มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 392
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 392
หลังจากพวกเขาพูดคุยกันผ่านโทรศัพท์ ทันใดนั้นเจอรัลด์ก็นึกถึงคำแนะนำของพ่อของเขาที่ให้ไปเยี่ยมเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขของเขาคนนั้นจากกองทัพในมณฑลเงียบสงบนี้ เขากลับมาได้สัปดาห์กว่า ๆ แล้วและเขาก็ลืมเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปนานแล้ว
เจอรัลด์ไม่มีอะไรให้ทำ ณ ตอนนี้ เขาจึงซื้อของฝากบางอย่างและมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ชนชั้นสูงของมณฑลเงียบสงบเพื่อเยี่ยมเยียนคุณวิลลี่ จอง
ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวของพวกเขา อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ได้ห่างกันออกไปนานแล้วหลังจากหลาย ๆ เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในระยะหลังมานี้
แต่พ่อของเขาเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวมากคนหนึ่ง
เขาไม่เชื่อว่ามันได้เกิดขึ้น แต่ความเป็นจริงก็ยังคงอยู่ ในฐานะบุคคลหนึ่ง ใครจะไม่มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเลยได้อย่างไรกัน?
เจอรัลด์จำได้ถึงการปฏิบัติที่แสนเย็นชาจากครอบครัวจอง ตอนที่พ่อของเขาพาเขามาด้วยเพื่อขอร้องพวกเขา เพื่อที่เขาจะสามารถเข้าโรงเรียนมัธยมปลายเมื่อหกปีก่อน
เจอรัลด์เข้าใจความรู้สึกของพ่อของเขา
แต่คราวนี้ เขาตัวคนเดียว และเขามาที่นี่พร้อมกับตัวตนที่แตกต่างไป!
เขาอยากจะรู้ว่า เขาจะเผชิญกับการปฏิบัติเช่นเดียวกันเหมือนก่อนหน้านี้หรือไม่…
ขณะที่เขาครุ่นคิดอยู่นั้น เขาก็ตระหนักได้ว่าเขามาถึงที่บ้านของพวกเขาแล้ว โดยการจำทิศทางจากความทรงจำของเขาเป็นหลักเท่านั้น
เขาเคาะประตู
“ใครคะ?”
ประตูเปิดออก และเขาได้รับการทักทายจากผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งตรงประตู
เจอรัลด์รู้จักผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้ ชื่อของเธอคือ เลอา ทอลเบิร์ต และเจอรัลด์เอ่ยถึงเธอว่าคุณป้าเลอา เธอคือภรรยาของ วิลลี่ จอง และเธอค่อนข้างเป็นผู้นำที่มีอิทธิพลในธนาคารที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
“สวัสดีครับคุณป้าเลอา คุณจำผมได้ไหม? ผมชื่อเจอรัลด์ และผมเคยมาเยี่ยมที่บ้านของคุณกับพ่อของผมมาก่อน!”
“อู้ว ฉันจำได้! เธอเป็นลูดชายของเพื่อนของวิลลี่ไม่ใช่เหรอ ดีแลน คลอฟอร์ด? ฉันไม่ได้เจอเธอมานานหลายปีแล้ว เธอโตขึ้นมากเลยนะ! เข้ามาก่อนสิ!”
เธอเหลือบมองไปที่ของต่าง ๆ ที่เจอรัลด์นำมาที่บ้านของเธอ
เลอาสุภาพและเป็นกันเองมากต่อเจอรัลด์
สำหรับเธอแล้ว นี่เป็นฉากที่ดูคุ้นเคยมาก ตัดสินจากลักษณะท่าทางของเจอรัลด์แล้ว เธอรู้ว่าเขามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ
เธอวางแผนไว้แล้วว่าจะปฏิเสธเขาในภายหลังอย่างไร
แต่มันคงจะดูไม่สุภาพและหยาบคายที่จะทำมันตอนนี้
พวกเขาเข้ามาในห้องนั่งเล่น
เจอรัลด์เห็นชายวันกลางคนคนหนึ่งกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาพร้อมกับไขว้ขาไว้
เขาให้ความรู้สึกราวกับว่า เขาเป็นผู้อำนวยการที่สำคัญคนหนึ่ง
เขาคือ วิลลี่ จอง คนที่เจอรัลด์เรียกว่าลุงจอง เขาทำงานเป็นผู้อำนวยการในสำนักงานการพัฒนา
พวกเขาเป็นครอบครัวข้าราชการ
“สวัสดีครับ ลุงจอง!”
เจอรัลด์ไม่รู้ว่าทำไมหลังจากหลายปีขนาดนี้แล้ว เขาถึงยังคงฝืนใจที่จะพบปะกับพวกเขาอีกครั้ง
“โอ้ เป็นเจอรัลด์ คลอฟอร์ด มันก็หลายปีแล้วนะตั้งแต่ที่พวกเราพบกัน ใช่สิ ฉันได้ข่าวมาว่าพ่อของเธอออกนอกประเทศไปเพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้ของเขาเหรอ?”
วิลลี่ จองวางหนังสือพิมพ์ลงและพูดถากถางขึ้นมา
“อืมม ครับประมาณนั้นแหละ!”
เจอรัลด์หัวเราะเบา ๆ
“เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปีนี้ไม่ใช่เหรอ? เธอเรียนหลักสูตรอะไรล่ะ?”
วิลลี่ถาม พลางเป่าน้ำชาเบา ๆ สองสามครั้ง
“ผมเรียนวรรณคดี ภาษาอังกฤษ เช่นเดียวกับการจัดระเบียบหมวดหมู่กฏหมายและกฏต่าง ๆ น่ะครับ!”
“อะแฮ่ม วิชาเอกนี้ค่อนข้างไม่เป็นที่นิยม แต่ก็นั่นแหละ งานทั้งหลายก็ค่อนข้างง่ายที่จะจัดการ เออจริงสิ เธอหางานได้หรือยังล่ะ?”
วิลลี่ถาม
“ยังเลยครับ ลุงจอง! ผมมาที่นี่ครั้งนี้เพื่อเยี่ยมคุณโดยเฉพาะ และพ่อของผมสั่งผมเป็นเฉพาะพิเศษว่า…”
“เออจริงสิ ที่รัก คุณมีนัดในบ่ายนี้ไม่ใช่เหรอ?”
เลอาพูดแทรกบทสนทนาของพวกเขาขึ้นมา
“โอ้ จริงด้วย ฉันมีนัดหนิ! มันค่อนข้างเป็นธุระด่วนซะด้วย เจอรัลด์ เธออยู่ทานมื้อเที่ยงที่นี่ดีไหม?”
วิลลี่ยิ้ม
เจอรัลด์ไม่ได้โง่ จากสิ่งที่วิลลี่และเลอาพูดก่อนหน้านี้ เขารู้ว่าพวกเขาคิดว่าเขามาที่นี่เพื่อขอร้องพวกเขาให้ใช้เส้นสายให้เขาได้งาน ทันทีที่เจอรัลด์บอกพวกเขาว่าเขามาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยียนพวกเขาเป็นพิเศษ
พวกเขากำลังแสดงละครเพื่อพยายามจะไล่เขาออกไปจากบ้านของพวกเขาอยู่
ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ปฏิบัติต่อครอบครัวของเจอรัลด์ในฐานะเพื่อนเลย ถ้าเขากลับไปและบอกพ่อของเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ พ่อของเขาก็อาจจะยอมละทิ้งมิตรภาพนี้
ในระหว่างการสนทนา เจอรัลด์ลุกยืนขึ้นและกำลังจะจากไป
และในขณะนั้นเอง หญิงสาวคนหนึ่งก็ลงมาจากชั้นสองของบ้านอย่างรวดเร็ว เธอใส่หูฟัง และเธอก็ค่อนข้างน่ารัก
“แม่ค่ะ เพื่อนร่วมชั้นของหนูจะมาที่บ้านของเราสำหรับมื้อเที่ยงกันในภายหลัง อาหารเสร็จหรือยังคะ? ต้องการความช่วยเหลือของหนูไหม?”
เด็กสาวคนนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทันทีทันใดนั้น เธอก็หันมาและเห็นเจอรัลด์ สายตาของเธอจับจ้องไปที่เขา “แม่ เขาเป็นใครคะ?”