มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 968
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 968
หลังจากพูดไปแบบนั้น จูเลียตก็ขมวดคิ้วก่อนจะพูดเสริม “…รู้อะไรไหม? ฉันไม่สนอะไรอีกต่อไปแล้ว เธอสามารถทำอะไรก็ตามที่เธอต้องการจะทำ ใช่ไหมล่ะ?”
ด้วยเหตุนั้น จูเลียตจึงขับรถกลับบ้านกัน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน พวกเขาทั้งคู่ก็ได้รับการต้อนรับด้วยภาพของผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์คนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่บนโซฟา
ทันทีที่เธอเห็นเจอรัลด์และจูเลียต เธอก็ลุกขึ้นทันทีและชี้ไปที่เจอรัลด์ก่อนจะพูดขึ้นมา “งั้นเขาคือเจอรัลด์ใช่ไหม? คนอย่างเขามีสิทธิ์อะไรที่ต้องเข้ามาในตระกูลโยเวลล์?”
แน่นอนผู้หญิงที่เพิ่งดูหมิ่นเจอรัลด์ไป คือแม่ของจูเลียตซึ่งมีชื่อว่าไฮดี้
ไฮดี้ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการแต่งงานของลูกสาวของเธอ ในขณะที่เธอยังคงอยู่ต่างประเทศ ทันทีที่เธอรู้ว่าจูเลียตแต่งงานกับผู้ชายโง่เง่าบางคน เธอจึงโมโหมากในทันที! อย่างไรก็ตามเมื่อเธอตื่นขึ้น เธอจึงจองตั๋วกลับบ้านในทันที ทั้งหมดนั้นก็นำมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบันนี้
“นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับแม่ การแต่งงานของหนูกับเขาเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ต้องการให้แม่ต้องมายุ่ง!” จูเลียตโต้กลับ
“แกพูดว่าไม่ต้องการให้แม่ยุ่งงั้นเหรอ? บอกมาสิ จูเลียต แกกำลังคิดอะไรอยู่ในหัวของแกกันแน่? แกรู้บ้างไหมว่ามีนายน้อยร่ำรวยที่แสวงหาการแต่งงานมากมายแค่ไหนแต่ฉันปฏิเสธไปก็เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของแกไง? แม้ว่าแกต้องการจะแต่งงานจริง ๆ โดยไม่คำนึงถึงฉันก็ตาม แต่แกก็ไม่ควรแต่งงานกับผู้ชายแบบนี้! แกเข้าใจถึงความอับอายและความอัปยศที่ครอบครัวของเราจะต้องทนไว้เพราะแกบ้างไหม?!” ไฮดี้ตอบกลับ ก่อนจะโยนถ้วยน้ำชาใส่เจอรัลด์โดยตรง
เสียงแตกเป็นชิ้น ๆ อย่างดัง ถ้วยน้ำชาถูกทุบให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ ตรงแทบเท้าของเจอรัลด์!
อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์เพียงเอาแต่นิ่งเงียบ
“สำหรับแก ทิวลิป! ฉันได้ยินว่าแกเป็นคนที่รบเร้าให้สองคนนี้แต่งงานกันตั้งแต่แรก! คอยดูเถอะว่าฉันจะจัดการกับแกในอนาคตยังไง! เมื่อคิดว่าพวกแกทั้งคู่จะก่อปัญหาขนาดใหญ่เช่นนี้ให้ฉันจริง ๆ ในขณะที่ฉันอยู่ต่างประเทศเพื่อมองหาผู้ซื้อในประเทศเอ็ม!”
หลังจากกล่าวไปแบบนั้น ผู้หญิงบ้าคนนั้นจึงเดินย่ำเท้าไปหาเจอรัลด์ทันทีก่อนจะตบหน้าเขา!
“ทำไมนายไม่ดูตัวเองในกระจกให้ดี ๆ ห๊ะ? เอาตามตรงนายคิดว่าคนอย่างนายคู่ควรพอที่จะแต่งเข้ามาในตระกูลโยเวลล์เหรอ? ฉันจะพูดเรื่องนี้ตอนนี้ ดังนั้นก็ฟังมันให้ดี ๆ ถ้าพวกเธอสองคนรู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับตัวเอง งั้นพวกเธอก็หย่ากันซะเดี๋ยวนี้! แล้วทำให้มั่นใจว่าฉันจะไม่มีวันได้เห็นหน้านายอีก!” ไฮดี้คำรามใส่ ขณะที่เธอกระทืบเท้าขึ้นบันไดไปด้วยความเดือดดาล ในขณะที่ชนกระถางดอกไม้ทั้งหมดบนบันไดที่เธอเห็นจนล้มระเนระนาด
แม้เจอรัลด์สามารถหลบหลีกการตบของไฮดี้ได้อย่างง่ายดาย แต่เขาเพียงถูกทำให้ไขว้เขวกับสิ่งที่เธอพูดไปชั่วขณะ
กลับกลายเป็นว่า จริง ๆ แล้วไฮดี้ไปที่ประเทศเอ็มก็เพื่อมองหาผู้ซื้อ เนื่องจากเจอรัลด์รู้ดีว่าโยเวลล์ไม่ใช่ผู้ทำการค้า จึงไม่มีเหตุผลที่คุณนายร่ำรวยอย่างเธอจะไปมองหาผู้ซื้อต่างประเทศ เว้นแต่ว่ามันเกี่ยวกับราชาโสม
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกสท์ได้เล่าให้เขาฟัง โยเวลล์ยังคงมองหาผู้ซื้อ ในขณะนั้นแม้พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะขายมันให้ใคร สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็คงต้องตัดสินใจแล้วว่าวิธีที่ดีที่สุดก็คือการส่งออกราชาโสม
ไม่ว่าจะอย่างไร เนื่องจากไฮดี้เป็นคนที่ไปต่างประเทศ นั่นต้องหมายความว่าราชาโสมต้องอยู่กับเธอแน่
นั่นคือประเด็นที่จริง ๆ แล้วไฮดี้ถึงกับตบหน้าเจอรัลด์
ยังไงซะ เมื่อจูเลียตเห็นว่าเจอรัลด์ยังคงดูเหมือนตกอยู่ในภาวะที่งงงวยเมื่อกลับมาที่ห้องของพวกเขาแล้ว เธอจึงพูดขึ้นมา “เนื่องจากคุณถูกตบหน้าอย่างแรงขนาดนั้น ฉันจะเพิ่มเงินอีกหนึ่งแสนดอลลาร์ให้เป็นค่าชดเชยเมื่อพวกเราสิ้นสุดสัญญาหนึ่งปีในท้ายที่สุดแล้วกัน!”
“…คุณคิดว่าเงินหมายถึงทุกอย่างจริง ๆ เหรอ?” เจอรัลด์ถามขึ้นมาฉับพลัน ขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ
“ไม่ใช่งั้นเหรอ? ฮ่าฮ่า! คุณไม่ได้ตกลงที่จะทำเรื่องทั้งหมดตั้งแต่แรกก็เพราะเงินเหรอ?” จูเลียตตอบกลับด้วยร่องรอยของความดูถูกในน้ำเสียงของเธอ
เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์จึงเลือกที่จะไม่ตอบกลับ แต่แทนที่ เขามุ่งหน้าไปยังห้องน้ำด้านนอกเพื่อล้างหน้าแทน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังล้างหน้าอยู่ เขาเห็นเงาร่างหนึ่งแวบ ๆ กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอยู่ด้านนอกหน้าต่างห้องน้ำจากหางตาของเขา
หลังจากการฝึกฝนมาเป็นเวลานาน เจอรัลด์รู้ว่าเขาสามารถเชื่อใจการเฝ้าระวังของเขาได้ ก่อนหน้านี้มีคนอยู่ข้างนอกนั่นอย่างแน่นอน!
เมื่อเช็ดหน้าให้แห้ง เจอรัลด์ก็มองไปที่หน้าต่างชั่วครู่สั้น ๆ ตามมาหลังจากนั้น แทนที่จะเดินออกไปนอกประตู เขากลับกระโดดออกหน้าต่างห้องน้ำไป! เมื่อสังเกตเห็นว่าเงาร่างนั้นอยู่ด้านหน้า เขาก็เริ่มไล่ตามอีกคนไปทันที
ไม่นานมันก็ชัดเจนสำหรับเจอรัลด์ว่า บุคคลนิรนามคนนั้น เป็นคนที่ทั้งว่องไวและมีทักษะอย่างมาก ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าเจอรัลด์จะเร่งความเร็วของเขามากแค่ไหน เงาที่กำลังหลบหนีก็ดูเหมือนจะยังคงรักษา ‘ระยะห่างที่ปลอดภัย’ จากเขาได้เสมอ
เจอรัลด์ใช้คำว่า ‘ระยะห่างที่ปลอดภัย’ เพื่อบรรยายระยะห่างจากจุดที่คน ๆ หนึ่งจะปลอดภัยจากการถูกคนอื่นฆ่าโดยใช้อาวุธที่ซ่อนลับ ยิ่งเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เจอรัลด์ก็ตระหนักได้ว่ามีความเป็นไปได้จริง ๆ แล้วที่คนในเงามืดคนนั้นจะมีความเชี่ยวชาญมากกว่าเขา
ในท้ายที่สุด คน ๆ นั้นก็หยุดเคลื่อนไหว เมื่อเขามาถึงเรือลำหนึ่งข้างคูน้ำ เจอรัลด์เองก็ไล่ตามเงานั้นได้ทันในไม่กี่วินาทีต่อมา และในที่สุดเขาก็ได้เห็นว่าคน ๆ นั้นดูเป็นอย่างไร
ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่าง รูปร่างนั้นดูเหมือนจะเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่สวมชุดคลุมสีดำคลุมตัวเขา อย่างไรก็ตาม ตัวชุดคลุมเองก็ปกปิดลักษณะหน้าตาส่วนใหญ่ของผู้ชายคนนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเหลือแค่ดวงตาของเขาเท่านั้นที่มองเห็นได้
จากนั้นเจอรัลด์ก็ขมวดคิ้ว และถามขึ้นมาว่า “…คุณเป็นใครกัน?”