มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 994
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 994
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงร้องของความทุกข์ทรมานก็ค่อย ๆ หายไป จากนั้นเจอรัลด์ ยูกิ และคนของเขาก็กลับเข้าไปในคฤหาสน์
เมื่อมาถึงที่นั่น เจอรัลด์ก็บอกให้ยูกินอนลงและพักผ่อนก่อน เมื่อหันไปมองเวลสัน จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “เช่นนั้น ในเวลานี้สเวนอยู่ที่ไหนกัน?”
“หลังจากตรวจสอบดู พวกเราพบว่าเขาจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมเมืองเฮฟเวินลีในขณะนี้ครับ เขาได้เชิญผู้มีอิทธิพลหลายคนจากเมืองเฮฟเวินลีไปที่นั่น เพราะเขาต้องการให้พวกเขามาต้อนรับการกลับมาของเขา นอกจากนี้ พวกเราก็พบว่าแม้ว่าเดรก, ไทสัน และวิสเลอร์จะถูกทรมาน แต่ชีวิตของพวกเขาก็ยังคงไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใด ๆ อย่างน้อยก็สำหรับตอนนี้”
“จากการสืบสวนของพวกเรา พวกเรายังรู้มาเช่นกันว่าสเวนได้ไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อครึ่งปีก่อน เพื่อทำให้ตัวเองแข็งแรงขึ้น ด้วยเหตุนั้นในตอนนี้เขาจึงมีทักษะที่ยอดเยี่ยมมากในด้านแสนยานุภาพของเขา” เวลสันตอบกลับ ขณะที่เขายิ้มอย่างค่อนข้างขมขื่น
“เข้าใจแล้ว งั้นพวกเราควรจัดการกับเขาตอนนี้ก่อนที่เขาจะมีโอกาสมาก่อเรื่องใด ๆ ในอนาคต คุณอยู่ที่นี่ดูแลยูกิให้ผม ในขณะที่ผมไปช่วยคนของเขาแล้วกัน เวลสัน” เจอรัลด์กล่าว
“แต่นายน้อยครับ คุณยังไม่ได้ดื่มเลือดศักดิ์สิทธิ์…ด้วยในเวลานี้อารมณ์ของคุณยังคงไม่แน่นอน ผมเกรงว่า…”
มีเหตุผลที่ดีที่ทำไมเวลสันถึงฟังดูเป็นกังวลขนาดนี้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เจอรัลด์ไม่มีปัญหาในการฆ่าคนอื่น ๆ เมื่อเขาออกจากการฝึกฝน แต่เวลสันกลัวว่าเขาจะเริ่มกลายเป็นเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้น
“ผมสามารถควบคุมมันได้”
ดังนั้นเจอรัลด์จึงเลือกคนประมาณสามสิบคนไปกับเขาก่อนจะเริ่มออกเดินทางไปยังโรงแรมนั้น
ในขณะเดียวกัน ที่โรงแรมเอง ก็รู้สึกได้ถึงความเย็นกระทันหันขณะที่ยามค่ำคืนมืดมนขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้ง ๆ มีอารมณ์เศร้าหมอง เสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมา “ทำไมเธอยังคงวิ่งไปทั่วอยู่ได้? แม่พยายามตามหาเธอไปทั่วทุกที่! ด้วยเหตุที่บอสสเวนกลับมาในวันนี้และเหตุการณ์เลวร้ายล่าสุดในเมืองเฮฟเวินลี เธอควรจะระวังตัวให้ดีนะ!”
เจ้าของเสียงคือผู้หญิงที่ดูเป็นผู้ใหญ่และน่าเย้ายวน ซึ่งดูอายุประมาณยี่สิบสี่ปีได้ โทนเสียงของเธอยังบ่งบอกว่าเธอเป็นคนสวยที่ฉลาดในระดับหนึ่ง
สำหรับหญิงสาวอีกคนที่เธอกำลังคุยด้วย เธอดูเหมือนจะเด็กกว่าอยู่เล็กน้อย ด้วยอายุประมาณยี่สิบปี ถึงกระนั้น เธอก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กันกับผู้หญิงที่อายุมากกว่าคนนั้น
ในเวลานี้พวกเธอทั้งคู่กำลังยืนอยู่ตรงทางเข้าของโรงแรม และเมื่อตระหนักได้ว่าพวกเธอกำลังทำตัวเสียงดังอย่างไร ผู้หญิงที่อายุมากกว่าจึงจับผมของเธอให้ตรงก่อนจะพูดขึ้น “ตอนนี้ก็มาด้วยกันและเข้าไปข้างในกันได้แล้ว!”
“ก็ได้…จริง ๆ แล้ว พี่ไปก่อนได้เลย ฉันออกมาที่นี่ในตอนแรกก็เพื่อจะรับอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย รู้ไหม? ฉันจะมุ่งหน้ากลับเข้าไปที่นั่นแปป ๆ นี่แหละ” ผู้หญิงที่อ่อนวัยกว่าตอบกลับ
“…เอาล่ะ แต่เธอไม่ควรจะโกหกฉันนะ…สัญญากับฉันว่าเธอจะมุ่งหน้าเข้าไปอีกครั้งเมื่อเธอรู้สึกดีขึ้นแล้ว โอเคไหม?” ผู้หญิงคนนั้นกล่าวด้วยโทนเสียงวิตกกังวลเล็กน้อย ก่อนจะจากไปในท้ายที่สุด
อย่างไรก็ตามมันชัดเจนว่าหญิงสาวคนนั้นไม่ได้กระตือรือร้นที่จะกลับเข้าไปด้านในมากนัก เมื่อหมอบลงอยู่กับพื้น เธอหยิบก้อนหินสองสามก้อนขึ้นมาก่อนจะโยนพวกมันทั้งหมดไปทั่วสถานที่ทีละก้อน
สุดท้ายก็เริ่มเบื่อขึ้นมา เธอมุ้ยปากก่อนจะลากตัวเองกลับเข้าไปในโรงแรม
เมื่อมาถึงตรงล็อบบี้ หญิงสาวคนนั้นก็ตกใจสุดขีด เมื่อเธอเห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งกำลังออกมาจากสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นทางเดินลับจากด้านหลังกระจกติดผนัง ราวกับว่าความช็อกนั้นยังไม่พอ ไม่นานความรู้สึกนั้นก็กลายเป็นความกลัว ประหลาดใจ และปิติยินดีนิด ๆ เมื่อเธอเห็นว่าใครที่กำลังเดินนำผู้ชายเหล่านั้น
“…ฮะ? นั้นไม่ใช่…?”
เป็นเวลาครึ่งปีแล้วตั้งแต่เธอได้พบเขาครั้งสุดท้าย ดังนั้นหญิงสาวจึงกระตือรือร้นที่จะทักทายผู้นำคนนั้น แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ทำแบบนั้น แต่กลับมีเสียงหนึ่งที่หยาบคายพูดแทรกขึ้นมา “พวกคุณทั้งหมดจะมาทำอะไรที่นี่กัน?”
น้ำเสียงนั้นมาจากหนึ่งในลูกน้องของสเวนที่ยืนประจำอยู่ตรงทางเข้าของโรงแรม ขอบคุณความคิดเห็นแปลก ๆ ของพวกหญิงสาว เขาและการ์ดคนอื่น ๆ ของสเวนจึงสามารถจับคนที่กระทำการแทรกซึมเข้ามาได้ และตอนนี้พวกเขาก็ถูกล้อมไว้โดยสิ้นเชิง
แทนที่จะพูดตอบกลับ ผู้ชายจากฝ่ายตรงข้ามเลือกที่จะพุ่งเข้าหาการ์ดแต่ละคนของสเวนอย่างรวดเร็วแทน ด้วยความเร็วและอันตรายมาก ก็ได้ยินเสียงดังแหลมหลายเสียงดังขึ้นมา ขณะที่การ์ดของสเวนทั้งหมดล้มลงกับพื้น หัวของพวกเขาทั้งหมดเอียงเป็นมุมที่ดูไม่เหมาะสม
เมื่อเห็นการ์ดที่คอหักตายทั้งหมด พนักงานเสิร์ฟที่เพิ่งบังเอิญอยู่ในล็อบบี้ ก็กรีดร้องออกมาด้วยความกลัวทันที
หญิงสาวคนนั้นเองก็ถึงกับหน้าซีดไปแล้วกับภาพของศพมากมาย ด้วยความตกใจสุดขีดของเธอ เธอเริ่มวิ่งขึ้นบันไดไปทันทีเพื่อหาที่ปลอดภัย
เมื่อหญิงสาวที่หวาดกลัวเข้ามาใกล้สมาชิกครอบครัวของเธอได้ในที่สุด ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งก็รีบพูดขึ้นมา “มาสักที! รีบนั่งลงได้แล้ว!”
ตามมาหลังจากนั้น ผู้หญิงวัยกลางคนก็ถอนหายใจก่อนจะพูดเสริม “เนื่องจากบอสสเวนกลับมาในที่สุด การเปลี่ยนแปลงใหญ่จะเกิดขึ้นในเมืองเฮฟเวินลี…เพราะเช่นนั้น พวกเราตระกูลโยเวลล์จำเป็นต้องคว้าโอกาสใด ๆ ที่ปรากฏอยู่ ดังนั้นแกและพี่สาวของแกเจริญรอยตามฉัน พวกแกทั้งคู่ก็สวยมาก ด้วยเหตุนั้น โปรดทำตัวให้ดีด้วยเมื่อคุณทัคเกอร์มาถึง ใครจะไปรู้ หนึ่งในพวกแกอาจจะลงเอยทำให้เขาหลงเสน่ห์ก็ได้! ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ครอบครัวของเราก็จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วมากแน่นอน!”
มันชัดเจนในจุดนี้ว่าพวกเธอทั้งสามคนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากทิวลิป จูเลียต และไฮดี้
เนื่องจากจูเลียตเริ่มเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เมื่อเทียบกับคนที่เธอเคยเป็นเมื่อครึ่งปีก่อน เธอจึงสามารถเข้าใจได้อย่างค่อนข้างง่ายดายว่ามีบางอย่างผิดปกติกับอารมณ์ของน้องสาวของเธอ
ด้วยความเป็นห่วง หลังจากนั้นเธอจึงถามขึ้น “เป็นอะไรไปทิวลิป? ทำไมหน้าของเธอถึงซีดขนาดนี้…?”
เมื่อกลืนน้ำลายอึกใหญ่ จากนั้นทิวลิปก็สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะค่อย ๆ พูดขึ้น “…ก่อนหน้านี้…ตอนที่ฉันอยู่ที่ชั้นล่าง…ฉัน…ฉันคิดว่าฉันเห็นเขา…!”
“เขางั้นเหรอ?” ไฮดี้ถาม
ด้วยจิตใจที่หลักแหลมเพียงใดของเธอ จูเลียตมีลางสังหรณ์ในทันทีว่าใครที่น้องสาวของเธอได้พบมา
เมื่อรู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังเต้นเร็วขึ้น จากนั้นจูเลียตก็ถามเพิ่มเตืม “เธอเห็นใครมากันแน่ ทิวลิป?”
ในที่สุดเมื่อไม่สามารถกลั้นน้ำตาของเธอไว้ได้ ทิวลิปก็ตัวสั่นด้วยความกลัว ขณะที่เธอร้องไห้ออกมา “เป็นเขา! ในที่สุดเขาก็กลับมาแล้ว!”