มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 769
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 769
เซร่าเป็นลูกสาวที่มีอนาคตมากที่สุดของนายท่านเฟนเดอร์สัน และยังเป็นบุคคลที่โดดเด่นมากที่สุดอันดับสองภายในตระกูลเฟนเดอร์สัน ความจริงแล้ว ตำแหน่งของเธอยังสำคัญมากกว่าอีกด้วย เมื่อเทียบพ่อของแจสมิน
เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้อย่างเดียวก็เป็นการอธิบายอย่างชัดเจนให้เข้าใจแล้วว่า เซร่าเป็นคนที่มีไหวพริบและฉลาดมากแค่ไหน
เพิ่มเติมด้วยการหยั่งรู้โดยสัญชาตญาณที่เหนือกว่าของเธอ เซร่าจึงมั่นใจว่าพ่อของเธอคือคนที่ลักพาตัวเควต้าไปแน่ แม้เธอไม่รู้ว่าเขาพบเธอตั้งแต่แรกได้ยังไงก็ตาม
“ฉันรู้จักพวกเฟนเดอร์สันเป็นอย่างดี เจอรัลด์ ในขณะที่เรื่องภายในที่ซับซ้อนมากมายเกิดขึ้นภายในตระกูลเฟนเดอร์สัน หากพ่อของฉันเป็นคนที่ลักพาตัวเควต้าไปล่ะก็ งั้นฉันก็วางใจได้ว่าเขาจะไม่ทำเรื่องต่าง ๆ ให้ยากสำหรับเธอหรอก ปัญหาก็คือ ฉันไม่สามารถพูดได้แบบเดียวกันเกี่ยวกับสมาชิกเฟนเดอร์สันที่เหลือ…”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! กระนั้น…เมื่อคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากอารมณ์โกรธชั่วขณะที่ฉันมีต่อเขาเมื่อหลายปีก่อนล่ะก็! แม้ฉันมั่นใจว่าเขาเสียใจกับมัน แต่เห็นได้ชัดว่านิสัยของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย! เขายังคงคาดหวังที่จะให้ฉันก้าวออกไป และขอโทษเขาอย่างจริงใจหรือเปล่า?” เซร่าอธิบาย ด้วยรอยยิ้มขมขื่นบนใบหน้าของเธอ
“ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงกันดีล่ะครับ คุณอาเฟนเดอร์สัน? ผมแค่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลขึ้นมา ในตอนนี้ที่ผมรู้ว่าเควต้าอยู่กับพวกเขา!” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขาส่ายหัวของเขา
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เควต้าก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา เธอเป็นคลอฟอร์ดเหมือนกันกับเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นคนที่พาเควต้ามาด้วยกันกับเขาที่นี่ ตอนนี้ที่เธอประสบกับความโชคร้ายมากมายขนาดนี้ก็เป็นเพราะเขา แล้วเขาจะแค่ปล่อยเธอไว้คนเดียวได้ยังไงกัน
“พวกเราคิดว่าเราควรบุกเข้าไปในคฤหาสน์ของพวกเขาเพื่อช่วยคุณหนูรอง คุณคลอฟอร์ด!” เดรกและไทสันกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน
“อย่าเลย ฉันรู้ว่าพวกคุณทั้งคู่มีสมรรถภาพสูง แต่ด้วยความเคารพอย่างสูง พวกคุณจะไม่สามารถล้มลูกน้องสี่คนของพ่อของฉันได้หรอก เพื่ออธิบายให้ชัดเจนนะ ภูมิหลังของตระกูลเฟนเดอร์สันครั้งหนึ่งก็พอเทียบได้กับตระกูลคลอฟอร์ด ไม่ทางแน่ที่พวกเราไม่กี่คนจะสามารถบุกเข้าไปได้ตามชอบใจ!” เซร่าตอบกลับ
เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้ชายทั้งคู่จึงก้มหน้าลงด้วยความละอายใจ
“…งั้น พวกเราควรปล่อยคุณหนูรองไว้ตามลำพังเหรอครับ? พวกเราไม่ช่วยเธอเหรอ?” ไทสันถาม
“แน่นอนว่าไม่! แม้ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม แต่ก็มีโอกาสที่พวกเราจะช่วยเธอได้อย่างแน่นอน อืม มันจะป็นวันเกิดของพ่อของฉันในอีกสามวันนี้ ตามธรรมเนียมของตระกูลเฟนเดอร์สัน งานเลี้ยงขนาดใหญ่จะถูกจัดขึ้นจากนั้น ในวันนั้นนักธุรกิจที่มั่งคั่งและมีอิทธิพล เช่นเดียวกับครอบครัวเพื่อนที่ใกล้ชิด ก็จะได้รับเชิญให้เข้าร่วม! นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะช่วยเควต้า!” เซร่าเสนอ
“งั้นสิ่งที่คุณกำลังวางแผนก็คือว่า พวกเราจะแอบเข้าไปในระหว่างงานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลเฟนเดอร์สัน และก่อเรื่องบางอย่างเพื่อให้พวกเราช่วยเควต้าได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็นงั้นเหรอครับ?”
“จริงด้วย ตระกูลจะต้องใช้กำลังคนจำนวนมากเพื่อทำให้งานหลายอย่างที่จำเป็นสำเร็จ เพื่อให้งานเลี้ยงวันเกิดดำเนินไปอย่างราบรื่น และแน่นอน เพื่อยังคงความลับเอาไว้ พวกเขาก็มักจะเลือกจ้างเชฟและบุคลากรจาทั้งภูมิภาคทางเหนือ หรือแม้แต่จากต่างประเทศด้วยซ้ำ โอกาสไม่อาจสมบูรณ์แบบไปได้กว่านี้อีกแล้วที่จะช่วยเธอได้!”
เมื่อออกเสียงทั้งหมดนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว จากนั้นเจอรัลด์จึงพยักหน้าเห็นด้วย
เมื่อถึงเวลา เขาจะพาเดรก, ไทสัน และผู้เชี่ยวชาญคนอื่นสองสามคนเข้าไปในคฤหาสน์กับเขา เขาจำเป็นต้องจัดเตรียมคนเพื่อรออยู่ข้างนอกเช่นเดียวกับแผนฉุกเฉินอย่างแน่นอน แม้เขาไม่เคยหวังว่าจะเอาชนะเฟนเดอร์สันด้วยกำลังภายในคฤหาสน์ของพวกเขาเองก็ตาม แต่การก่อความโกลาหลก็จะง่ายกว่ามากอย่างแน่นอน เมื่อเรื่องนั้นเกิดขึ้น พวกเขาจะสามารถช่วยเควต้าและออกจากคฤหาสน์ไป โดยหวังว่าคงไม่มีใครสังเกตเห็น
“พวกเราจะเข้าไปพร้อมกับบุคลากรที่ถูกจ้างได้ยังไงล่ะครับ?” เดรกถาม
“อืม เนื่องจากขั้นตอนการคัดกรองชาวต่างชาตินั้นเข้มงวดมาก พวกเขาจะต้องมุ่งไปที่การรวบรวมบุคลากรจากเมืองเมอร์รี่ก่อน พวกเราจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่นั่นโดยเร็วที่สุด และเมื่อพวกเราอยู่ที่นั่นแล้ว ฉันมีวิธีของฉันเองในการช่วยเหลือให้คุณเข้าไป เมื่อพูดแล้ว ฉันก็มีคนที่ไว้วางใจได้สองสามคนเช่นกัน ซึ่งฉันไว้ใจในหมู่เฟนเดอร์สัน ฉันจะแค่จำเป็นต้องถามพวกเขาถึงที่อยู่เฉพาะของเควต้า!” เซร่าตอบกลับ
เอาตามตรงเซร่าก็รู้สึกร้อนรนใจอย่างมาก เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นห่วงเควต้า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เมื่อใครก็ตามตกลงไปในอเวจีของตระกูลเฟนเดอร์สันแล้ว มันจะไม่สำเร็จง่าย ๆ เลยที่จะพาพวกเขาออกไปอีกครั้ง
เมื่อเข้าใจแบบนั้นจึงทำให้เธอรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เซร่าก็ยังคงสามารถมีสติดีอยู่ เพราะเธอมีประสบการณ์มากมายหลายปีในการจัดการกับพวกเขา
ในขณะเดียวกัน หมอหลายคนออกมาจากห้องโถงลับในคฤหาสน์ของตระกูลเฟนเดอร์สัน
“ท่านเฟรเดอร์สัน คุณสมิธเพียงปฏิเสธที่จะรับการรักษาทางการแพทย์ใด ๆ! ไม่เพียงแค่นั้น แต่เธอก็จะไม่ทานอะไรเช่นกันอีกด้วย! พวกเราพยายามโน้มน้าวเธอเท่าที่พวกเราสามารถทำได้ แต่เธอก็ปฏิเสธที่จะรับฟังครับ!” หนึ่งในหมอเหล่านั้นกล่าวด้วยความเคารพ
เมื่อได้ยินแบบนั้น ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของไบรสันก็สะท้อนให้เห็นความวิตกกังวลของเขา เขาก็อายุได้แปดสิบปีแล้วในปีนี้…