มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 926
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 926
คราวนี้ อย่างไรก็ตามผู้ชายคนนั้นจะไม่แค่ยืนอยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้ว
ทันทีที่พวกเขาเข้าใกล้พอ ผู้ชายคนนั้นจึงคว้าของผู้ชายสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขาทันที ก่อนจะงอข้อมือของเขาเบา ๆ
ไม่กี่วินาทีต่อมา ผู้ชายทั้งคู่ก็เริ่มกระอักเลือดออกมาทันทีขณะที่พวกเขาได้ยินเสียงคอที่แตกละเอียดของพวกเขาง่าย ๆ แบบนั้น พวกเขาไม่มีชีวิตอีกต่อไปแล้ว จบลงอย่างง่ายดายเหมือนกับดับเทียนเล่มหนึ่ง
ตามมาหลังจากนั้น เขาทำซ้ำขั้นตอนเดียวกันกับผู้โจมตีที่เหลือของเขา โดยการกำจัดพวกเขาทั้งหมดด้วยความแม่นยำ และมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด
“น นายเป็นใครกันแน่…” เจ็ตต์พูดตะกุกตะกัก
คน ๆ นี้แข็งแกร่งอย่างมาก นอกจากนี้ วิธีการของเขาก็มีความชำนาญไม่แพ้กันกับพวกเขา ซึ่งน่ากลัวอย่างโหดเหี้ยม นอกเหนือจากคอร์ด เจ็ตต์ก็ไม่เคยเห็นใครอื่นที่มีพลังแท้ ๆ เช่นนี้เลย มันจึงทำให้เขาคิดว่าผู้ชายที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ คือคนมีฝีมือที่มีประสิทธิภาพสูงไม่น้อยไปกว่าพ่อของเขาเลย
เมื่อรู้ว่าแบบนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงตกใจมาก ขณะที่เขายังคงจ้องมองเจอรัลด์ต่อไป
“ไม่มีความจำเป็นต้องถาม แค่ตามฉันมา!” ผู้ชายคนนั้นตอบกลับ
“…เอาล่ะ เนื่องจากคุณเลือกบุคลิกของผู้อาวุโสคนหนึ่ง ผมก็จะตามไปในฐานะคนที่อ่อนกว่า แต่ก่อนเรื่องนั้น ผู้อาวุโส อย่างน้อยก็ช่วยบอกชื่อของคุณกับผมได้ไหม? ผมอยากจะเล่ามันให้พ่อของผมฟังในอนาคต ในขณะที่พวกเราดำเนินการนี้ อนุญาตให้ผมถามคำถามนี้ด้วย คุณเป็นเพื่อนหรือศัตรูกัน?” เจ็ตต์ถาม ขณะที่เขาหรี่ตาของเขาเล็กน้อย
“อย่าบอกว่าฉันไม่ได้เตือนนายว่าอย่าถามอะไรอีก”
มันเป็นสิ่งเดียวที่เจ็ตต์จะจดบันทึกเอาไว้ได้ ก่อนชายชุดดำจะเดินมาหาเขาทันที และจับไหล่ของเขาไว้ เพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้น ทั้งหมดที่เจอรัลด์ต้องการเพื่อใช้แรงกดดันเล็กน้อย และสร้างรอยแตกร้าวที่น่าสะอิดสะเอียน
ดวงตาของเจ็ตต์เบิกกว้างขึ้นทันที ขณะที่เขาคำรามด้วยความเจ็บปวด แขนของเขาเคลื่อน และถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง!
ถึงอย่างนั้นเจอรัลด์ก็ยังไม่เสร็จ การเคลื่อนของเขาต่อไปคือการเตะเข้าที่เข่าเจ็ตต์โดยตรง ทำให้ขาขวาของเขาเคลื่อนเช่นกัน
ขณะที่สายตาของเจ็ตต์เปบี่ยนเป็นแดงก่ำ ในขณะที่อดทนต่อความเจ็บปวด เขาก็หันไปมองผู้ชายชุดดำก่อนจะถามขึ้น “…แก… แกรู้บ้างไหมว่าพ่อของฉันเป็นใคร…?”
เขาไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าผู้ชายคนนี้จะเย็นชาและไร้ปราณีขนาดนี้
“ฉันไม่จำเป็นต้องหรอก” ผู้ชายชุดดำตอบกลับอย่างเย็นชา ขณะที่เขายกเจ็ตต์ขึ้นมาราวกับว่าเขากำลังแบกสุนัขขาเป๋ตัวหนึ่ง
เนื่องจากลูกน้องคนหนึ่งของเจ็ตต์ไม่ได้โจมตีเจอรัลด์ก่อนหน้านี้ เจอรัลด์จึงไม่ยุ่งกับเขา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาก็ตกใจกลัวจนแทบตายได้ ขณะที่เขาตัวสั่นอยู่มุมหนึ่งของห้อง
เขาโยนเจ็ตต์ไปทางลูกน้องของเขา เจอรัลด์ชี้ไปที่เขาก่อนจะสั่ง “ถ้านายต้องการมีชีวิตอยู่ แบกเขาและตามฉันมา! ตอนนี้ก็ไปกันเถอะ!”
โดยไม่มีทางเลือก ลูกน้องคนนั้นเพียงทำตามสั่ง
ขณะที่พวกเขาทั้งสามคนเดินออกมาจากประตูหน้าของวิลล่า โดยไม่ปัญหาอะไรมากนัก เจอรัลด์บังเอิญเห็นอะไรบางอย่างที่มุมตา เมื่อพาคนอีกสองคนลงจากเขาไปด้วย ใบหน้าของเขาค่อย ๆ ยิ้มออกมา และหายไปในสีรัตติกาลอย่างรวดเร็ว
ตรงจุดที่เจอรัลด์มองก่อนหน้านี้ คือผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกทารุณอย่างร้ายแรง ซึ่งกำลังกำหน้าอกของเขาแน่น เขาเป็นคนแรกที่เจอรัลด์อัดซะน่วมในคืนนั้น และเขาก็คลานมาตลอดทางจนถึงวิลล่าจากกลางเขา แม้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด แต่มันก็ซีดเซียวมากเช่นกัน ตรงกันข้ามกับความหลอกหลอนที่เห็น
นอกเหนือจากลูกน้องคนที่เจอรัลด์พาไปด้วยกับเขาแล้วนั้น ผู้ชายที่ได้รับบาดเจ็บคนนั้น ก็เป็นคนเดียวอีกคนที่มีชีวิตเหลืออยู่ที่นั่น
เมื่อตระหนักได้ว่าเจอรัลด์ออกไปจากคฤหาสน์ด้วยกันกับเจ็ตต์ ด้วยความยากลำบากเป็นอย่างมาก เขาจัดการนำโทรศัพท์ของเขาออกมา และกดหมายเลขได้ในที่สุด
“น นายน้อยสามถูกลักพาตัวไป! อีกฝ่ายเป็นคนมีฝีมือระดับสูง นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของสังคมลับเช่นกัน! จากเสียงของเขา เขาฟังดูเหมือนคนแก่คนหนึ่งที่อายุประมาณหกสิบปีได้! แจ้งให้นายท่านสองทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที และส่งคนมาที่นี่เดี๋ยวนี้!” ผู้ชายคนนั้นรายงานผ่านโทรศัพท์
“สมาชิกของสังคมลับงั้นเหรอ? และเขาก็ลักพาตัวนายน้อยสามไปด้วย?! หาทางตามพวกเขาไปอย่างใกล้ชิด! ฉันจะแจ้งให้นายท่านสองทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้เดี๋ยวนี้แหละ!” คนที่อยู่ในปลายสายพูดก่อนจะวางสาย
จากนั้นเขาก็รีบไปยังห้องลับ เพื่อถ่ายทอดสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินมา
“อะไรนะ? เจ็ตต์ถูกลักพาตัวไปงั้นเหรอ? ใครที่มีสติดีจะกล้าได้ขนาดนี้กัน?!” คอร์ดคำราม ขณะที่สายตาของเขาเบิกกว้างด้วยความโกรธ
“พวกเราไม่รู้ครับ กระนั้นจากคำบรรยายของลูกน้องคนนั้น เขาพูดว่าผู้ชายคนนั้นอาจอายุมากกว่าหกสิบปีได้ เขายังพูดว่าทักษะของคู่ต่อสู้ในปัจจุบันของพวกเราก็เทียบได้กับคุณ นายท่านสอง! เขาดูไม่เหมือนจะมีปัญหาอะไรในการพานายน้อยสาม และลูกน้องของเขาออกไปเลยสักนิด!”
ในขณะที่ลูกน้องคนนั้นกล่าวไปแบบนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“มีอะไรอัปเดตบ้างไหม? ว่าไงนะ? จังหวัดพาราไดซ์งั้นเหรอ?… ตกลง!”
หลังจากการวางสาย เขาก็มองไปที่คอร์ดอีกครั้ง ก่อนจะพูด “ตามสิ่งที่ลูกน้องคนนั้นบอกได้ พวกเขาทั้งสามคนดูเหมือนจะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดพาราไดซ์ครับ!”
“ใครกันจากจังหวัดนั้นที่มีปัญหากับเรา?” คอร์ดคำรามขณะที่เขาทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ โดยทำให้มันแยกครึ่งในท่าทางนั้น!
“ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นใคร เขาจะไม่สามารถหลุดรอดไปได้แน่ เมื่อฉันรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา!” คอร์ดตะโกนด้วยความเดือดดาล
เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ จากนั้นลูกน้องก็แนะนำขึ้นมา “คุณ…คิดว่ามันอาจเป็นใครบางคนจากตระกูลคลอฟอร์ดที่ทำแบบนี้ไหมครับ นายท่านสอง?”
“…ไม่ และฉันมีเหตุผลที่จะเชื่อว่าพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้อง อย่าลืมว่า ดีแลนจะไม่มีความกล้าหาญที่จะทำเรื่องพวกนี้ได้หรอก แม้เขาทำ เขาก็คงไม่มีกำลังคนสำหรับเรื่องนี้! มีบางอย่างที่ผิดปกติมากเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้…” คอร์ดอธิบายอย่างค่อนข้างใจเย็น ขณะที่เขาวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน
หลังจากชั่วครู่สั้น ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นก่อนจะพูด “สั่งกำลังทั้งหมดที่ควบคุมคลอฟอร์ดในเวลานี้ ให้ย้ายไปที่จังหวัดพาราไดซ์โดยเร็วที่สุด ต้องหาเจ็ตต์ให้พบไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!”
‘แกต้องมั่นใจ เจ็ตต์…เข้มแข็งไว้!’ คอร์ดคิดกับตัวเอง ขณะที่เขาถอนหายใจ