มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 948
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 948
เสียงนั้นมาจากเจอรัลด์ และหลังจากการพูดเย้ยหยันเสียงดัง เขาก็หยิบส้อมขึ้นมา
เมื่อมองไปที่แผ่นป้ายนั้น เจอรัลด์ก็หรี่ตาของเขาครู่หนึ่งก่อนจะสะบัดข้อมือของเขาอย่างรวดเร็วมาก เสี้ยววินาทีต่อมา ส้อมนั้นก็ไม่ได้อยู่ในมือของเจอรัลด์อีกต่อไป และก็ได้ยินเสียงแตกร้าวบางอย่างดังขึ้น!
เมื่อผู้ชมเงยหน้ามอง ส้อมถูกฝังลึกไว้ในชิ้นส่วนแผ่นป้ายโลหะชิ้นหนึ่งที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ซึ่งกำลังตกลงบนพื้น พร้อมกับสิ่งที่ยังคงเหลืออยู่ของแผ่นป้ายที่แตกหัก
ไม่นานเสียงดังสนั่นก็ตามมา ขณะที่แผ่นป้ายแตกเป็นเสี่ยง ๆ ต่อไปอยู่บนพื้น ส้อมยังคงมองเห็นได้อย่างขัดเจนสำหรับบอสทั้งห้าคน ขณะที่พวกเขากลืนน้ำลายอึกใหญ่
“…อ อะไรกันนี่…?”
ด้วยความช็อกและตกใจกลัวแผ่ซ่านไปทั่ว และคนที่กำลังสูบบุหรี่ก่อนหน้านี้ แต่ละคนก็รู้สึกว่าพวกเขากำลังคลายมือในการจับบุหรี่ของพวกเขา
“ค คน ๆ นั้นเป็นใครกันแน่เนี่ย…?”
“มัน…มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยไม่ใช่เหรอ…? ฉันหมายถึง คน ๆ หนึ่งจะมีกำลังมากขนาดนั้นในการทำลายแผ่นป้ายที่อยู่สูงขนาดนั้นได้ยังไงกัน?!”
มันชัดเจนว่าบอสทั้งห้าไม่เคยเห็นอุบายเช่นนี้มาก่อน ขณะที่พวกเขาพูดคุยถึงสิ่งที่พวกเขาเพิ่งเห็นด้วยตาไป ความหวาดกลัวสะท้อนในดวงตาของพวกเขา แม้ไม่มีใครเอ่ยถึงมัน แต่พวกเขาทั้งหมดก็คิดถึงสิ่งเดียวกัน ถ้าแผ่นป้ายสามารถแตกเป็นเสี่ยง ๆ ได้ง่ายดายแบบนั้นแม้ว่ามันจะอยู่สูงเหนือพื้นมากก็ตาม จะเกิดขึ้นอะไรขึ้นล่ะถ้าเจอรัลด์ใช้เทคนิคเดียวกันกับหัวของพวกเขา?
ในทางกลับกัน วิสเลอร์และคนของเขาเพียงมองกันและกันด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัยบนใบหน้าของพวกเขาเท่านั้น ขณะที่พวกเขาแต่ละคนคิด ‘ฮึ่ม ดูเหมือนว่านายท่านจะรับผิดชอบเองและลงมือแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาจะตะลึงงันกัน’
มันชัดเจนว่าเหตุการณ์แผ่นป้ายที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ นี้คือข้อความอ้อม ๆ จากเจอรัลด์สำหรับบอสทั้งห้า โดยพื้นฐานแล้ว เขาก็ไม่ได้สนใจในการแบ่งอาณาเขตกับพวกเขาอยู่แล้ว และถ้าพวกเขาไม่ทำตัวให้ดี พวกเขาก็อาจจะลงเอยเช่นเดียวกันกับแผ่นป้ายนั้น ซึ่งถูกทำลายไปในทันที
ด้วยข้อความที่ส่งให้เงียบ ๆ จากนั้นเจอรัลด์ก็นั่งลงด้วยรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพูดขึ้น “ประธานเจย์และพวกคุณที่เหลือ โปรดนั่งลงเถอะ”
“ด ได้ครับ ค คุณคลอฟอร์ด!” ดิเอโกพูดตะกุกตะกัก ขณะที่เขาพยายามสงบจิตสงบใจอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม เบื้องหน้าที่สงบของเขาอยู่ในความโกลาหล และเหงื่อที่กำลังไหลลงหน้าผากของเขาก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกกลัวแค่ไหนเท่านั้น
การตอบสนองของเขามีเหตุผล เนื่องจากเขาอยู่ต่อหน้าผู้ชายที่สามารถฆ่าคนอื่นได้ด้วยส้อมปกติธรรมดา และส้อมก็อยู่ทั่วทุกที่ในห้องที่พวกเขาอยู่กัน
เมื่อรู้แบบนั้น จึงทำให้ทุกคนรู้สึกว่าจำเป็นต้องเรียกเขาแตกต่างไป
หลังจากการครุ่นคิดเงียบ ๆ ครู่หนึ่ง หนึ่งในบอสทั้งห้าก็พูดออกมา “ผมมีชื่อว่าทริสเต็น เจอร์เดน ครับ คุณคลอฟอร์ด ถ้าคุณอนุญาต ผมก็เต็มใจที่จะมอบทรัพย์สินทั้งหมดของผมให้คุณ และกลายเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณครับ!”
ทันทีที่บอสคนอื่นได้ยินทริสเต็นพูดไปแบบนั้น บอสอีกคนก็เห็นด้วยที่จะทำแบบเดียวกันทันที บอสทั้งหลายเห็นด้วยกับเงื่อนไขเดียวกันนี้กันทีละคน ทั้งหมดจนกระทั่งเหลือแต่ดิเอโก
ขณะที่เจอรัลด์และวิสเลอร์มองกันและกัน ดิเอโกก็ยังคงเอาแต่นิ่งเงียบ โดยกำลังคิดถึงผลที่จะตามมาถ้าเขาไม่เห็นด้วย สุดท้ายแล้ว แม้เขาไม่สามารถยอมรับห่วงโซ่ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนี้ก็ตาม แต่ดิเอโกก็ยอมทำตามในที่สุด
ส่วนที่เลวร้ายที่สุดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ก็คือ ความจริงที่ว่าพวกเขาทั้งห้าคนเป็นคนที่เชิญเจอรัลด์มาในคืนนั้นเอง หากพวกเขาไม่ได้เชิญเขา เรื่องพวกนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้นหรอก
แต่ก็นั่นแหละ มันอาจจะเหนือกว่าจินตนาการที่จะคาดคิดว่า การประชุมเกี่ยวกับพลเรือนและทางทหารจะลงเอยด้วยความหายนะเช่นนี้ได้ อย่างน้อยก็สำหรับพวกเขา
ไม่นานหลังจากเจอรัลด์และคนของเขากลับไปที่คฤหาสน์ของพวกเขา วิสเลอร์ก็บอกเจอรัลด์อย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับเรื่องที่นักธุรกิจหลายคนของเขตเมืองทาลโก้ได้โทรมาแล้ว เพื่อขอลี้ภัยอยู่ภายใต้เจอรัลด์
เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็นึกถึงว่าบอสเหล่านั้นประจบประแจงเขาอย่างไรเมื่อการประชุมสิ้นสุดลง ความจริงแล้วก่อนที่พวกเขาจะจากไป คนอื่นอีกหลายคนก็ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาแล้ว โดยแสดงความสนใจเป็นอย่างมากที่จะต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของรอลยัลดราก้อน กรุ๊ป
ยิ่งไปกว่านั้น เจอรัลด์ก็ได้รับของขวัญหลายอย่างเช่นกัน ในรูปแบบของเงินสดจากคนเหล่านั้นที่ต้องการจะทำให้เขาพอใจ
ถึงอย่างนั้นเจอรัลด์ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น แต่แทนที่ เขาสั่งให้วิสเลอร์จัดการทุกอย่างอย่างรอบคอบแทน ขณะที่เขาคิดถึงการดำเนินการครั้งต่อไปของเขา
หลังจากเหตุการณ์ของคืนนั้น รอลยัลดราก้อน กรุ๊ป ที่เจอรัลด์ก่อตั้งขึ้น ในที่สุดก็จะได้รับสถานะที่มั่นคงภายในเขตเมืองทาลโก้เสียที ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้รอลยัลดราก้อน กรุ๊ป ก็มีอิทธิพลอย่างมากเช่นเดียวกับการควบคุมอาณาเขตมากมาย
จากทั้งหมดนั้น ในใจเจอรัลด์รู้ว่ามันถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องช่วยเดรก
จากสิ่งที่ไทสันเล่าให้เขาฟัง ไม่มีกลุ่มทรงอิทธิพลมากมายไหน ๆ ในเมืองเฮฟเวินลีที่จะถูกดูถูกเหยียดหยามได้
เขาพูดจากประสบการณ์ เพราะทั้งเขาและพี่ชายของเขาได้ใช้จ่ายเงินเพื่อสร้างอำนาจและอิทธิพลของพวกเขาในเมืองเฮฟเวินลี เมื่อตอนที่พวกเขายังคงตามหาเจอรัลด์กันก่อนหน้านี้ แต่ไม่นานนัก พวกสเวนก็เอาชนะพวกเขาไปได้
มันช่วยไม่ได้ที่เมืองเฮฟเวินลีใหญ่กว่าเขตเมืองทาลโก้มาก พื้นที่ทั้งหมดเป็นเพียงสถานที่รวมทุกอย่างไว้ซึ่งเป็นที่อยู่ของกองกำลังและกลุ่มต่าง ๆ มากมาย
ความจริงแล้ว สถานที่นั้นใหญ่มากจนไทสันไม่สามารถประมาณได้ด้วยซ้ำว่ามีกี่กลุ่มที่มีอยู่ที่ทรงอำนาจเท่ากับกลุ่มของสเวน
ดังนั้นเจอรัลด์จึงเป็นห่วงเดรกมากเกินกว่าที่จะกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น เขารู้ดีว่ายิ่งพวกเขาถ่วงเวลาไปนานกว่านี้เท่าไหร่ เดรกก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น พวกเขาไม่มีเวลาที่จะรอจนกว่าทุกอย่างจะพร้อมและเข้าที่
เมื่อมาถึงบทสรุปของเขา จากนั้นเจอรัลด์ก็สั่ง “วิสเลอร์ ส่งต่อคำสั่งของผมให้คนที่เหลือ พวกเราจะมุ่งหน้าไปยังเมืองเฮฟเวินลีกันพรุ่งนี้”
“ได้ครับ คุณคลอฟอร์ด! ผมจะเริ่มเตรียมการทันที!”