มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 916
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 916
ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะทันได้โจมตี เจอรัลด์ก็หมุนเตะโดยเล็งไปที่หัวของพวกเขาทันทีที่พวกเขาเข้ามาใกล้พอ!
ในชั่วเวลาสั้น ๆ นั้น ลูกน้องโมลเดลทั้งคู่สามารถรู้สึกว่าดวงตาของพวกเขาแทบจะถลนออกมาจากกะโหลกของพวกเขาอยู่แล้ว ขณะที่พวกเขาบินถลาไปยังท้ายห้อง ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็หมดสติไปแล้ว!
“อะไรกัน?!” ทั้งเควนตินและเทรย์ตะโกนขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน สายตาของพวกเขาเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ
ทั้งสองคนนั้นเป็นนักเรียนของตระกูลโมลเดล…พวกเขาล้มลงด้วยเพียงลูกเตะเดียวจริง ๆ หรือ? และก็มาจากเจอรัลด์ด้วย?!
ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาของพวกเขาเอง พวกเขาก็คงจะไม่เชื่อมันแน่ อย่างไรก็ตามทุกคนก็อยู่ที่นั่นกันเมื่อฉากนั้นเกิดขึ้น
เจอรัลด์กลายมามีสมรรถภาพสูงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“เช่นนั้นวันนี้มีโมลเดลแค่สี่คนเท่านั้นใช่ไหม? อืม ฉันคิดว่ามีแค่พวกนายสองคนเหลืออยู่เท่านั้น งั้นก็เข้ามาด้วยกันเลย!” เจอรัลด์กล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา
“การ์ด! เข้ามาในนี้ เร็วเข้า!” โนอาสั่ง ขณะที่เขารู้สึกว่าเหงื่อกำลังไหลอาบหน้าผากของเขา
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเข้ามาเลย
เมื่อโนอาหันกลับไปมองเจอรัลด์อีกครั้งในที่สุด ใบหน้าของเขาก็ถึงกับซีดเซียวไปทันที เมื่อเขาเห็นรอยยิ้มเยาะบนใบหน้าของเจอรัลด์
“นาย…นายจัดการพวกเขาหมดแล้วใช่ไหม…? หรือนายฆ่าพวกเขาหรือเปล่า? ไม่ว่าจะยังไง ฉันหวังว่านายจะตระหนักเอาไว้ว่านายมายุ่งกับตระกูลโมลเดล! นายและคลอฟอร์ดคนอื่น ๆ อยากตาย หรือมีอะไรบางอย่างหรือไง? ลุงของเราจะทำลายครอบครัวของนายอย่างแน่นอนสำหรับเรื่องนี้!” คู่หูเควนตินและเทรย์ข่มขู่
แม้พวกเขาดูใจเย็น แต่เอาตามตรงทั้งสองคนก็รู้สึกกลัวมาก พวกเขาคงจะไม่ยกชื่อของคอร์ดขึ้นมาพูดหรอก ถ้าสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายมากขนาดนี้
“อนิจจา คอร์ดจะไล่ตามครอบครัวของฉันอย่างแน่นอนในตอนนี้! แค่นั้นแหละ ถ้าเขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ตั้งแต่แรก แต่ท้ายที่สุดแล้ว ตราบใดที่ไม่มีผู้รู้เห็นพูดถึงมัน งั้นก็ไม่มีใครจะรู้ว่าฉันคือคนที่ฆ่าหลานชายคน หรือคนสองคนของเขาหรอก!” เจอรัลด์ตอบกลับ รอยยิ้มของเขากว้างขึ้น
“ไอ้สารเลวเอ้ย! หยุดเรื่องทั้งหมดนี้เดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะรายงานเรื่องพวกนี้ให้ลุงของฉัน! นายต้องการให้เขาปลดปล่อยความโกรธแค้นทั้งหมดของเขากับคลอฟอร์ดจริง ๆ ใช่ไหม?!” เควนตินคำรามอย่างโกรธแค้น
เพียงแค่นั้น เจอรัลด์จึงส่ายหัวของเขา
“นายไม่เข้าใจมัน ใช่ไหม? ทำไมนายถึงจะทึกทักเอาเองว่าพวกนายคนไหนที่อยู่ภายในห้องนี้จะสามารถออกไปได้โดยมีชีวิตอยู่อีกในคืนนี้?”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เควนตินและเทรย์จึงท่วมท้นไปด้วยความโกรธจัด แม้แต่เบอร์กก็รู้สึกกลัวมากกับเสียงกัดฟันที่ดุร้ายของพวกเขา ขณะที่พวกเขาตะโกนขึ้น “แกมันสารเลวสุด ๆ! โมลเดลเป็นตระกูลที่มีเกียรติอย่างสูงพร้อมด้วยสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุด! แกมันก็แค่คนบ้านนอกคนหนึ่งเมื่อเทียบกับพวกเรา! พวกเราจะนำศพของแกกลับไปด้วยในคืนนี้ ถ้ามันเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเราจะทำ!”
เมื่อพูดไปแบบนั้น ทั้งคู่ก็พุ่งเข้าหาเจอรัลด์ทันที!
แตกต่างจากโมลเดลสองคนก่อนหน้านี้ เควนตินและเทรย์อยู่ในระดับที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็เป็นทายาทสายตรงของตระกูล และมีสายเลือดโมลเดลบริสุทธิ์ภายในตัวพวกเขา จึงทำให้พวกเขามีสมรรถภาพสูงมากกว่า
อย่างไรก็ตามพวกเขาประเมินเจอรัลด์ต่ำไปอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาไม่ใช่คนเดียวกันกับเขาที่เป็นเมื่อครึ่งปีก่อนอีกต่อไปแล้ว
ตลอดช่วงเวลานั้น เจอรัลด์ก็ได้แช่ตัวอาบน้ำสมุนไพรที่ฟินน์เลย์ได้จัดหามาให้เขา
ในขณะที่สามเดือนแรกที่ทำแบบนั้นได้ทำให้เขามีกำลังมากขึ้นเล็กน้อย แต่เป็นเดือนหลัง ๆ นี้เองที่ทำให้เจอรัลด์เปลี่ยนไปอย่างที่เขาเป็นในวันนี้ เอาตามตรงเขาก็รู้สึกประหลาดใจกับสมุนไพรที่เขาอาบนั้นว่ามีผลอย่างไร เมื่อในที่สุดเขาก็ได้ทดลองใช้ความสามารที่แท้จริงของเขาเป็นครั้งแรก
เมื่อรู้อย่างแน่ชัดว่าตอนนี้เขาแข็งแกร่งอย่างไรจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงไม่กลัวโมลเดลอีกต่อไปแล้ว อันที่จริงมันก็คงจะไม่ไกลเกินจริงที่จะอ้างว่า แม้แต่คอร์ดก็จะพบว่ามันยากที่จะฆ่าเขาด้วยตัวเอง
แม้กระนั้นเจอรัลด์ก็ยังคงยั้งจากการเผชิญหน้ากับคอร์ดโดยตรงอยู่ อย่าลืมว่าแม้เขามั่นใจว่ามีโอกาสสูงในการเอาชีวิตรอดจากเขาอย่างแน่นอน แต่เจอรัลด์ก็ไม่ต้องการจะดึงดูดความสนใจของคอร์ด เมื่อรู้ข้อเท็จจริงว่ากำลังของเขานั้นยังไม่ดีที่สุดที่จะเอาชนะเขาได้ เอาตามตรงเขาเป็นกังวลว่าถ้าเขาไม่ได้กำจัดคอร์ดในคราเดียว เขาก็คงจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องครอบครัวของเขาได้ เมื่อคอร์ดโจมตีกลับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าจะยังไงเจอรัลด์ก็ตระหนักถึงบางอย่างได้เช่นกัน ในระหว่างหกเดือนที่ผ่านมานี้ร่วมกันกับฟินน์เลย์
แม้ชายชราคนนั้นทำให้มั่นใจว่าจะต่อสู้กับเจอรัลด์อย่างน้อยก็สัปดาห์ละครั้ง แต่เจอรัลด์ก็มักจะลงเอยด้วยการตามหลังฟินน์เลย์อยู่ก้าวหนึ่งเสมอ แม้เขาสันนิษฐานไว้ว่าวันหนึ่งเขาจะสามารถเอาชนะชายชราคนนั้นได้ ตราบใดที่เขาฝึกฝนอย่างหนัก แต่ตลอดช่วงเวลานั้น วันนั้นก็ไม่เคยมาถึงเลย
เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอรัลด์เริ่มแข็งแกร่งขึ้น ฟินน์เลย์ก็ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากขึ้นอย่างฉับพลันเช่นกัน! เจอรัลด์จึงใช้เวลาพักหนึ่งจนในที่สุดก็เข้าใจได้ว่า เขาไม่สามารถแม้แต่จะทำนายขอบเขตของกำลังที่แท้จริงของฟินน์เลย์ได้เลยด้วยซ้ำ ในทางนั้น นั่นจึงทำให้เขาถ่อมตนลงเพราะเขารู้ว่าเขาจะไม่มีวันแข็งแกร่งได้เท่าชายชราคนนั้น
อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเจอรัลด์ที่จะประเมินกำลังของทั้งเควนตินและเทรย์ได้ แม้ว่าพวกเขาจะทำงานร่วมกันก็ตาม เจอรัลด์รู้ดีว่าพวกเขายังคงอ่อนแอกว่าเขา
สมมุตติฐานของเขาได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องเมื่อเสียงของกระดูกที่แตกละเอียดดังไปทั่วห้องในเวลาต่อมา
ขณะนี้เลือดไหลออกจากตาและปากที่อ้ากว้างของโมลเดลทั้งคู่ พวกเขาทั้งสองก็ล้มลงกับพื้นพร้อมเสียงดังตุ้บในที่สุด