มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 859
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 859
ผู้ชายคนหนึ่งกระชากผมของยูราทันทีก่อนจะตบเขาหลาย ๆ ครั้ง
เป็นตอนนั้นเอง เมื่อยูราเห็นลูกน้องคนอื่นของเชนกำลังควงมีดใส่เขา เมื่อเขากลับมามีสติอีกครั้งในท้ายที่สุด
“อ อย่ากระทำบุ่มบ่ามตอนนี้เลย คุณหลง! ถ้ามีอะไร ก็พูดออกมาเถอะ!” ยูราพูดตะกุกตะกัก ขณะที่ความกลัวของเขาเพิ่มขึ้นในแต่ละวินาที
“ฮ่า! ถ้าคุณจะตระหนักได้มากขึ้นสักนิดว่าจะทำตัวให้เหมาะสมได้อย่างไรนั้น งั้นผมก็คงไม่จำเป็นต้องปฏิบัติต่อคุณแบบนี้ตั้งแต่แรกหรอก! ไม่ว่าจะยังไง ทำไมคุณถึงพูดราวกับว่าผมตามคุณมาเพราะจะหาเรื่องล่ะ? ผมมาที่นี่ก็เพื่อตัวคุณเอง! อย่าลืมว่า ไม่มีใครจะสามารถเดาได้ว่าเบมีพี่น้องคลอฟอร์ดอยู่ข้างเธอ ตอนนี้เธอก็เป็นผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในยานเคนทั้งหมดนี้แล้ว! ในขณะที่ตระกูลหลงจะทนทุกข์อย่างมากจากเรื่องนั้นอย่างแน่นอน ผมมั่นใจว่าคนที่จะต้องประสบกับการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงก็คือคุณนะ คุณเยลแมน! คุณไม่เห็นด้วยเหรอ? เมื่อทายาทในอนาคตของตระกูลของคุณ ตอนนี้กลับถูกลดระดับลงเป็นคนไม่สำคัญ ผมพูดไม่ถูกหรือไง?
เมื่อได้ยินแบบนั้น ยูราจึงกำหมัดอย่างแรงก่อนจะพูดขึ้นมา “คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่ คุณหลง?”
“ผมเหรอ? โอ้ ผมไม่ได้จะพูดอะไร! เมื่อพูดแล้วก็ ผมได้ยินมาว่าท่านผู้หญิงเยลแมนได้ประกาศว่าเบจะเป็นทายาทของตระกูลเยลแมน! คุณช่างอยู่ในตำแหน่งที่น่าสงสารเสียจริง…สุดท้ายแล้วคุณไม่เพียงแต่ไม่ได้รับอะไร แต่เบก็ยังวางแผนต่อต้านคุณกับครอบครัวของคุณแล้วอีกด้วย!”
เชนเฝ้ามอง ในขณะที่สีหน้าสิ้นหวังของยูราเปลี่ยนเป็นเลวร้ายลงด้วยทุกคำพูดที่เขาพูดไป เมื่อเขามั่นใจว่ายูราไม่สามารถเศร้าใจไปได้กว่านี้แล้ว จากนั้นเชนจึงกล่าวเสริม “เอาล่ะ เนื่องจากคุณก็หมดหวังมากขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณไม่ร่วมมือกับตระกูลหลงล่ะ? หากพวกเราจะมีอันเป็นไป พวกเราก็อาจจะสู้จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของพวกเราเช่นกัน ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ตระกูลหลงก็อาจลงเอยโดยไม่ต้องประสบกับความสูญเสียมหาศาลขนาดนั้น และคุณก็อาจจะยังคงสามารถควบคุมตระกูลเยลแมนได้! ความจริงแล้ว คุณยังสามารถลงเอยด้วยการเป็นเจ้านายของครอบครัวได้ด้วยซ้ำ ถ้าคุณร่วมกับพวกเรา!”
“คุณ…อะไรนะ…? แผนของคุณคืออะไร…?” ยูราถามหลังจากคิดเกี่ยวกับคำพูดของเชนครู่หนึ่ง
“สนใจใช่ไหม? งั้นก็มาคุยเรื่องนี้กัน!” เชนตอบกลับ ด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพยักหน้า
เวลาเกือบเช้าตรู่ในอีกสามวันต่อมา เมื่อรถทีมหนึ่งออกจากบ้านตระกูลเยลแมนไป
“เนื่องจากครอบครัวของเธอทั้งมีอำนาจและมีอิทธิพล มันจึงไม่น่าประหลาดใจที่เธอรู้เกี่ยวกับพวกโมลเดลในยานเคน…แม้ครั้งสุดท้ายที่ยายติดต่อพวกเขาไปสองสามปีก่อน ยายจำได้อย่างชัดเจนว่าตระกูลของพวกเขาเป็นหนี้บุญคุณยายครั้งหนึ่ง ถึงอย่างนั้นอย่างที่ยายพูดไป มันก็หลายปีแล้วตั้งแต่พวกเราพบกันครั้งสุดท้าย และยายก็ไม่มั่นใจว่าพกเขายังคงเต็มใจที่จะสนใจครอบครัวอย่างพวกเราหรือไม่…” ท่านผู้หญิงเยลแมนกล่าว ขณะที่เธอจับมือขวาของเจอรัลด์อยู่ในรถ
หลังจากทำความรู้จักเจอรัลด์ให้มากขึ้นเล็กน้อยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ ท่านผู้หญิงเยลแมนก็พบว่าตัวเองเอ็นดูหลานชายที่อ่อนโยนคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
เป็นผลให้เมื่อได้รู้เกี่ยวกับรายละเอียดของการหายตัวไปของมีล่า และน้องชายของดีแลน เธอจึงตกลงที่จะไปเผชิญหน้ากับตระกูลโมลเดลด้วยกันกับเจอรัลด์อย่างทันทีทันใด
เนื่องจากพวกเขามีเวลาว่างก่อนจะมาถึงที่บ้าของตระกูลโมลเดลกันจริง ๆ ท่านผู้หญิงเยลแมนจึงเล่าให้เจอรัลด์ฟังถึงใจความสำคัญที่เธอได้รู้จักมักคุ้นกับพวกโมลเดลตั้งแต่แรกได้อย่างไร
พูดง่าย ๆ มันเป็นเรื่องบังเอิญซะส่วนใหญ่
ตอนนั้นสมาชิกรุ่นเด็กของตระกูลโมลเดลกำลังดำเนินการภารกิจอยู่ แต่โชคไม่ดีภารกิจของพวกเขาถูกขัดขวาง และศัตรูของเขาก็เริ่มตามล่าเขาทันที มันบังเอิญว่าสวนที่เขาจัดการหนีเข้ามาได้นั้นเป็นของตระกูลเยลแมน
ขณะนั้นท่านผู้หญิงเยลแมนยังคงอยู่ในวัยสี่สิบของเธอ ตามที่เธอพูดมา เธอไม่ใช่คนหัวรั้นเหมือนอย่างที่เธอกลายมาเป็นในตอนท้าย
เด็กที่ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสคนนั้นที่เธอเห็นอยู่ในสวนอายุประมาณสิบหกปีได้ และด้วยความรู้สึกเวทนาในตอนนั้น เธอจึงพาเขาเข้ามาและช่วยชีวิตเขาไว้ หลายวันต่อมาเด็กคนนั้นก็จากไปแต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนั้น
เป็นเวลาหลายปีต่อมา เมื่อท่านผู้หญิงเยลแมนกลายมาเป็นเจ้านายของตระกูลเยลแมน เมื่อทั้งสองคนได้มาพบกันอีกครั้ง ตอนนั้นเธอกำลังพาลูกชายและลูกสาวออกไปร่วมงานในโอกาสต่าง ๆ ระหว่างครึ่งทาง ถึงอย่างนั้นคู่แข่งทางธุรกิจของตระกูลเยลแมนก็ขวางทางพวกเขาไว้! มันเป็นแผนการโจมตี!
ในระหว่างช่วงเวลาที่อันตรายอย่างที่สุด คน ๆ หนึ่งก็ก้าวออกมา และช่วยชีวิตท่านผู้หญิงเยลแมนและลูก ๆ ของเธอไว้ แม้เธอใช้เวลาสักพักหนึ่ง แต่ไม่นานเธอก็ตระหนักได้ว่าผู้ช่วยชีวิตของเธอคือเด็กคนนั้น ที่เธอช่วยเหลือไว้เมื่อหลายปีก่อน เขาจึงกลับมาตอบแทนน้ำใจของเธอ!
ก่อนที่เขาจะจากไป เขาจึงมอบที่อยู่ให้เธอ และบอกเธอว่าเขาจะให้ความช่วยเหลือเธออีกครั้งถ้าเธอจำเป็นต้องการความช่วยเหลือของเขาในอนาคต
มันก็เป็นเวลาเกือบจะยี่สิบปีแล้วตั้งแต่เธอได้ติดต่อเขาเป็นครั้งสุดท้าย เอาตามตรงเธอก็ไม่มั่นใจว่าเด็กคนนั้นจะยังจำสัญญานั้นได้อีกหรือไม่ด้วยซ้ำ
นี่จึงเป็นส่วนสำคัญของสถานการณ์
ในที่สุดรถก็มาถึงตรงบริเวณที่เต็มไปด้วยภูเขา
พื้นที่ทั้งหมดดูเหมือนจะเต็มไปด้วยกลิ่นไอที่น่าตกใจ ความจริงที่ว่าก็คือต้นไม้ทั้งหลายเติบโตขึ้นอย่างกว้างใหญ่ไพศาล เพียงแต่จะให้ความรู้สึกที่ไม่สบายใจเพิ่มขึ้นเท่านั้น
“ช่างเป็นภูเขาที่ใหญ่อะไรอย่างงี้…คุณยายแน่ใจนะครับว่านี่คือสถานที่นั้น? พวกเราไม่ได้ผ่านใครแม้แต่คนเดียวมาพักหนึ่งแล้ว…” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขาลงจากรถที่จอดอยู่แล้วเพื่อมองดูรอบ ๆ ด้วยความรู้สึกงงงวย
ขณะที่เขาช่วยท่านผู้หญิงเยลแมนลงจากรถ เธอก็ตอบกลับอย่างหนักแน่น “เด็กคนนั้นจะไม่โกหกยายหรอก…นี่คือที่อยู่ถูกต้องที่เขาให้ยายไว้ ดังนั้นยายมั่นใจว่าเขาจะอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน”
หลังจากกวาดมองผ่านบริเวณนั้นอีกครั้ง เจอรัลด์ก็ตระหนักได้ว่ามีบ้านไม้หลังหนึ่งอยู่สูงขึ้นไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่ามันยังคงมีบางคนพักอาศัยอยู่
“…รอผมอยู่ที่นี่นะครับ คุณยาย ผมจะมุ่งหน้าขึ้นไปที่นั่นเพื่อดูสักหน่อยว่าผมสามารถตามหาใครได้ไหม ถ้ามีคนอยู่ ผมจะถามพวกเขาว่าพวกเราอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่…”