มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 693
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 693
“แจสมิน? มินดี้! มั้งสองคนจะไปไหนกัน?” ชายชราคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาอย่างค่อนข้างเย็นชา
“พวกเราจะออกไปเล่นกันค่ะ คุณปู่!”
“ไม่ต้อง เธอไปไม่ได้! พวกเธอทั้งคู่ กลับมาที่นี่เดี๋ยวนี้! เด็กพวกนี้ไม่เคยออกจากบ้านกัน ไม่แม้แต่ก้าวเดียว! เข้าใจสิ่งที่ฉันบอกใช่ไหม?” ชายชราตะเบ็งเสียงใส่ ขณะที่เขาหันไปมองคนใช้ไม่กี่คน
“เข้าใจแล้วค่ะ นายท่าน!”
“แต่…แต่ทำไมล่ะคะ คุณปู่? ทำไมเพื่อน ๆ ที่เหลือของพวกเราถึงออกไปเล่นได้ล่ะ? ทำไมพวกเราถึงไม่สามารถทำแบบเดียวกันได้ล่ะ? พวกเราต้องการไปโรงเรียนอนุบาลและเล่นสนุกกับเพื่อน ๆ ของพวกเรา!” แจสมินที่อายุประมาณหกขวบในตอนนั้นตอบกลับ แม้ว่าจะอายุยังน้อย แต่เธอก็เริ่มตั้งคำถามกับการตัดสินใจของคุณปู่ของเธอแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม การตอบกลับเพียงอย่างเดียวที่เธอได้รับกลับมาก็คือ การตบหน้าเธออย่างแรง!
นั่นเป็นครั้งแรกที่แจสมินเคยถูกทุบตี
คุณปู่ของพวกเธอรักพวกเธออย่างสุดซึ้ง นอกเหนือจากดวงดาวและดวงจันทร์แล้ว เขาจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้อะไรก็ตามที่พวกเธอพอใจ เอาตามตรง มินดี้และแจสมินก็ได้รับพรพร้อมกับของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เด็กคนไหน ๆ จะเคยหวังได้
แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนั่นย่อมมีราคาตามมา ตั้งแต่เกิด พวกเธอถูกห้ามไม่ให้มีปฏิสัมพันธ์กันกับโลกภายนอก
เมื่อในที่สุดเธอรู้สึกถึงแรงปะทะของการตบนั้น จากนั้นแจสมินตัวน้อยจึงปล่อยโฮออกมา
การตบนั้นจะยังคงใหม่ในความทรงจำของเธอ ขัดขวางไม่ให้เธอออกจากบ้านไปอีกสองสามปี แต่อย่างไรก็ตาม โลกภายนอกนั้นช่างน่าอัศจรรย์ใจมากเกินไป และเต็มไปด้วยสิ่งน่าพิศวง ในที่สุดความอยากรู้อยากเห็นของเธอจึงเอาชนะเธอจนได้
เธออายุสิบสองปีเมื่อในที่สุดเธอและมินดี้พยายามหลบออกไปเงียบ ๆ อีกครั้งเพื่อจะแอบดูโลกที่อยู่เหนือไกลออกไปจากบริเวณบ้านของพวกเธอ
แต่อย่างไรก็ตาม แผนการของพวกเธอก็ถูกค้นพบโดยคุณปู่
เป็นวันนั้นเองที่คุณปู่ออกกฏที่เข้มงวดขึ้นเท่าที่ครอบครัวจะเคยเห็นมา
แม้ว่าจะอายุสิบสองปีเท่านั้น แต่แจสมินก็ถูกเขาเฆี่ยนอย่างไม่ปราณี! เธอถูกเฆี่ยนอย่างรุนแรงจนเมื่อคุณปู่ของเธอหยุดมือ ผิวหนังบนหลังของเธอถึงกับแตกออก และมีเลือดไหลอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานั้นก็เท่ากับเป็นการลงโทษสำหรับคุณปู่ของเธอเช่นกัน ชายชราเกือบจะปล่อยให้ตัวเองเช็ดน้ำตาด้วยความเศร้าโศกแล้วขณะที่เขายังคงเฆี่ยนหลานสาวสุดที่รักของเขาต่อไป
“…ปู่ก็อยากปล่อยให้พวกแกออกไปเล่นกันเหมือนกัน…แต่…แต่แกต้องจำไว้ว่าพวกเราเป็นใคร! พวกเรามีศัตรูอยู่ทั่วทุกที่! โปรดเข้าใจด้วยว่าสิ่งที่ปู่ทำก็เพื่อประโยชน์ของพวกแกเอง! ทำไมพวกแกเด็ก ๆ ถึงไม่เข้าใจเรื่องนั้นกันบ้าง?!”
จนถึงทุกวันนี้ แผลเป็นจากการลงโทษนั้นก็ยังคงอยู่บนหลังมินดี้และแจสมินอยู่ และพวกมันก็จะหลอกหลอนพวกเธอตลอดไป เป็นเครื่องเตือนใจของเงาในวัยเด็กของพวกเธออยู่เสมอ
เป็นเฉพาะตอนที่แจสมินและมินดี้โตมากพอ และมีสามัญสำนึกมากขึ้นเกี่ยวกับว่าโลกเป็นยังไงแล้วเท่านั้นเมื่อในที่สุดคุณปู่ของพวกเธอก็อนุญาตให้พวกเธอศึกษาต่อนอกเหนือกำแพงบ้านได้ ในที่สุดพวกเธอก็ได้รับโอกาสให้ได้เห็นโลกภายนอกแล้ว!
แน่นอน มีหลักประพฤติอย่างหนึ่งสำหรับสิ่งนั้น พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นเพื่อนกันคนภายนอก
ดังนั้น ก็เหมือนกับเฟนเดอร์สันคนอื่น ๆ หญิงสาวสองคนมีวัยเด็กที่ไม่สมบูรณ์ และการเริ่มต้นชีวิตของพวกเธอก็ถูกทิ้งให้หยุดยั้งอยู่แค่นั้นโดยสิ้นเชิง
ทั้งหมดนี่คือความผิดของ ‘ศัตรู’ ที่คุณปู่ของพวกเธอคอยแต่พูดถึงให้ฟัง
แม้เขาจะเอาแต่เน้นย้ำถึงอันตรายที่ศัตรูของพวกเขาก่อไว้ แต่จริง ๆ แล้วคุณปู่ของพวกเธอก็ไม่เคยบอกทั้งสองสาวเลยว่าจริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่
การเป็นผู้ชายที่มีความคิดโบราณ เขาเพียงทึกทักเอาเองว่าพวกเธอไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้กันเพราะพวกเธอทั้งคู่เป็นเด็กผู้หญิง
เป็นเพราะแบบนั้นที่แจสมินรู้สึกทุกข์ใจมากเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้
ทำไมพวกเธอถึงไม่ได้รับอนุญาตให้รู้ล่ะ? เมื่อวัยเด็กของพวกเธอถูกพรากไปจากพวกเธออย่างสิ้นเชิงมากพอ ๆ กับผู้ชายคนก่อน ๆ ในครอบครัวหรือเปล่า? งั้นพวกเธอก็ควรจะได้รับอนุญาตให้มีวัยเด็กที่แท้จริงไม่ใช่เหรอ?
ความไม่พอใจของเธอทำให้เธอต่อสู้เพื่อที่จะได้กลายมาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในทุก ๆ ด้านที่เธอคิดได้ เธอต้องการที่จะพิสูจน์ว่าเธอก็มีเกียรติไม่น้อยไปกว่าผู้ชายเลย!
กลับมาที่ปัจจุบัน แจสมินสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะมองไปที่มินดี้
“พอได้แล้ว มินดี้…ไม่มีความจำเป็นที่พวกเราจะหวนคิดถึงอดีต ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราก็อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่ามากในวันนี้!”
“ใช่ ใช่ ฉันรู้แจสมิน…ฉันรู้ว่าเธอเกลียดศัตรูคนนั้นมากกว่าที่ฉันจะเคยเสียอีก…ไม่ว่าจะยังไง วันหนึ่งพวกเราจะทำให้พวกเขาต้องชดใช้ความเจ็บปวดทั้งหมดที่พวกเขาทำกับเราไว้!” มินดี้ตะโกนอย่างแน่วแน่
“พวกเราจะแน่นอน! แม้คุณปู่จะยังคงไม่เต็มใจบอกความจริงเกี่ยวกับศัตรูกับพวกเรา แต่พวกเราก็เตรียมพร้อมสำหรับวันนั้นมานานแล้วตอนนี้ วันนั้นจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน!” แจสมินตอบกลับขณะที่เธอตบไหล่มินดี้เบา ๆ
วันต่อมา เจอรัลด์มาถึงที่ชั้นเรียนเพียงเพื่อจะพบว่าอิซาเบลคือ คนแรกที่เขาจะเจอ
พูดตามตรง เธอก็ดูค่อนข้างน่านับถือ แต่เป็นอารมณ์ของเธอที่ทำให้เขาท้อมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม เธอดูเหมือนจะค่อนข้างอารมณ์ดีในวันนี้ แถมยังเล่นมุขขำ ๆ ไปเรื่อยกับเพื่อนไม่กี่คนของเธอด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เธอเห็นเจอรัลด์ เธอก็กรอกตาก่อนจะลุกยืนขึ้น
“อ่า มาร์เวนกับเจอรัลด์ ช่างน่าบังเอิญอะไรอย่างงี้! พวกนายทั้งคู่น่าจะเห็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยขวดน้ำระหว่างทางมาที่นี่ ใช่ไหม? พวกมันสำหรับชั้นเรียนของเราดังนั้นพวกนายทั้งคู่ควรไปนำพวกมันมาให้พวกเราซะ!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาที่เหลือก็เม้มปากกัน พยายามอย่างหนักที่จะไม่ยิ้มเยาะออกมา
ตามปกติแล้ว เจอรัลด์ก็โกรธเล็กน้อยกับเรื่องนี้ เขาตระหนักดีว่าเธอกำลังพยายามที่จะแกล้งพวกเขาอยู่
มาร์เวนเองก็แทบจะไม่พยายามปกปิดความขุ่นเคืองของเขาเลย “ทำไมถึงเป็นแค่พวกเราล่ะ? ไม่มีทางหรอกโว้ยที่พวกเราแค่สองจะสามารถยกทั้งหมดนั่นขึ้นบันไดมาได้!”
“ไหนว่าไงนะ?”
“เขาพูดว่า พวกเราจะไม่สามารถยกทั้งหมดนั้นขึ้นบันไดมาได้!” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขาย้ำคำตอบกลับของมาร์เวน