มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 338
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 338
“เอาล่ะ พอได้แล้ว ชายหนุ่ม! เธอไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ด้วยการทุบตีผู้หญิงนะ! หากเธอต้องการจะพิสูจน์คุณค่าของตัวเองจริง ๆ ก็ทำงานอย่างหนักเพื่อที่เธอจะเสียใจที่ทิ้งเธอไปในอนาคต!” ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดีซึ่งดูสง่าและมีภูมิฐานว่ากล่าว
ถึงจุดนี้แล้ว เมอร์ฟีก็สงบลงเล็กน้อยแล้ว เขาทำได้เพียงแค่ถอนหายใจขณะที่กำหมัดไว้แน่น
“ถูกตัอง! หากนายต้องการแสดงให้เห็นคุณค่าของนายงั้นก็ไปพยายามที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จด้วยตัวนายเองตั้งแต่แรกสิ! ฉันคิดว่านั่นเป็นไปไม่ได้อยู่ดีเพราะนายมันเป็นคนบ้า! วันนี้นายกล้าดีมาทุบตีฉันได้ยังไง? นายจบแน่!” ชารอนที่ยังนอนแผ่อยู่บนพื้น หายใจหอบหนัก ตะโกนออกมา
“เธอเองก็ควรพูดให้น้อยหน่อยนะ สาวน้อย เธอควรจะเลิกเดทแต่กับผู้ชายที่ร่ำรวย คนรวยมักจะโลเล ถ้าเธออยากจะเลิกกัน ก็ชี้แจงสิ่งต่าง ๆ กับคู่ของเธอก่อน ไม่มีเหตุผลที่จะต้องพูดอะไรอื่นเพื่อกระตุ้นต่อมทางอารมณ์จากพวกเขา” ครั้งนี้ชายคนเดียวกันกล่าวตำหนิชารอน
ชารอนถึงกับเงียบไปและเพียงเอามือปิดหน้าขณะที่ร้องไห้คร่ำครวญ
เธอไม่สามารถเถียงกลับได้จริง ๆ เนื่องจากชายวัยกลางคนนั้นต้องเป็นเจ้านายใหญ่คนหนึ่งอย่างแน่นอน
“เธอโอเคดีไหม ชารอน?”
เจอรัลด์ไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไร เขาจึงพยายามเริ่มต้นการสนทนากับเธอทันทีที่เขาเดินมาถึง
ชารอนมองไปที่เจอรัลด์ด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คาดคิดว่าเขาก็อยู่ที่นี่เช่นกัน
“สิ่งที่สุภาพบุรุษที่นั่นพูดนั้นถูกต้อง ความเข้าใจผิดนั้นสามารถเคลียร์ได้อย่างสันติเสมอตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายยังคงใจเย็น จากสิ่งที่ได้ยินมา ดูเหมือนว่าพวกเธอทั้งคู่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกันในอดีตนะ โชคชะตาได้เปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ดังนั้นตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติต่อกันเหมือนศัตรู…”
“ไอ้บ้านี่! นี่ไม่ใช่เรื่องของนาย! นายคิดว่าตัวเองมีค่าพอที่จะมาสั่งสอนฉันจริง ๆ หรือไง? คุณก็ถูกเขี่ยทิ้งเหมือนกัน! นายมันก็น่าสมเพชพอ ๆ กันกับเมอร์ฟี แต่นายก็มีความกล้าที่จะพยายามมาสั่งสอนฉันจริง ๆ งั้นเหรอ?”
เจอรัลด์มีเจตนาดีกับคำพูดของเขาเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม แม้คำพูดเกือบจะเหมือนสิ่งเดียวกันกับชายวัยกลางคน แต่ปฏิกิริยาของชารอนนั้นกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ชารอนกังวลอย่างมากในตอนนี้ คล้ายกับถังดินปืนที่เพิ่งถูกจุด
ในใจของเธอ เธอกำลังคิดว่าเธอจะคงจะไม่เป็นไรกับใครก็ตามจากที่ไหน ๆ ในโลกนี้ที่มาสั่งสอนเธออย่างไร แต่กับคนอย่างเจอรัลด์งั้นเหรอ? เขาจะไม่มีวันมีค่าพอ
เขาเพิ่งซื้อโทรศัพท์มือถือระดับไฮเอนด์สองเครื่องไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงมาโอ้อวดที่นี่ล่ะ?
ความโกรธของเธอได้รับแรงกระตุ้นมากขึ้นเมื่อเธอคิดถึงว่าเธอไม่เพียงแค่ถูกทำให้อับอายต่อหน้าสาธารณชนได้อย่างไร แต่ยังมีเจอรัลด์ที่เห็นอีกด้วยเช่นกันในขณะที่เธอถูกทุบตี
เขายังมีความกล้าที่จะชี้แนะและกล่าวประณามเธอ!
เธอไม่กล้ายั่วยุเมอร์ฟีเพราะกลัวว่าเขาอาจเริ่มทำตัวเหมือนคนคลั่งอีกครั้ง ชายวัยกลางคนที่กล่าวตำหนิเธอก็ไม่ต้องเอ่ยถามถึงเช่นกัน
ดังนั้น คนเดียวที่เธอสามารถปลดปล่อยความโกรธของเธอใส่โดยตรงก็คือเจอรัลด์ ในความพยายามที่จะกู้คืนความเชื่อมั่นในตนเองของเธอเอง
เธอเริ่มดันและผลักเจอรัลด์ในขณะที่พ่นภาษาหยาบคายทุกรูปแบบทั้งหมดใส่เขา
ทั้งหมดนี้มันชัดเจนมากเกินไปว่าเธอแค่พยายามรักษาหน้าของตัวเองเอาไว้
“คนอย่างนายควรอยู่ห่าง ๆ เรื่องนี้และไปให้พ้น! ฉันต้องตาบอดแน่สมัยมัธยมปลายเมื่อคิดว่าตกหลุมรักกับไอ้งั่งที่น่าสมเพชอย่างนายเช่นนี้!”
เจอรัลด์เพียงก้าวถอยกับทุก ๆ การผลักของเธอโดยไม่ได้พูดอะไรอื่นใด
ขณะนั้นเอง พนักงานขายสาาวจากก่อนหน้านี้ก็กลับมาพร้อมกับกำไลหยกที่ถืออยู่ในมือของเธออย่างระมัดระวัง
“หยุดนะ!” พนักงานขายสาวตะโกนออกมาทันทีที่เธอเห็นลูกค้าที่โดดเด่นที่สุดของเธอถูกหญิงสาวที่ไหนไม่รู้ผลักไปรอบ ๆ
พนักงานขายสาวโกรธเคืองเพิ่มมากขึ้นราวกับว่าสามีของเธอเพิ่งถูกผู้หญิงคนอื่นตบ เธอวิ่งไปหยุดชารอนทันที
“ไปให้พ้น!” ชารอนคำรามขณะที่เธอผลักพนักงานขายสาวออกไป
ได้ยินเสียงที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ
กล่องสวยหรูสองกล่องที่พนักงานขายสาวถือออกมาตอนนี้กล่องทั้งคู่ตกอยู่ที่พื้นแล้ว
เสียงที่มาจากภายในกล่องเมื่อพวกมันตกลงมานั้นไม่ได้ทำให้มั่นใจมากนัก
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันเงียบกริบ
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนรู้ดีว่าเครื่องประดับในร้านนี้มีราคาแพงมาก เมื่อพิจารณาจากกล่องทั้งสองใบที่ฟุ่มเฟือยอย่างไรนั้นแล้วบนพื้น สิ่งที่บรรจุอยู่คงไม่ใช่แค่เครื่องประดับธรรมดาทั่วไปไหน ๆ อย่างแน่นอน
แน่นอนเสียงตกแตกนั้นนำชารอนกลับมามีสติอีกครั้ง
“อ๊า! กำไลหยก!”
พนักงานขายสาวไม่คาดคิดว่าชารอนจะใช้กำลังกันขนาดนี้ ขณะที่เธอจ้องไปที่กล่องสองใบบนพื้น เหงื่อก็เริ่มก่อตัวขึ้นที่หน้าผากของเธอด้วยความกลัว
เธอกลืนน้ำลาย ย่อตัวลงทันทีและเริ่มแกะกล่องแรก
เมื่อเธอเปิดมันดู ทุกคนก็สามารถเห็นได้ว่ากำไลข้อมือหยกได้แตกออกเป็นสามชิ้นแล้ว