มหากาพย์ดาบเทวะ! - ตอนที่ 6.1
ตอนที่ 6 ขัดแย้งอีกครั้ง 1
ณ ยอดเขาแรงงาน หลังกลับมาจากหุบเขาวายุเหมันต์ หยางเย่ก็มาถึงยังโรงอาหาร เพียงไม่นานหลังจากก้าวเข้ามา หยางเย่สังเกตเห็นสายตาผู้คนนับครึ่งในที่นี้มองมายังเขา ศิษย์ครึ่งหนึ่งยิ้มให้ด้วยท่าทีเป็นมิตร ต่างกับอีกครึ่งราวกับหัวเราะเยาะในความโชคร้ายของเขา
หยางเย่พยักหน้ารับเหล่าศิษย์ที่ยิ้มให้ด้วยท่าทีเป็นมิตร ขณะที่กำลังจะได้รับอาหาร เสียงตะโกนเย็นชาดังมาจากข้างหลัง
“หยางเย่ หยุดอยู่ตรงนั้น!”
หยางเย่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน เสียงนี้ฟังดูคุ้นเคยกับเขาอย่างมาก มันเป็นเสียงของผู้จัดการซู่ ยามนี้ปัญหาได้มาถึงแล้ว
หยางเย่หันกลับไปมองผู้จัดการซู่ ผู้จัดการซู่อายุราวสี่สิบกว่า มีรูปร่างอ้วนท้วนพร้อมใบหน้าที่อวบอิ่ม หากใครสักคนมองมาจากที่ไกลออกไป ผู้นั้นคงไม่สามารถเห็นดวงตาของเขาเป็นแน่ ผู้จัดการซู่สวมผ้าคลุมอย่างดีของยอดเขาแรงงาน แต่ก็ยังแน่นคับเนื้อปลิ้น ไหล่ทั้งสองประดับไปด้วยสีดอกกุหลาบ
ในสำนักดาบราชัน ผู้จัดการซู่มีสมญานามอันเลื่องลือคือ ซู่จอมถลกหนัง เพราะว่าหากมีศิษย์ใดแข็งข้อ เขาจะถลกหนังของศิษย์ผู้นั้นจนกระทั่งผิวหนังชั้นสุดท้าย
ยิ่งไปกว่านั้น ตู่ชือและพรรคพวกแสยะยิ้มยืนอยู่ข้างผู้จัดการซู่
ยามพวกเขาเห็นผู้จัดการซู่กับทั้งสาม ศิษย์บางคนถึงกับกลัวหัดหด บางคนแสดงสายตาแห่งความโกรธแค้น เนื่องจากพวกเขาทั้งสี่ข่มเหงศิษย์พวกนี้เรื่อยมา พวกศิษย์ได้เพียงแค่เก็บอาการเหล่านี้ไว้ในใจและไม่กล้าเอ่ยคำใดออกไป
“ข้าทราบแล้ว หยางเย่ทุบตีตู่ชือ จอมถลกหนังจะปล่อยเขาไปได้ยังไง? ยามนี้ หยางเย่ตายแน่…”
“ใช่ นานมาแล้ว ผู้ที่กล้าต่อต้านซู่จอมถลกหนัง เขาถูกทุบตีจนสิ้นลมโดยพวกมันทั้งสี่ น่าเสียดาย ใยวันนั้นหยางเย่ไม่อดกลั้นใจอีกสักหน่อยนะ? คนหนุ่มพวกนี้ช่างหุนหันพลันแล่นเสียจริง มันไม่ใช่สิ่งดีนักหรอก…”
“ ชี่ เงียบก่อน มิเช่นนั้น หากจอมถลกหนังได้ยินเจ้า รับรองโดนโบยอย่างหนักแน่”
ผู้จัดการซู่พร้อมพรรคพวกเดินเข้าหาหยางเย่ ยามเดินมาถึงด้านหน้า แส้ยาวปรากฏออกมาจากมือผู้จัดการซู่ เขามองหยางเย่ที่แสดงท่าทีสงบ ผู้จัดการซู่แสยะยิ้มอันดุร้ายพร้อมเอ่ย “หยางเย่ ผู้ที่สามารถทนรับความจริงนี้ได้ ครั้งหนึ่งเจ้าเคยเป็นศิษย์นอกสำนัก แต่ก็ไม่นานเท่าไหร่นัก ยามนี้เจ้ามาอาศัยอยู่ในเขตแดนข้า เจ้าก็ควรเคารพกฎ ตั้งแต่ที่เจ้าตีหลานชายข้า บอกมาสิ เราควรจัดการเรื่องนี้ยังไงดี?”
“ท่านลุง เหตุใดต้องเปลืองลมหายใจกับมัน? สังหารมันเถอะ!” ตู่ชือมองทางหยางเย่พร้อมกล่าววาจาโหดเหี้ยม กล่าวได้ว่าวันนั้นเขาเสียหน้าไม่ใช่น้อย เขาไม่อาจกล้ำกลืนความอัปยศครั้งนั้นลงได้
หยางเย่มองตู่ชืออย่างเยือกเย็น จากนั้นจึงมองกลับมายังผู้จัดการซู่ “บอกข้าสิ เราจะแก้ปัญหายังไง?”
ได้ยินคำกล่าว ผู้จัดการซู่เริ่มหัวเราะดัง จากนั้นหยิบซองจดหมายออกมาจากเสื้อคลุม เห็นได้ชัดว่าจดหมายถูกเปิดอ่านแล้ว ผู้จัดการซู่หยิบจดหมายข้างในพร้อมเอ่ยและแสยะยิ้ม “หยางเย่ ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีน้องสาวอายุไม่ถึงสิบปีใช่ไหม? ดูเหมือนนางยังไม่ได้แต่งงานสินะ? เจ้าคิดว่าข้าคู่ควรไหม? ข้าโปรดปรานเด็กสาวเช่นนี้อย่างยิ่ง บอกน้องสาวเจ้ามาเป็นนางสนมข้า จากนั้นเจ้าจงมาคุกเข่ายอมรับโทษที่กระทำต่อตู่ชือ…”
ทันใดนั้น เสียงผู้จัดการซู่เงียบลงพร้อมหมัดขนาดใหญ่ชกเข้าใส่
ยามเมื่อเขาได้ยินผู้จัดการซู่ไม่เคารพและเหยียดหยามน้องสาว ท่าทีของหยางเย่เปลี่ยนเป็นดุร้ายทันที เขาจู่โจมพร้อมกับหมัดตรง น้องสาวและมารดาเป็นดั่งสิ่งมีค่าที่สุด เขาไม่อาจอดกลั้นสิ่งใดต่อผู้ที่กระทำเช่นนี้
Bang!
ปั้ง!
ผู้จัดการซู่ไม่เคยคิดว่าหยางเย่จะโจมตีใส่เขาโดยไม่ทันตั้งตัว ดังนั้น ใบหน้าของเขาจึงปะทะกับหมัดของหยางเย่โดยตรง
ร่างเมื่อกระทบกับพื้น เสียงร้องครวญครางดังออก เลือดกระอักออกไหลหลั่งจากทั้งปากและจมูก
หยางเย่ยังไม่หยุดพร้อมพุ่งเข้าใส่ผู้จัดการซู่ต่อ เขาหลบหลีกแส้ในมือผู้จัดการซู่ก่อนจะเหวี่ยงหมัดอย่างดุเดือดใส่ตัวผู้จัดการซู่
“แกมันไอ้สวะ! คิดว่าแกคู่ควรกับน้องสาวข้าอย่างงั้นหรือ? ข้าจะสังหารแกทิ้งเอง!!” หยางเย่แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดใส่ผู้จัดการซู่ เขาหยิบแส้จากมือของผู้จัดการพร้อมทำการโบยอย่างคลุ้มคลั่ง
“อ้าก!!!หยางเย่ แกต้องตาย! กล้าดียังไงมาตีข้า! อ๊า!!หยุดเถอะ!! อ๊า!!! ท่านหยาง!! อย่าตีข้าเลย อย่าตีข้าอีกเลย ข้าผิดไปแล้ว…”
ทุกคนหยุดชะงักยามได้ยินผู้จัดการซู่ร้องโหยหวน พวกเขาไม่คาดคิดว่าหยางเย่จะกล้าตีซู่จอมถลกหนัง เพราะจอมถลกหนังเป็นผู้จัดการที่ถูกแต่งตั้งจากสำนักดาบราชัน! พวกเขาหยุดคิดแบบนั้นทันที เหตุเพราะหยางเย่กล้าทำในสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าไปแล้ว
ศิษย์ใช้แรงงานส่วนใหญ่กำหมัดแน่น พวกเขาไม่ได้ปกปิดสีหน้าที่ตื่นเต้นภายในดวงตาเลย
“หยางเย่ รีบออกให้ห่างท่านลุงนะ ไม่งั้นแกตายแน่…” ตู่ชือเพิ่งหายจากอาการตกใจจึงพยายามห้ามหยางเย่ แต่เขายังเกรงในความแข็งแกร่งอยู่ จึงทำได้เพียงตะโกน
หยางเย่ไม่สนเสียงของตู่ชือ ทั้งยังเพิ่มความแรงในการโบยอีกครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงไม่นาน ผู้จัดการซู่โดนโบยไม่ต่ำกว่าร้อยแส้ ร่างอ้วนท้วนของเขาชุ่มไปด้วยเลือด มันเป็นภาพที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
ในมุมของหยางเย่ หากเขาถูกกลั่นแกล้งยังพอใช้ความอดทนอดกลั้นไหว แต่หากผู้ใดบังอาจแตะต้องครอบครัว เขาไม่ลังเลที่จะกลายเป็นปีศาจดุร้าย ผู้จัดการซู่ที่นอนกองตรงหน้าได้ลบหลู่น้องสาวหยางเย่ เขายิ่งไม่อาจอดกลั้นได้อย่างแน่นอน
อ๊า!!! อ๊า!!!
ผู้จัดการซู่ร้องโหยหวนภายในโรงอาหารพร้อมกลุ่มของตู่ชือ ศิษย์ทุกคนในโรงอาหารตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินเสียงโหยหวน พวกเขารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
ผู้จัดการซู่กดขี่ข่มเหงพวกเขาอยู่บ่อยครั้ง ไม่เพียงแค่ริบเงินเดือน เขายังโบยศิษย์ผู้ที่ไม่เชื่อฟัง ภายในศิษย์นับพันของยอดเขาแรงงาน อย่างน้อยกว่าเก้าส่วนถูกจอมถลกหนังทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม!
“หยุดมือเจ้าซะ!” ทันใดนั้น ชายชราสวมผ้าคลุมขาวปรากฏขึ้นในโรงอาหาร เสียงของเขาแฝงด้วยพลังปราณล้ำลึกเข้าหูศิษย์ทุกคนในโรงอาหาร