มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 1001
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1001
มื้อค่ำเหรอ? อย่างบังเอิญ เจอรัลด์เองก็คิดที่จะไปหาข้าวทาน เมื่อเขาวางแผนที่จะหนีไปจากเธอได้ในที่สุด
“…ผมตกลง!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยการพยักหน้า เนื่องจากเขาจะถูกเลี้ยงมื้ออาหาร เขาก็อาจยอมรับข้อเสนอเพื่อประหยัดเงินได้เช่นกัน
“คุณ!”
ถึงแม้ มิสตี้ แซคชารีเพียงเสนอความคิดนี้ตามมารยาท แต่เธอก็ไม่ได้คาดหวังจริง ๆ ว่าเขาจะยอมรับข้อเสนอของเธอ การตอบสนองฉับพลันของเธอพิสูจน์เรื่องนั้นได้
ไม่ว่าจะยังไง ผู้หญิงก็มักจะชื่นชมบุคคลที่เป็นวีรบุรุษอยู่แล้ว และแม้เจอรัลด์ไม่ใช่วีรบุรุษในแนวทางดั้งเดิมอย่างแน่นอน แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าเขาได้ช่วยเหลือเธอไว้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ค่อนข้างหล่อเหลา และสิ่งนั้นสิ่งเดียวก็ทำให้คนอื่น ๆ รวมถึงมิสตี้เอง ค่อนข้างหวั่นไหวง่าย ที่อยากจะทำความรู้จักเขาให้ดีขึ้นสักเล็กน้อย
เมื่อออกนอกเส้นทางมา มิสตี้จึงนำเจอรัลด์ไปยังร้านอาหารใกล้เคียงที่พวกเขาได้ทาน และพูดคุยกันตลอดมื้อค่ำของพวกเขา ตามปกติแล้ว ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้ทำความรู้จักกันและกันมากขึ้น
“อย่างไรก็ตามช่างบังเอิญอะไรอย่างงี้ที่คุณเลือกสถานแห่งนี้เพื่อท่องเที่ยว!” มิสตี้กล่าว
“แล้วทำไมล่ะ?”
“เมื่อตัดสินจากการตอบสนองของคุณ ฉันมั่นใจว่าคุณคงไม่ทราบว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป ตระกูลเลิฟเวลล์จะจัดงานแลกเปลี่ยนสมบัติเป็นเวลาสามวันหลังจากนี้! เนื่องจากงานจัดเร็วขึ้นกว่าปกติหนึ่งเดือน มันจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่คุณจัดการมาอยู่ที่นี่ได้ทันเวลาพอดี!”
“ผู้คนมากมายจากหลากหลายสถานที่ บ้างก็มาจากต่างประเทศ ก็เข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนสมบัติประจำปี รู้ไหม? ด้วยผู้เข้าร่วมมากมายในงานนี้ คุณจะตื่นตาตื่นใจแน่ถ้าคุณเข้าร่วมงาน!” มิสตี้กล่าวเสริม
“เข้าใจแล้ว…ผมเพียงได้ยินเกี่ยวกับงานแลกเปลี่ยนของโบราณเท่านั้น…ผมไม่คิดว่าผมจะเคยได้ยินเกี่ยวกับงานแลกเปลี่ยนสมบัตินะ…” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มขมขื่น ขณะที่เขาส่ายหัว
“งานแลกเปลี่ยนของโบราณไม่เห็นจะมีอะไรเลย? เข้าใจไว้ด้วยว่างานแลกเปลี่ยนของเลิฟเวลล์คราวนี้เป็นแบบรวมทุกอย่าง! พูดอีกอย่างก็คือ ไม่เพียงแต่ของโบราณจะถูกจัดแสดงในระหว่างงานเท่านั้น แต่ยังมีสมบัติล้ำค่าอีกด้วย! เมื่อพูดถึงสมบัติทั้งหลายแล้วก็ ตราบใดที่คุณมีสมบัติของตัวเองล่ะก็ คุณก็สามารถนำมันไปจัดแสดงมันที่งานได้”
“แม้นั่นอาจฟังดูเหมือนไม่มาก แต่ฉันจะยกตัวอย่างให้คุณเห็นถึงความหมายที่แท้จริง ยกตัวอย่างเช่น ในเวลานี้คุณมีกำไลหยกที่ปกติจะขายได้ประมาณ15,000 ดอลลาร์ ตอนนี้ถ้าคุณสามารถทำให้มันผ่านขั้นตอนการระบุสมบัติของงานได้ คุณก็จะได้รับอนุญาตให้ขึ้นราคากำไลนั้นจนถึง 150,000 ดอลลาร์หรือมากกว่านั้นก็ได้ในงานนี้!” มิสตี้อธิบาย
“เข้าใจแล้ว ยังไงซะ งานนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกว่ามันคือบางอย่างที่คนรวยรักสนุกจะทำกันเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับคนอย่างผม ผมจะได้เดินดูรอบ ๆ และอาจจะเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่สนุกสนานเล็กน้อย แต่ผมไม่ได้มีความรู้ในด้านของโบราณและทรัพย์สมบัติมากขนาดนั้นตั้งแต่แรก” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“…ฉันเห็นได้ว่าคุณค่อนข้างฉลาด เนื่องจากคุณสามารถพูดอะไรเช่นนี้ได้! บอกมาสิ ฉันจะบอกความลับให้คุณฟัง…มันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เฉพาะคนภายในเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นคุณจะไม่ได้ยินสิ่งที่คุณกำลังตามหาจากคนทั่วไปหรอก!” มิสตี้กระซิบอย่างฉับพลัน
ขณะที่กัดเนื้อปลาคำหนึ่ง จากนั้นเจอรัลด์ก็แสดงท่าทางให้มิสตี้พูดต่อ ขณะที่เขาจิบน้ำ
“ระหว่างงานแลกเปลี่ยนสี่ปีก่อน มีการจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์วิเศษ! ไม่เพียงมันถูกทำให้ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังมีข้อความจารึกที่สลักเต็มไปทั่วสิ่งของที่ดูโบราณชิ้นนั้นอีกด้วย!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็แทบจะพ่นน้ำออกมา ขณะที่กลืนสิ่งที่เขาทำได้ลงไป จากนั้นเจอรัลด์ก็ถาม “พูดจริงเหรอ?”
เธอเริ่มรู้สึกรำคาญเล็กน้อยกับทัศนคติของเจอรัลด์อีกครั้ง จากนั้นมิสตี้ก็ตอบกลับ “มีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องโกหกคุณล่ะ? คุณเพียงไม่เชื่อเพราะคุณขาดความรู้เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ที่แท้จริงเท่านั้น! สิ่งประดิษฐ์ที่ว่าก็คือหางม้า ซึ่งครั้งหนึ่งนักพรตเต๋าเคยใช้ในสมัยโบราณ ในตอนนั้น มันกล่าวได้ว่าถ้าใครวางมันไว้ในบ้าน พวกเขาก็จะสามารถป้องปัดความชั่วร้ายได้ทุกรูปแบบ!”
“มันถูกซื้อไปในตอนนั้นโดยบุคคลหนึ่งจากญี่ปุ่นที่ใช้จ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อมัน และนี่คือสิ่งที่เริ่มน่าสนใจ ผู้ชายญี่ปุ่นคนนั้นที่ซื้อมันไปมีแม่ที่ป่วยหนักซึ่งมีอายุเก้าสิบแปดแล้ว เมื่อสี่ปีก่อน อย่างน่าพิศวง ทั้งหมดมันใช้เวลาไม่ถึงครึ่งปีที่แม่ของเขาหายขาดในทันที! ยิ่งไปกว่านั้น เธอก็ยังคงแข็งแรงดีในตอนนี้ที่อายุหนึ่งร้อยสองปี!”
“ไม่ว่าจะยังไง นั่นก็ไม่ใช่สิงประดิษฐ์วิเศษชิ้นเดียวที่เคยถูกจัดแสดงมาก่อน ในการแลกเปลี่ยนครั้งก่อน หนึ่งในผู้เข้าร่วมก็ประสบผลสำเร็จในการซื้อดาบโบราณที่ถูกลือว่าเป็นของวิเศษเช่นกัน!”
“โดยพื้นฐานแล้ว สิ่งที่ฉันกำลังพยายามจะพูดก็คือว่ามีการจัดแสดงสิ่งของที่คล้ายกันมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ด้วยการที่พวกมันมากมายดูเหมือนเป็นของโบราณและสมบัติปกติทั่วไป แต่ประวัติศาสตร์ของพวกมัน ซึ่งมีส่วนช่วยในคุณสมบัติวิเศษของวัตถุทั้งหลาย ก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนต่างชาติมากมายมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมในงานนี้เป็นประจำในแต่ละปี”
เมื่อวางแก้วไวน์ลง เจอรัลด์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเธออธิบายจบ
ด้วยน้ำเสียงของเธอที่ฟังดูจริงจังเพียงใดนั้น เจอรัลด์ก็บอกได้เลยว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นไม่น่าจะเป็นการหลอกลวง
แม้เขาไม่ได้พูดอะไรมากนักระหว่างการอธิบายของมิสตี้ แต่พูดตามตรงเขาก็กำลังคิดว่าถ้าจะมีวัตถุวิเศษในช่วงงานแลกเปลี่ยนสมบัตินี้ งั้นเขาก็อยากจะให้เธอเล่าข้อมูลเกี่ยวกับพวกมันให้เขาฟังมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เจอรัลด์เองก็เชื่อในอำนาจของวัตถุมงคลทั้งหลาย ท้ายที่สุดแล้ว ตั้งแต่สมัยโบราณมา เกือบจะทุกตระกูลใหญ่ต่างก็พึ่งพาอำนาจลึกลับบางรูปแบบกันอยู่แล้ว เพื่อที่จะได้อยู่เหนือคู่แข่งของพวกเขาในทันที แม้แต่ปู่ของเขาก็เป็นเจ้าของสิ่งประดิษฐ์วิเศษโบราณที่อยู่ในรูปแบบของรูปวาดดวงอาทิตย์ที่มีโครงร่างคล้ายกับลายเส้นต่าง ๆ
เมื่อพูดถึงปู่เขาแล้วก็ เขาได้เล่าให้เจอรัลด์ฟังเมื่อนานมาแล้วว่า ครั้งหนึ่งเฟนเดอร์สันเคยแข่งกับคลอฟอร์ดสำหรับจี้หยกครึ่งซีกเมื่อหลายปีก่อน ตัวจี้เองเป็นวัตถุวิเศษที่คลอฟอร์ดและเฟนเดอร์สันใช้ร่วมกัน ซี่งเป็นสัญลักษณ์โชคลาภและโชคชะตาของตระกูลของพวกเขา
ด้วยความที่มันประเมินค่าไม่ได้ขนาดนี้ อาของเขา ปีเตอร์ จึงพยายามที่จะแอบเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลเฟนเดอร์สันเพื่อค้นหาจี้หยกอีกครึ่งซีกนั้น แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งหมดที่เขาทำก็เป็นการเติมเชื้อเพลิงความโกรธแค้นและความบาดหมางระหว่างทั้งสองตระกูล
“…คุณดูเหมือนจะมีความรู้เกี่ยวกับวัตถุวิเศษมากเกินไปหน่อยนะ…ผมมั่นใจว่าพวกเขาไม่ได้เปิดเผยเรื่องทั้งหมดนี้ต่อสาธารณะใช่ไหม?”