่ซีไห่ไม่มีอารมณ์ใดๆ แฝงอยู่
ซูจึเย่เลิกคิ้วเล็กน้อย ในแผนการของถงเหยียนไม่มีศิษย์สำนักชิงซาน หรือว่ากั้วตงเป็นคนเชิญมา?
เทพกระบี่ซีไห่มองไปยังทะเลที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้
การเคลื่อนไหวของคนผู้นั้นรวดเร็วเพียงนี้ ไม่รู้ว่าเป็นผู้อาวุโสของยอดเขาไหนในชิงซาน แต่ในเมื่อถูกตนเองฟันเข้า จะต้องตายอย่างแน่นอน
นอกจากหลิ่วฉือและหยวนฉีจิง ยอดเขาทั้งเก้าของชิงซานล้วนแต่ไร้ความหมายสำหรับเขา
เพียงแต่คนที่มาขวางกระบี่ของตัวเองเอาไว้ในตอนสุดท้ายคือใคร?
เขาน่าจะใช้จิตจำแนกตรวจสอบดูสถานการณ์ตรงนั้นเสียหน่อย แต่วันนี้เขาถูกเผยไป๋ฟ่าโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส ยิ่งไปกว่านั้น…เขายังค่อนข้างเหนื่อยด้วย
เทพกระบี่ซีไห่บินไปทางหมู่เกาะ
ซูจึเย่มองดูแผ่นหลังของเขา พลันรู้สึกว่ายอดคนผู้นี้คล้ายจะแก่ลงกว่าเดิมเล็กน้อย
……
……
บนผิวทะเลมีปลาตายลอยขึ้นมา จำนวนไม่มาก แต่ก็ทำให้มีนกลงมากินอาหาร
ปลาตายบางส่วนถูกคลื่นทะเลซัดไปเกยบนหาดทราย
บนหาดทรายยังมีนกตาย เศษไม้และฟองอากาศสีขาว ส่งกลิ่นเหม็นเน่าแพร่กระจายออกมา
คลื่นทะเลถอยกลับไป บนหาดทรายมีคนสองคนนอนกอดกันอยู่
จิ๋งจิ่วนอนอยู่บนพื้น กั้วตงฟุบหมอบอยู่ในอ้อมอกเขา
น้ำทะเลหยดลงมาจากเส้นผมที่เปียกชื้น ตกลงบนใบหน้าของจิ๋งจิ่วทำให้เขาตื่นขึ้นมา
จิ๋งจิ่วมองดูใบหน้าของนาง พบว่ายังคงมองไม่เห็นความคุ้นเคยใดๆ
กั้วตงเองก็กำลังมองดูใบหน้าของเขา
ใบหน้าของจิ๋งจิ่วงดงามเป็นอย่างยิ่ง
อยู่ใกล้กันขนาดนี้ หากเปลี่ยนเป็นหญิงสาวคนอื่น ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็คงจะมีอาการเขินอายอยู่บ้าง แต่นางกลับไม่มีความรู้สึกใดๆ
“เจ้าจะนอนไปถึงเมื่อไหร่?”
จิ๋งจิ่วกล่าว “น่าจะอีกนาน”
นางถึงได้รู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถลุกขึ้นได้
เสียงคลื่นทะเลค่อยๆ ห่างออกไป
กั้วตงผละออกมาจากอ้อมอกเขา เพียงแค่การเคลื่อนไหวง่ายๆ กลับทำให้นางต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี
สายตานางมองไปบนร่างกายของจิ๋งจิ่ว ถึงได้รู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขารุนแรงกว่าที่คิดเอาไว้
ร่างกายของจิ๋งจิ่วถูกฟันจนแทบจะขาดออกจากกัน เหลือเพียงกระดูกสันหลังที่ยังเชื่อมต่ออยู่ด้วยกัน
ช่วงเอวของเขามีรอยแหว่งขนาดใหญ่
หากมองลงมาจากด้านบน จะสามารถมองเห็นพื้นทรายที่อยู่ด้านล่างร่างกายของเขาได้
ภาพนี้ดูเหมือนจะต้องนองเลือด แต่ความจริงแล้วกลับไม่มีเลือดอะไร
เลือดถูกน้ำทะเลชะล้างทิ้งไปนานแล้ว กล้ามเนื้อและอวัยวะภายในที่ฉีกขาดถูกชะล้างจนเป็นสีขาว ดูเป็นมันวาว ไม่มีสิ่งปนเปื้อนใดๆ
กั้วตงสีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย
มิใช่เป็นเพราะจิ๋งจิ่วบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้แล้วยังมีชีวิตอยู่ แล้วก็ไม่ได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
แล้วก็ไม่ได้เป็นเพราะคิดไม่ถึงว่าการโจมตีของเทพกระบี่ซีไห่จะมีอานุภาพที่รุนแรงถึงเพียงนี้ ถึงแม้จะอยู่ห่างกันสิบกว่าลี้
“เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นอวัยวะภายในของคนที่สะอาดอย่างนี้” นางกล่าว
จิ๋งจิ่วถามว่า “เจ้าเคยเห็นอวัยวะภายในของคนมามากหรือ?”
กั้วตงกล่าว “ไม่มีใครเคยเห็นมามากเท่าข้าแล้ว”
จิ๋งจิ่วครุ่นคิด นั่นย่อมต้องแน่นอนอยู่แล้ว
เปลวเพลิงลุกโชนนานสามเดือน
คนนับหมื่นตายด้วยมือของเจ้า
ภาพเช่นนี้เจ้าย่อมต้องเห็นมามากที่สุด
……………………………………………………