มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 655
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 655
เขตปกครองซอลฟอร์ดเป็นศูนย์กลางของจังหวัดซอลฟอร์ด การเป็นเมืองศูนย์กลางมันจึงมีความเจริญและวุ่นวายอยู่เสมอ
แม้จะเป็นเมืองที่พลุกพล่าน แต่รถหรูสิบคันที่จอดอยู่ด้านหน้าของสถานีรถไปความเร็วสูง ก็ยังคงสะดุดตาเป็นเฉพาะพิเศษ
ขณะนั้นเอง รถไฟความเร็วสูงก็มาถึงที่สถานีในที่สุด
เจอรัลด์ลุกยืนขึ้นยืดเส้นสายเล็กน้อย ก่อนจะออกจากรถไฟไปพร้อมกับเควต้า และฟินน์เลย์
เมื่อเขาเดินผ่านเมอาและกลุ่มเพื่อนของเธอ อย่างไรก็ตาม เขาก็เพียงเดินผ่านพวกเขาไปโดยไม่ได้ทักทายพวกเขาเลย
“ฮึ่ม! ดูพฤติกรรมนั่นสิ! ใครอยากจะสนใจนายกันล่ะ?”
‘เขากล้าดีที่จะไม่เริ่มทักฉันก่อนได้ยังไง?’ เมอาคิดกับตัวเอง เธอไม่เคยคาดคิดว่าเจอรัลด์จะกลายมาเป็นคนหัวแข็งเช่นนี้เลย
เห็นได้ชัดว่าเมอามีความรู้สึกว่าตนเหนือกว่าผู้อื่น
‘ถ้านายเพียงจะทักทายฉัน ฉันก็คงจะยับยั้งจากการรบกวนนาย แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคนอย่างนายที่มาเพิกเฉยต่อฉัน การกระทำของนายจึงคล้ายกับการทำลายสิ่งของที่สวยงาม! ช่างน่าขายน่าขายหน้าและหงุดหงิดเสียจริง!’
อย่างไรก็ตาม เธอจะปล่อยมันไปคราวนี้ หลังจากนั้น เธอก็ออกจากรถไฟความเร็วสูงไปพร้อมกับกลุ่มของเธอเหมือนกัน
“นายไม่ได้บอกว่าจะมีคนมารับพวกเรา เมื่อพวกเรามาถึงที่สถานีหรอกเหรอ วอร์เรน?” เมอาถามขณะที่เพื่อนสองสามคนของเธอเริ่มมองไปรอบ ๆ
และในขณะที่เธอถามไปแบบนั้น ก็ได้ยินเสียงรถคนหนึ่งบีบแตร ไม่กี่วินาทีต่อมา รถแลนด์โรเวอร์คันใหญ่ก็ขับมา และหยุดอยู่ตรงหน้ากลุ่ม
คนขับลดกระจกรถลงและไม่นานกลุ่มก็ได้เห็นชายหนุ่มคนหล่อที่กำลังขับรถ
“ทางนี้ วอร์เรน!” ชายคนนั้นกล่าว
“จาเมียร์!” วอร์เรนตอบกลับพร้อมกับโบกมือให้เล็กน้อย
“ว้าว! เป็นรถแลนด์โรเวอร์! เพื่อนของนายทำงานอะไรเนี่ย วอร์เรน?” หญิงสาวสองสามคนที่ยืนข้างเขาถามขึ้นมา
“อ่า อืม เขาเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉันในโรงเรียนตำรวจ หลังจากเขาเรียนจบ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้กลายมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นั่นเป็นเพราะพ่อของเขาเรียกเขากลับบ้านไปเพื่อที่เขาจะได้รับช่วงบริษัทของครอบครัวของเขาน่ะ!” วอร์เรนตอบกลับด้วยการหัวเราะเบา ๆ
พวกสาว ๆ อดไม่ได้ที่จะมองไปที่วอร์เรนด้วยความชื่นชมหลังจากได้ยินแบบนั้น
ทำไมคนที่ยอดเยี่ยมถึงเป็นแบบนั้นนะ? ทุกคนที่พวกเธอรู้จักก็ค่อนข้างเป็นคนพิเศษไม่แพ้กันเลย!
“เมื่อพูดแล้วก็ เมอา เธอไม่ได้พูดว่าเธอมีเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายที่สนิทกันหลายคนในเขตปกครองซอลฟอร์ดหรอกเหรอ? เธอพูดว่าพวกเขาจะมารับพวกเราหนิ ใช่ไหม? ถ้าพวกเราจากไปด้วยรถคันนี้ตอนนี้ พวกเขาจะไม่สามารถพบกับเราได้หรือเปล่าถ้างั้น?” หนึ่งในสาว ๆ ถาม
“เมื่อพูดถึงเพื่อนร่วมชั้น เพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายคนหนึ่งของเธอเป็นไงบ้างตอนนี้? คนที่เธอบอกว่าก่อตั้งธุรกิจของตัวเองน่ะ? เขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” วอร์เรนถาม ขณะที่เขาเดินไปที่รถของจาเมียร์
“โอ้ เพื่อนคนนั้นเหรอ? พวกเราทั้งคู่มาจากทีมแข่งขันของโรงเรียนมัธยมปลายของเราในตอนนั้น และเขาคือหนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นหลายคนของฉันที่ผ่านการทดสอบและสุดท้ายก็มาสิ้นสุดลงในเขตปกครองซอลฟอร์ด เนื่องจากภารกิจของพวกเราจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ ฉันคิดว่ามันคงจะดีที่จะพบเขาเพื่อสนุกกันก่อน ฉันต้องพูดนะ วอร์เรน เพื่อนของฉันไม่ได้โดดเด่นใกล้เคียงกับจาเมียร์เลย!” เมอากล่าว อย่างค่อนข้างอารมณ์เสีย
ตอนนั้น พวกเขาทุกคนยืนอยู่ข้างรถแลนด์โรเวอร์ของจาเมียร์ ในขณะที่พวกเขายังคงแนะนำกันเองต่อไปเพื่อทำความรู้จักกันและกันให้ดีขึ้น และก็ได้ยินเสียบีบแตรอีกคันดังขึ้นมา
ครั้งนี้เป็นรถ BMW ซีรี่5 ที่มาจอดอยู่ข้างหลังรถของจาเมียร์
เมื่อกระจกหน้าลดลงมา ก็สามารถเห็นชายหญิงนั่งอยู่ข้างกัน
จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็โบกมือให้ ขณะที่พวกเขาพูดขึ้น “มันก็นานแล้วนะ เมอา!”
“วินซี่! เลนนาร์ด!” เมอาตอบกลับอย่างมีความสุข
เมื่อเห็นว่าแม้แต่เพื่อนร่วมชั้นของเมอาก็มาถึงด้วยรถหรูเพื่อรับเธอ หญิงสาวสองคนที่ยืนอยู่ข้างเธอก็กลายเป็นอิจฉาเล็กน้อย
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม พวกเธอไม่มีเพื่อนร่วมชั้นหรือเพื่อนมากมายขนาดนั้นที่จะโอ้อวดถึงได้เลย แม้ว่าครั้งหนึ่งพวกเธอจะเคยมีก็ตาม แต่พวกเธอก็เลิกติดต่อกับพวกเขาไปนานแล้ว
จากนั้นการทักทายและการแนะนำตัวก็เริ่มขึ้นต่อ คราวนี้มีสองคนเพิ่มเติมมา
เนื่องจากว่าพวกเขาทั้งหมดคือ คนที่ประสบความสำเร็จกัน พวกเขาจึงมีความคิดและความเข้าใจที่คล้ายกันมาก
“พวกเราไม่ได้พบกันและกันมานานหลายปีขนาดนี้แล้ว เมอา! ฉันคิดถึงเธอมากเลย! นี่เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับพวกเราที่จะได้รวมตัวกันอีกครั้ง!” วินซี่กล่าว ขณะที่เธอจับมือทั้งสองข้างของเมอาอย่างกระตือรือร้น วินซี่เองก็ดูค่อนข้างมีเสน่ห์
ทันทีทันใดนั้น วินซี่ก็เงยหน้าขึ้น ขณะที่เธอจ้องไปด้านหลังของเมอา ดูค่อนตกตะลึงไป
“…ห๋า? นั่นไม่ใช่…นั่นอาจเป็นเจอรัลด์จริง ๆ หรือเปล่า?” วินซี่กล่าวขณะที่เธอสังเกตุเห็นเจอรัลด์ และกลุ่มแปลก ๆ ของเขาเดินออกไปจากสถานีด้วยกัน ในขณะที่ถือกระเป๋าเดินทางของพวกเขา
“ฮึ่ม! ก็เขาน่ะสิ!” เมอาตอบ