มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 707
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 707
เมื่อตระหนักว่าเจอรัลด์กำลังเมินเธอ โดยเจตนานั่นจึงจุดชนวนความโกรธของเธอ
‘นายคิดว่านายเป็นใครที่จะมาเพิกเฉยต่อฉัน?’ เมอาคิดกับตัวเอง
“เธอต้องการอะไร?”
เมื่อรู้ว่าเขามีความรู้สึกผสมปนเปต่อเมอา เจอรัลด์ก็พบว่าเหตุผลนั้นเพียงพอที่เขาจะเพิกเฉยต่อเธอก่อนหน้านี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเข้าใจว่าทำไมเธอถึงจะหงุดหงิดที่เห็นเขา ตอนนี้ที่เขาร่ำรวยกว่าเธออย่างชัดเจน
เขาก็แค่ไม่อยากจะสนใจเธอ
“ตอนนี้นายร่ำรวยขึ้นมาเล็กน้อยแล้วไง? อย่างกับว่านั่นคือเหตุผลที่ดีที่นายจะมาเพิกเฉยต่อฉันได้! ยังไงซะ ฉันก็อยากจะรู้ว่านายได้เงินทั้งหมดนั้นมาจากไหน” เมอาถามคำถาม ขณะที่เธอจ้องเข้าไปในสายตาของเจอรัลด์
“ขอโทษนะ นั่นเรื่องส่วนตัว” เจอรัลด์ตอบกลับอย่างเย็นชา
“ส่วนตัวเหรอ? ฮ่า! นายแค่ได้รับเงินสดมากขึ้นมาเล็กน้อย เรื่องไม่เป็นเรื่อง! นั่นก็ยังคงไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่านายเป็นคนยากไร้ในอดีต! ฉันจะพูดตามตรงไม่อ้อมค้อมกับนายนะ เจอรัลด์! นายเป็นไปได้มากที่สุดก็แค่เศรษฐีใหม่ เข้าใจไหม? และเศรษฐีใหม่ที่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อเสียงแย่ ๆ กับการเป็นไอ้โง่ที่เย่อหยิ่งอย่างนาย! ไม่เหมือนกับจาเมียร์และคนอื่น ๆ แน่นอนว่านายยังขาดความเป็นผู้ใหญ่และความมั่นคง!” เมอาพูดอย่างขุ่นเคือง เห็นได้ชัดเจนว่าไม่อยากจะพ่ายแพ้
“ยังไงก็ได้ พูดแล้วก็ มาร์เวนกับฉันกำลังวางแผนที่จะหาสถานที่ที่ดีเพื่อจะเริ่มต้นบริษัทใหม่ของเรา ถ้าไม่มีอะไรอื่นแล้ว พวกเราจะไปแล้วเดี๋ยวนี้!” เจอรัลด์กล่าว ส่ายหัวของเขาด้วยรอยยิ้มมืดครึ้ม
มันไม่ใช่ครั้งแรกของเขาที่ถูกดูถูกแบบนี้อยู่ดี
‘อย่างกับว่าการดูถูกของเธอมีความหมายอะไรกับฉันงั้นแหละ มันเปล่าประโยชน์ที่จะพยายามอธิบายอะไรก็ตามให้ใครบางคนอย่างเธอฟัง’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง
“…บริษัทเหรอ? นายจะเริ่มต้นบริษัทใหม่งั้นเหรอ?” เมอาถาม
มันน่าอารมณ์เสียอย่างยิ่งสำหรับเธอที่เห็นเจอรัลด์กำลังก้าวหน้าในชีวิต แม้แต่เธอก็ไม่มั่นใจว่าทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนี้ แต่เธอก็รู้สึก
“ใช่! เจอรัลด์จะลงทุนเพื่อที่พวกเราจะสามารถเริ่มต้นบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวด้วยกัน!” มาร์เวนค่อนข้างตื่นเต้นขณะที่เขาตามเจอรัลด์เข้าไปในวิทยาเขต
นี่ไม่ใช่เรื่องโกหกเหมือนกัน เจอรัลด์ได้โทรหามาร์เวนเมื่อวานนี้ประมาณตอนเที่ยง เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้
เนื่องจากสุขภาพของย่าของมาร์เวนแย่ลงเรื่อย ๆ และความสัมพันธ์ของเขากับราเคลก็อยู่ในความยุ่งเหยิงเช่นกัน เอาตามตรงมาร์เวนจึงรู้สึกเครียดอย่างเหลือเชื่อ อย่างไรก็ตาม เมื่อเจอรัลด์ก้าวเข้ามาช่วยเหลือเขา มาร์เวนจึงรู้ว่าไม่นานเขาจะสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากของเขาไปได้แน่
เขารู้สึกขอบคุณต่อเจอรัลด์อย่างมากหลังจากได้รับข้อเสนอให้เริ่มต้นบริษัทด้วยกัน แม้เขาจะเห็นเจอรัลด์เป็นเพื่อนสนิทมาก่อน แต่ตอนนี้เขาปฏิบัติต่อเจอรัลด์ราวกับว่าเขาเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเขาเองแล้ว
ขณะที่สองคนเดินจากไปไกลแล้ว วอร์เรนก็ดูโกรธอย่างมาก “เขามีโชคแบบไหนกัน?”
“ใครจะไปรู้? กระนั้น แม้ว่าเขาจะเปิดบริษัท เขาก็จะเป็นคนเดียวที่ลงทุนมันอยู่ดี!” เมอากล่าว
“เธอพูดถูก ฮึ่ม! คอยดูเหอะ เขาจะใช้เงินนั่นจนหมดในท้ายที่สุดแน่ แล้วเขาจะมีอะไรอีกล่ะงั้น?” วอร์เรนตอบกลับ น้ำเสียงของเขาขุ่นเคือง
“…ยังไงซะ หยุดพูดถึงเรื่องเจอรัลด์และเริ่มไปต่อกันเถอะตอนนี้ โรงเรียนจะจัดการแข่งขันเทควันโด้ จำได้ไหม? จากงานทั้งหมดในโรงเรียน งานนี้สะดุดตาฉันมากที่สุด!” วอร์เรนกล่าวเพิ่ม
“โอ้ใช่ ก่อนที่นายจะเข้าโรงเรียนตำรวจ นายเคยเป็นตัวแทนรุ่นพี่หนิ ใช่ไหม? เนื่องจากนายเป็นแชมป์เทควันโด้ของซันนี่เดล นายจะสามารถให้คำแนะนำรุ่นน้องของนายได้หลังจากดูการแข่งขัน!”
จากนั้นกลุ่มห้าคนก็เข้าไปในวิทยาเขตเช่นกัน พูดคุยในหมู่กันเองอย่างสบาย ๆ
ในขณะเดียวกัน เจอรัลด์และมาร์เวนก็เพิ่งเซ็นชื่อเข้าเรียนในชั้นเรียนของพวกเขา เมื่อเห็นว่าพวกเขาเพียงชั้นเรียนมโนคติวิทยาในเช้าวันนั้นเท่านั้น พวกเขาจึงตัดสินใจจากไปกัน
ขณะที่พวกเขาเดินลงบันไดไป เจอรัลด์ก็คิดว่าทำไมเขาถึงเต็มใจที่จะช่วยเหลือมาร์เวนมากขนาดนี้ มันอาจจะเกี่ยวกับที่ว่าเขาเห็นตัวเองในตัวมาร์เวนมากแค่ไหนก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทั้งคู่ก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้นในสองสามวันก่อนมานี้ และเจอรัลด์ตอนนี้ก็เห็นเขาเป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่งเช่นกัน
มาร์เวนเป็นคนที่กตัญญูอย่างยิ่งเหมือนกัน และเจอรัลด์ก็ยินดีกับการที่มาร์เวนรักทั้งพ่อแม่และปู่ย่าของเขามากแค่ไหน เมื่อรู้ว่ามาร์เวนเป็นคนดีมากแค่ไปน เจอรัลด์จึงยิ่งกว่ามีความสุขที่จะสนับสนุนเขาซึ่งนำไปสู่แนวคิดของเขาในการร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของมาร์เวน
นอกจากนี้ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นปัญหาทางการเงิน มันจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับเจอรัลด์เลยด้วยซ้ำ เขามีเจตนาที่จะช่วย ดังนั้นมันเป็นเรื่องถูกต้องที่จะทำเพื่อน้องชายของเขา
โดยไม่คำนึงถึง ขั้นตอนสำคัญแรกที่พวกเขาจะต้องทำก็คือตัดสินใจว่าบริษัทจะตั้งอยู่ที่ไหน