มหากาพย์ดาบเทวะ! - ตอนที่ 4
ตอนที่ 4 ปะทะจ้าวอสรพิษ!
แม้นางจะตัวเล็กนิดเดียว แต่ความว่องไวในการวิ่งนั้นเร็วมาก ทันใดที่เห็นหยางเย่ นางเปลี่ยนทิศทางวิ่งไปยังทางอื่น การกระทำเช่นนี้เป็นการล่อจ้าวอสรพิษ หากหยางเย่หันหลังกลับและหนีไป เขาก็สามารถหนีรอดได้เช่นกัน
หยางเย่ลังเลอยู่ชั่วขณะ จากนั้นไม่นาน เขาสูดหายใจลึกและหยุดลังเลในทันที เขาเก็บหินก้อนใหญ่ขึ้นและวิ่งตรงไปยังจ้าวอสรพิษ ตอนนี้ระยะห่างระหว่างเขากับจ้าวอสรพิษไม่ถึงสิบเมตร เขายกหินขึ้นพร้อมใช้พละกำลังที่มีในร่างกายขว้างหินไปยังจ้าวอสรพิษ
ปัง!
หินใหญ่ชนเข้าหัวจ้าวอสรพิษอย่างจังและแตกออกเป็นเสี่ยง
หนังตาหยางเย่บิดไปมาเมื่อเห็นเช่นนั้น ระดับการป้องกันของมันน่ากลัวเกินไปแล้ว?!
การกระแทกหินใส่จ้าวอสรพิษ มันหยุดสนใจเด็กผู้หญิงอย่างสิ้นเชิง มันหันตัวมาบิดกระแทกลงไปที่หยางเย่อย่างแรง
ตัวของจ้าวอสรพิษใหญ่โตยิ่งนัก ทุกที่ที่มันเลื้อยผ่านจะทิ้งไว้แค่ความวุ่นวายเท่านั้น มันฟาดทุกอย่างอย่างไร้ความปราณี แรงผลักดันของมันที่ทำเช่นนี้ช่างน่ากลัว
“รีบหนีไปให้ไว!” หยางเย่ตะโกนไปยังเด็กผู้หญิงที่มองมายังเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากนั้นจึงหยิบก้อนหินจากพื้นและพุ่งเข้าต่อสู้กับจ้าวอสรพิษ
พูดตามตรง หยางเย่ไม่ได้มีความมั่นใจเมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์ประหลาดยักษ์นี้ แต่เขาไม่สามารถวิ่งหนีไปได้ หากเด็กผู้หญิงลากจ้าวอสรพิษมาหาเขาตั้งแต่แรกเขาก็คงหนีไปแล้ว แต่นางกลับใช้ตัวเองล่อมันออกไปดีกว่าสร้างปัญหาให้เขา
นางเป็นเด็กผู้หญิงจิตใจดี เหมือนอย่างเสี่ยวเหยา!
แน่นอน สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ คือเขาแข็งแกร่งมากพอต่อกรกับมันได้
เมื่อเห็นหยางเย่กระโจนใส่จ้าวอสรพิษ นางอ้าปากค้างเพื่อหายใจพร้อมกับกระพริบตามองไปที่เขา เห็นได้ชัดว่านางเองก็ไม่คาดคิดว่าศิษย์ใช้แรงงานจะกล้าสู้กับจ้าวอสรพิษเพื่อนาง
“อ๊า!” หยางเย่คำรามออกมา เขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีขว้างหินไปยังหัวจ้าวอสรพิษ
ปั้ง!
เสียงหินแตกกระจายเป็นเสี่ยงอีกครั้ง ร่างของหยางเย่ได้รับความเสียหายอย่างหนักและกระแทกลงพื้นอย่างจัง เขาปาดเช็ดเลือดที่มุมปาก จากที่เห็น ทำให้หยางเย่เข้าใจความหมายของคำว่าไข่กระทบกับหิน!
การโจมตีครั้งก่อนราวกับทุบเหล็กดำด้วยหิน ไม่เพียงแค่หินแตกกระจาย แขนของเขายังชาจากแรงกระแทก
ฟู่~ ฟู่~
หลังจากถูกหยางเย่โจมตี จ้าวอสรพิษแลบลิ้นออกมาก่อนจะพลิกตัวฟาดลงอีกครั้งไปที่หยางเย่
หยางเย่หมองไปยังจ้าวอสรพิษ มันใหญ่ราวกับภูเขาลูกเล็ก หยางเย่หยี่ตา ตอนนี้เขาไม่กล้าปล่อยให้ความคิดไร้สาระอีกต่อไป เขายืนขึ้นอย่างไวพร้อมคายเลือดออกจากปากก่อนจะพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง
ไร้ซึ่งหนทางในการหนี ไม่มีผู้ใดสามารถขวางจ้าวอสรพิษได้ ยิ่งการต่อสู้กันบนพื้นราบนั้นไม่สามารถชนะมันได้แน่นอน
เมื่อหนีไม่ได้ เขาทำได้แค่ยืดหยัดสู้อย่างสิ้นหวัง
พอเข้าใกล้จ้าวอสรพิษในระยะสองเมตร หยางเย่ร้องออกมาพร้อมใช้ขากระทืบพื้นกระโดดขึ้นกลางอากาศ หมัดของเขาโจมตีไปยังดวงตาสีฟ้าขนาดเท่ากำปั้น
ฟู่~
เมื่อมันสังเกตเห็นหมัดของหยางเย่โจมตีมา จ้าวอสรพิษบิดตัว หางขนาดใหญ่ของมันส่งเสียงลมคำรามออกมาพร้อมบิดตัวเข้าหาหยางเย่
หางที่สะบัดอย่างไวของงู มันชี้ตรงไปยังหยางเย่จนทำให้เขาไม่สามารถเข้าใกล้จ้าวอสรพิษได้
ปั้ง!
หยางเย่รู้สึกเหมือนสะโพกหัก เสียงโอดครวญจากความเจ็บปวดกับเลือดเต็มปาก ร่างของเขาลอยไปเกือบสิบเมตรก่อนจะชนอย่างจังเข้ากับกอหญ้า ฝุ่นคละคลุ้งกระจายไปทั่วอากาศ
“ข้ายังไม่คู่ควรกับมัน!” เขาทราบดีตั้งแต่แรก พลังป้องกันของสัตว์อสูรทมิฬสามารถจัดการผู้ที่อยู่ในขั้นปราณมนุษย์ได้หมดสิ้น ไม่ง่ายเลยที่จะเอาชนะมันได้ในการต่อสู้ เห็นได้ชัดว่าสัตว์อสูรทมิฬข้างหน้ามีพลังที่เหนือกว่ามากมายนัก!
“เจ้าเป็นยังไงบ้าง?” ขณะนั้นเอง เปาเอ๋อวิ่งมาอยู่ด้านข้าง นางพยุงหยางเย่ขึ้นขณะพูดด้วยเสียงที่ใสแจ๋ว
“เจ้ายังไม่หนีไปอีกรึ!?” หยางเย่แทบจะลุกไม่ขึ้น สีเผยสีหน้าดำมืดเมื่อเห็นว่านางยังไม่หนีไปไหน เขาพยายามเพื่อให้นางมีโอกาสหนีอย่างที่สุด แต่นางกลับยังไม่ไปไหน หยางเย่รู้สึกอยากจะตีใครสักคนในเวลานี้!
เปาเอ๋อส่ายหัวเล็ก ๆ ของนาง ทำให้เปียหางม้าข้างหลังส่ายไปมาก่อนจะพูดจริงจังออกมา “เจ้ากล้าหาญขนาดนี้ เปาเอ๋อจะทิ้งเจ้าไว้ที่นี่คนได้ยังไงกัน? เปาเอ๋อจะอยู่และตายพร้อมกับเจ้า มาเร็ว ติดยันต์เสริมกำลังไว้ที่เจ้าแล้วเริ่มโจมตีมันต่อเถอะ”
ขณะที่พูด นางนำยันต์ใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเล็ก จากนั้นนางตบมันเข้าที่ไหล่ของหยางเย่
เมื่อยันต์ถูกติดลงบนไหล่หยางเย่ มันกลายเป็นปราณสีทองเข้าสู่ร่างกายของเขา เมื่อแสงสีทองนั้นเข้าสู่ร่างกายแล้ว หยางเย่รู้สึกเหมือนพลังวิญญาณและพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เขาไม่มีเวลามาสนใจสิ่งนี้ หยางเย่คว้ากิ่งไม้ข้างกายเขาและพุ่งตรงไปยังจ้าวอสรพิษอีกครั้ง
ที่จริงเขาต้องการพักสักครู่หนึ่ง แต่จ้าวอสรพิษจะยอมงั้นหรือ? เมื่อเด็กผู้หญิงแปะยันต์ไว้ที่ไหล่เขา จ้าวอสรพิษก็เริ่มพุ่งเข้าจู่โจมทั้งสอง
ครั้งนี้ จ้าวอสรพิษเอาจริง ปากขนาดยักษ์ของมันอ้ากว้างเผยให้เห็นลิ้นสีแดงฉานขนาดเท่าแขนมนุษย์
ขณะจ้องมองไปที่ปากชุ่มเลือด ขนาดมันใหญ่ถึงสามเท่าของศีรษะเขา หยางเย่ถึงกับรู้สึกเหน็บชา เขาไม่ทราบว่าเขาเอาความกล้าจากแต่ใดมาต่อกรกับจ้าวอสรพิษที่สูงส่งยิ่งกว่า แต่ที่ทราบยามนี้ คือหากวิ่งหนีเขาตายแน่นอน หากเป็นเช่นนั้น มันเป็นการดีกว่าถ้าสู้ออกไปด้วยวิธีนี้ อย่างน้อยก็ยังมีโอกาสรอดชีวิต
ฮ่า!
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว หยางเย่ไร้ซึ่งความลังเลใด เขาระเบิดพลังตะโกนออกมาพร้อมพุ่งเข้าจู่โจมจ้าวอสรพิษ
จ้าวอสรพิษไม่รีรอเมื่อเห็นหยางเย่พุ่งเข้ามา มันสะบัดลิ้นสีแดงพร้อมพลิกตัว ร่างกายที่รองรับอยู่ด้านหน้าทำให้หางของมันกวาดราบไปยังหยางเย่อีกครั้ง ทุกที่ที่หางมันฟาดผ่าน พื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควันและเศษใบไม้กระจายปกคลุมท้องฟ้า!
ดวงตาของหยางเย่เหล่มองหางที่กำลังกวาดมา เขาก้มตัวหลบไปที่พื้นและไถลไปข้างหน้า เมื่อเขารู้สึกถึงหางที่ฟาดผ่านหน้าไป หยางเย่แสดงสีหน้าโกรธและดุร้ายออกมา ทันใดนั้น เขาตบพื้นด้วยมือซ้ายและกระโดดขึ้นพร้อมแทงกิ่งไม้ไปยังตาขนาดเท่ากำปั้นของจ้าวอสรพิษ!
สิ่งนี้เป็นการเคลื่อนไหวพื้นฐานของวิชาดาบ แม้มันจะเป็นแค่กิ่งไม้ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกนอกจากต้องใช้มัน
ฟู่!
จ้าวอสรพิษไม่คาดคิดว่าหางมันจะโจมตีพลาด ดังนั้น เมื่อสังเกตุเห็นกิ่งไม้พุ่งมา มันขยับหัวหลบไปด้านข้างเพื่อหลบหลีกกิ่งไม้ แต่กิ่งไม้ยังคงทิ่มทะลุเข้าไปที่หัวอยู่ดี ร่างจ้าวอสรพิษบิดไปมาอย่างรุนแรง ขณะเดียวกัน หางของมันก็ขดรัดเข้าที่เอวของหยางเย่
เขาสังเกตเห็นการโจมตีที่ทะลุเกล็ดดำของจ้าวอสรพิษ หยางเย่งุนงงไปชั่วขณะ แต่เขาเองไม่มีเวลามาดีใจเมื่อความรู้สึกรัดแน่นออกมาจากสะโพกอย่างรุนแรง จากนั้นความเจ็บปวดพุ่งเข้าสู่ร่างกาย มันรู้สึกราวกับสะโพกเขากำลังแตกสลาย
หยางเย่รู้สึกตื่นตระหนกเมื่อเห็นจ้าวอสรพิษรัดตนเอง ขณะเดียวกันนี้ น้ำวนลึกลับในร่างกาย็หยุดใจแคบแบ่งพลังปราณสีทองเพิ่มขึ้นไม่หยุดยั้งเข้าสู่จุดตันเถียน
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังปราณล้ำลึกเข้าสู่ร่างกาย หยางเย่ไม่มีเวลาคิดมาก เขาปล่อยไม้ในมือและเริ่มโคจรพลังไปที่หมัด ทำให้เกิดแสงสีทองสุกสว่างวาบ ถัดขจากนั้น เขาจึงกระแทกหมัดเข้าใส่ยังหางของจ้าวอสรพิษอย่างคลุ้มคลั่ง
หยางเหย่ประหลาดใจยิ่งนัก ทุกการปล่อยหมัดไปยังหางจ้าวอสรพิษมันทำให้เกล็ดจ้าวอสรพิษจมลงไป เขารู้ว่ามันเป็นผลของยันต์เพิ่มกำลังและปราณทองคำในร่างกาย แต่ก็รู้ดีว่าไม่สามารถทำให้จ้าวอสรพิษบาดเจ็บได้!
เมื่อนางเห็นปราณทองคำบนหมัดของหยางเย่ ใบหน้านางเปล่งประกายขึ้นมาทันทีพร้อมเอ่ยคำ “พลังปราณทองคำ ศิษย์ใช้แรงงานตัวจ้อยนี้มีพลังปราณทองคำห้าธาตุด้วยหรือนี่!”
ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!
ด้วยการโจมตีคลุ้มคลั่ง จ้าวอสรพิษเผยความเจ็บปวดเด่นชัด! มันรีบคลายหางออกเมื่อเห็นหยางเย่ต่อยจนเกล็ดหนังมันหลุดออกมา เนื้อสีแดงสดถูกเผยออกมาจากตัวของจ้าวอสรพิษ
เพียงไม่นาน จ้าวอสรพิษกลายเป็นผู้เสียเปรียบ เนื่องจากหางของมันกำลังจะถูกบดเป็นชิ้น เมื่อมันรู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น จ้าวอสรพิษดึงหางออกมาทำให้หยางเย่ตกลงสู่พื้น มันถอยออกไปสองสามเมตรก่อนจ้องมองไปยังหยางเย่ มันรู้สึกถึงความกลัวขึ้นมาในเวลานี้
ขณะเดียวกัน เปาเอ๋อรีบวิ่งไปด้านข้างหยางเย่พร้อมเข้าช่วยเหลือ นางพูดออกมา “ผู้ใช้แรงงานน้อย โจมตีมันต่อไปนะ อันที่จริงมันไล่เปาเอ๋อมาหนึ่งชั่วยามเหตุเพราะสมุนไพรชั้นต่ำนี้ หากเปาเอ๋อไม่มียันต์ต่อสู้นี้ เปาเอ๋อคงอยู่ในท้องมันแล้ว”
ยามได้ยิน หยางเย่ถึงกับทราบความ เป็นสมุนไพรวิญญาณระดับตำนาน! ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมสัตว์อสูรทมิฬถึงไล่ล่านาง
สมุนไพรวิญญาณมีค่ามหาศาล มันถูกแบ่งอยู่หลายระดับตั้งแต่ ระดับสวรรค์ ปฐพี ตำนาน และ ทองเหลือง ระดับทองเหลืองสามารถซื้อขายในโลกมนุษย์ได้ราคาสูงถึงหนึ่งหมื่นเหรียญทอง สำหรับหยางเย่ หนึ่งหมื่นเหรียญทองนั้นมหาศาลยิ่งนัก แต่เหรียญทองที่เขาได้แต่ละเดือนนั้นเพียงแค่ไม่กี่สิบ
ระดับตำนานนั้นสูงส่งกว่าระดับทองเหลือง หยางเย่แทบไม่อาจคาดคิดได้ว่าราคามันจะสูงเพียงใด! เหนือสิ่งใด มูลค่าของสมุนไพรวิญญาณต่อสัตว์อสูรทมิฬ มันเทียบเท่ากับวิชาบ่มเพาะพพลังขั้นสูงของมนุษย์ ดังนั้น ไม่แปลกที่มันจะสนใจอย่างรุนแรง
เปาเอ๋อหน้างออีกครั้งเมื่อเห็นใบหน้าที่อ่อนแอของหยางเย่ นางล้วงมือไปยังกระเป๋าเล็กอีกครั้ง จากนั้นนำยันต์สีเขียวและขาวออกมาแปะที่หยางเย่ พร้อมพูด “ผู้ใช้แรงงานน้อย โจมตีมันอย่าหยุดนะ เปาเอ๋อจะให้กำลังใจอยู่ข้างเจ้าเอง”
มุมปากหยางเย่กระตุกขึ้นเมื่อได้ยิน เขาจ้องไปยังเปาเอ๋อพร้อมความรู้สึกสดชื่นกลับมาสู่ร่างกายอีกครั้ง พลังงานประหลาดไหลเข้าสู่จุดสำคัญของร่างกายทั้งหมด จากนั้นไม่นาน ความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ถูกลบหายไปหมดสิ้น ยิ่งกว่านั้น ร่างกายเขายังเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง
ไม่เพียงแค่นั้น เขารู้สึกได้ถึงพลังปราณแห่งสวรรค์และปฐพีหมุนรอบอย่างไม่หยุดยั้งพร้อมตรงเข้ายังร่างกาย ท้ายที่สุด พลังเหล่านั้นพุ่งตรงเข้ายังจุดสำคัญของร่างกายเขา
ทันใดนั้นเอง ตันเถียนน้ำวนโคจรพลังไวขึ้น พลังทั้งหมดนี้หายเข้าสู่จุดตันเถียนด้วยความความเร็วมหาศาล อีกชั่วอึดใจ พลังปราณทองคำไหลออกมาจากตันเถียนน้ำวน
หยางเย่เบิกบานภายในใจเมื่อรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จากนั้นเขามองไปยังกระเป๋าของเด็กผู้หญิงด้วยความประหลาดใจ เขารู้ดีว่าพลังปราณล้ำลึกที่ปรากฏออกมาก่อนนี้มาจากยันต์ของเด็กผู้หญิง แต่ก็ไม่มีเวลาถามไถ่นางในตอนนี้ เนื่องจากสัตว์อสูรทมิฬระดับห้ายังอยู่ข้าง ๆ เขา
เมื่อสัมผัสพลังปราณล้ำลึกในร่างกายแล้ว หยางเย่มองไปยังจ้าวอสรพิษพลางบิดคอ เขาปล่อยเสียงหัวเราะอันดุร้ายออกมา ก่อนจะใช้ขาขวากระทืบพื้นกระตุ้นระเบิดพลัง หมัดขวาปล่อยเข้ากลางอากาศ มันพุ่งเข้าจู่โจมหัวของจ้าวอสรพิษ