มหากาพย์ดาบเทวะ! - ตอนที่ 69
ตอนที่ 69 อาจารย์?
เมื่อได้ยินจางเหิงตั้งใจจะหาเรื่องหยางเย่ เฉียวอวี่เอ๋อขมวดคิ้วแน่น เห็นได้ชัดว่านางก็โกรธเช่นกัน อีกทางหนึ่ง หยางเย่เหมือนจะไม่ได้ยินเสียงของชายหนุ่ม เขารีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นหยางเย่ไม่สนใจ จิตสังหารปรากฏขึ้นผ่านดวงตาจางเหิง เขารีบพุ่งไปโจมตีด้านหลังหยางเย่!
หยางเย่หยุดเคลื่อนไหวขณะจางเหิงโจมตีเข้ามา ท่าทีของเขาเปลี่ยนเป็นมืดครึมขึ้นมาทันที และไม่ลังที่จะหันไปพร้อมตอบโต้หมัดของชายหนุ่ม
รอยยิ้มอันน่ากลัวปรากฏบนมุมปากของจางเหิงเมื่อเห็นหมัดของหยางเย่ ในอดีตหลายปีก่อนที่เขาเป็นผู้รักษาการณ์ของสมาคม แม้แต่สมาชิกของตระกูลใหญ่ในเมืองอาทิตย์อุทัยยังสุภาพกับเขา แต่ไอ้หนูนี่กลับกล้าเมินเฉย เป็นสหายของตระกูลเฉียวแล้วอย่างไร? ‘เราจะสั่งสอนมันในวันนี้เอง!’
เมื่อเห็นจางเหิงโจมตีหยางเย่ ประกายแห่งความหวาดกลัวปรากฏผ่านดวงตาเฉียวอวี่เอ๋อ จากนั้นเขาบอกบางอย่างแก่ชายชราชุดเทาที่เพิ่งปรากฏตัวด้านขาง “ผู้อาวุโสจวิน ช่วยหยางเย่ด้วย!”
ในอีกด้านหนึ่ง ชายชราชุดเทาส่ายหัว และไม่กระทำสิ่งใด เขาเพียงแค่มองดูหยางเย่โดยไม่กระพริบตา
เมื่อเห็นเขาปฏิเสธ นางรู้สึกกังวลเพิ่มขึ้นมาทันที โชคร้ายที่มันสายเกินไป เพราะหมัดของพวกเขาได้ปะทะกันแล้ว
กร๊อบ!
เสียงของกระดูกหักดังขึ้น เฉียวอวี่เอ๋อตกใจอย่างมาก นางรีบเข้าไปช่วยเหลือหยางเย่ แต่การกระทำต่อมาของหยางเย่ทำให้นางต้องหยุดชะงักทันที
บัดซบ! จางเหิงร้องโหยหวนในใจขณะที่หมัดปะทะกัน เขาทราบแล้วว่าประมาทคู่ต่อสู้เกินไป โชคร้ายที่มันช้าไปเสียแล้ว กระดูกและข้อมือของเขาหักในทันที
จางเหิงรู้สึกประหลาดใจ และรีบถอยกลับ แต่ทันทีที่เขาถอยไป หยางเย่ได้พุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว จากนั้นหยางเย่ยกขากระแทกเข่าเข้าตรงท้อง
ปั้ง!
แรงกระแทกมหาศาลทำให้จางเหิงกระเด็น เขาชนเข้ากับพื้นอย่างรุนแรงหลังจากปลิวไปหลายเมตร ขณะกำลังจะคลานขึ้นมา หยางเย่ก็ได้ปรากฏตัวตรงขึ้นหน้าแล้ว เขากระหน่ำลูกเตะไปที่จุดตันเถียนของจางเหิง
หยางเย่ไม่เคยออมมือเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู! เขาสังหารคนที่ควรสังหาร เขาทำลายวรยุทธ์คนที่สมควรโดน!
เมื่อเห็นหยางเย่กระหน่ำเท้าใส่จุดตันเถียน จางเหิงดูตกใจอย่างมาก เขาไม่คาดคิดว่าทั้งกำลังและความเร็วของชายหนุ่มคนนี้จะน่าสะพรึงยิ่งนัก เขาไม่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะกล้าทำลายวรยุทธ์เขาตรงหน้าสมาคมผู้ใช้ยันต์ เขาไม่กลัวสมาคมผู้ใช้ยันต์จะแก้แค้นเลยหรือ?
ด้วยระดับขั้นปราณสวรรค์ จางเหิงรีบเรียกสติกลับ จากนั้นเขาตบมือซ้ายป้องกันการโจมตีของหยางเย่!
ปั้ง!
จางเหิงกระเด็นไปอีกสองถึงสามเมตรจากลูกเตะที่รุนแรง จากนั้นปะทะเข้ากับขั้นบันไดหินข้างหลัง เขาสัมผัสบางอย่างได้พร้อมรีบลุกขึ้น โชคร้ายที่มันช้าเกินไป เพราะหยางเย่ได้มาปรากฏตรงหน้าอีกครั้งเหมือนก่อนหน้านี้ เขาเตะไปที่จุดตันเถียนของจางเหิงอีกครั้ง!
“เจ้ากล้าดียังไง!” ดวงตาของจางเหิงเปลี่ยนจากกลัวเป็นโกรธ!
ท่าทีความเย้ยหยันปรากฏขึ้นตรงมุมปากหยางเย่ เขาไม่โต้เถียงกับจางเหิงไม่ว่าจะกล้าหรือไม่ ทั้งยังเพิ่มกำลังไปอีกในทุกการโจมตี
ทันใดนั้น ชายชราชุดเทาได้ปรากฏตัวระหว่างหยางเย่กับชายหนุ่ม
เมื่อเขาเห็นชายชราชุดเทาปรากฏ ประกายแห่งความสับสนปรากฏผ่านดวงตาหยางเย่ แต่เขาไม่อาจจะหยุดการโจมตีได้แล้วเวลานี้
ปั้ง!
หยางเย่กระเด็นไปสิบก้าวขณะที่ชายชราไม่ขยับแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าหยางเย่อยู่ในจุดเสียเปรียบ
ขณะมองไปยังชายชราชุดเทาที่ยืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับ ขาของเขาได้เกิดอาการชาขึ้น หยางเย่ตกตะลึงพร้อมกล่าวในใจ ‘แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้! ชายชราคนนี้อย่างต่ำต้องอยู่ขั้นปราณราชัน และอาจจะเป็นยอดฝีมือขั้นปราณจิตวิญญาณ!’
ผู้อาวุโสจวินมองไปที่หยางเย่ “กำลังเยี่ยม ความเร็วก็ยังยอดเยี่ยมเช่นกัน แต่การควบคุมทั้งสองยังอ่อนแอ เมื่อการควบคุมแสดงออกว่าไม่เท่ากัน มันจะทำให้เจ้าถอยหลังไปเหมือนตอนนี้ และผลลัพธ์ที่จะเจอจากนี้ก็คงเหมือนชายหนุ่มด้านหลังข้า!”
หยางเย่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเขาประกบมือคารวะชายชราพร้อมกล่าว “ขอบคุณที่แนะนำ!”
ผู้อาวุโสจวินพยักหน้าเมื่อเห็นท่าทีสุขุมของหยางเย่ ความนับถือปรากฏผ่านดวงตาของหยางเย่ ศิษย์สำนักมักจะหยิ่งผยอง แต่เดิมเขาตั้งใจจะไม่แนะนำหยางเย่ แต่ด้วยความสัมพันธ์ของหยางเย่และอวี่เอ๋อ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลงมือ อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นท่าทีสงบเสงี่ยมของหยางเย่ เขาค่อนข้างประทับใจในตัวเขาขึ้นมา
ขณะนั้นเองเฉียวอวี่เอ๋อมาถึงตรงหน้าหยางเย่ นางถึงกับตกตะลึงในใจพร้อมกล่าว “น้องหยาง เป็นข้าเองที่เรียกผู้อาวุโสจวินเข้าไปหยุดการต่อสู้ ท่านไม่สามารถสังหารเขาได้ เพราะหากเขาตาย ไม่เพียงแค่จักรวรรดิต้าฉินจะเอาเรื่อง แม้จะกระทั่งสมาคมผู้ใช้ยันต์ยังจะเอาเรื่องท่านด้วย บางทีอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับท่าน แต่ก็ต้องลำบากแน่นอนในเวลาต่อมา!”
หยางเย่พยักหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น จากนั้นเขามองอย่างเย็นเยือกไปที่ชายหนุ่มด้านหลังเฉียวอวี่เอ๋อ
เมื่อนางเห็นหยางเย่มองไปที่เขา เฉียวอวี่เอ๋อพอจะเข้าใจสิ่งที่หยางเย่คิดพร้อมกล่าวในทันที “อย่ากังวลไปเลยน้องหยาง อวี่เอ๋อมั่นใจว่าเขาจะไม่มาปรากฏตัวในเมืองนี้อีก และเขาจะไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมผู้ใช้ยันต์ด้วยเช่นกัน!”
เมื่อได้ยินเฉียวอวี่เอ๋อ หยางเย่ไม่ได้สนใจชายหนุ่มอีก เขามองไปที่เฉียวอวี่เอ๋อพร้อมกล่าว “แม่นางอวี่เอ๋อ ขอบคุณมาก หากข้ากลับมาที่เมืองนี้อีกในภายภาคหน้า ข้าจะไปเยี่ยมตระกูลเฉียวแน่นอน ข้ามีธุระด่วนต้องไปทำตอนนี้ เช่นนั้นไว้เจอกันใหม่!”
ทันทีที่กล่าวจบ หยางเย่พยักหน้าให้นาง จากนั้นเขาหันหลังจากไป
ขณะมองไปยังร่างหยางเย่ที่เลือนหายไป เฉียวอวี่กล่าวเบา “ในอดีตเราเคยได้ยินว่าขั้นปราณมนุษย์สามารถเอาชนะขั้นปราณสวรรค์ได้ เวลานั้นเราคิดว่ามันเป็นการกล่าวเกินจริง ไม่คาดว่าจะมีอัจฉริยะขั้นปราณมนุษย์ที่สามารถล้มขั้นปราณสวรรค์ได้จริง ข้ามองผิดพลาดไป”
ชายชราด้านหลังเฉียวอวี่เอ๋อกล่าว “เขาแข็งแกร่งมาก ใช้แค่เพียงหมัดก็สามารถเอาชนะจางเหิงได้ หากเขาใช้ดาบขึ้นมา จางเหิงคงตายไปแล้วตอนนี้!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉียวอวี่เอ๋อยิ่งตกตะลึงไปอีก ‘ถูกต้อง ศิษย์สำนักดาบราชันจะน่าสะพรึงเมื่อถือดาบ แต่หยางเย่สามารถล้มจางเหิงได้เพียงแค่หมัด ไม่สิ เราต้องบอกกว่าถูกจัดการได้อย่างสมบูรณ์แบบ! เช่นนั้นหากหยางเย่ไม่ใช้หมัด แต่ใช้ดาบแทนล่ะ? จะน่าสะพรึงกลัวขนาดไหนนะ?’
“อวี่เอ๋อ เจ้าเป็นอาจารย์ยันต์แล้วสินะ และอาจารย์จางยังรับเจ้าเป็นศิษย์ด้วยใช่หรือไม่?” ทันใดนั้นผู้อาวุโสจวินได้ถามคำถามนาง
เฉียวอวี่เอ๋อหยุดคิดพร้อมพยักหน้า “ต้องขอบคุณน้องชายหยาง หากไม่เพราะเขา เช่นนั้นข้าคงไม่ได้เป็นศิษย์อาจารย์จาง แม้อาจารย์ยันต์ก็คงไม่สามารถเป็นได้ ข้าคิดว่าควรขอบคุณเขามากกว่านี้ โชคร้าย ที่เขามีเรื่องเร่งด่วน…”
“เพราะเขางั้นหรือ?” ผู้อาวุโสจวินงงงวย
เฉียวอวี่เอ๋อพยักหน้าพร้อมมองไปทางที่หยางเย่จากไป “เขาเป็นอาจารย์ยันต์ระดับสี่ อาจารย์ของเขาเป็นใครบางคนที่แม้แต่อาจารย์จางยังเกรงกลัว อาจารย์จางรับข้าเป็นศิษย์ เพราะเขาเห็นว่าข้ามีความสัมพันธ์อันดีกับหยางเย่!”
“เขาเป็นอาจารย์ยันต์ระดับสี่เลยหรือ?” ผู้อาวุโสจวินตกตะลึง
เฉียวอวี่เอ๋อพยักหน้า
คลื่นแห่งความประหลาดใจโหมกระหน่ำเข้าในใจของผู้อาวุโสจวิน เขาสูดหายใจลึกพร้อมกล่าว “อวี่เอ๋อ เจ้าต้องเป็นสหายกับเขาให้ได้!”
แค่ความแข็งแกร่งของหยางเย่ก่อนนี้ก็ทำให้เขาประหลาดใจแล้ว เมื่อทราบตัวตนของหยางเย่ว่าเป็นอาจารย์ยันต์ด้วยยิ่งประหลาดใจมากขึ้น ‘อัจฉริยะอะไรกันนี่? เขามีความสามารถในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ทั้งยังเป็นอาจารย์ยันต์ด้วย!’
เฉียวอวี่เอ๋อเหมือนจะไม่ต้องการอยู่ต่อ นางมองไปที่จางเหิงก่อนจะยืนขึ้นพร้อมเดินไปยังสมาคมพร้อมกล่าว “ผู้อาวุโสจวิน ตามที่ข้าสัญญากับน้องหยางเมื่อตะกี้… ท่านคิดเห็นเช่นไร…?”
แม้จะสัญญากับหยางเย่ไว้แล้ว นางก็ไม่ได้มีอำนาจมากในตระกูลเฉียว อย่างน้อยก็ตอนนี้
ผู้อาวุโสจวินมองไปที่จางเหิงพร้อมกล่าว “พวกเราจะจัดการให้เขาหายไปจากเมืองนี้เอง! แม้จางเหิงจะมีคนรู้จักอยู่บ้างในสมาคม แต่มันก็ไม่มีอะไรมาก และยังเป็นแค่ปัญหาเล็กน้อย”
หากหยางเย่ไม่ใช่อาจารย์ยันต์ เช่นนั้นเขาอาจจะลังเลว่าในการจัดการกับจางเหิง แต่เมื่อทราบตัวตนของหยางเย่แล้ว เขาไม่ลังเลอีกต่อไป
เฉียวอวี่เอ๋อพยักหน้าเมื่อได้ยินเช่นนั้น นางเดินกลับไปที่รถม้าของตระกูลเฉียว
……
หยางเย่มาถึงโรงเตี๊ยมรื่นรมย์ และเข้าพบกับหม่าหนาน จากนั้นได้ขอให้หม่าหนานพาไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างเมือง หม่าหนานไม่ปฏิเสธพร้อมกับรีบพาหยางเย่ไป
หยางเย่ไม่คาดคิดว่าการใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างเมืองมันต้องใช้ห้าร้อยเหรียญทอง และสิบหินพลังปราณ! โชคร้าย เขาไม่ได้ขาดแคลนทั้งสองอย่าง ดังนั้นหยางเย่จึงยื่นหินพลังปราณสิบก้อน และห้าร้อยเหรียญทองให้ภายใต้อาการตกตะลึงของหม่าหนาน จากนั้นเขาเดินตรงไปยังค่ายกลทันที
เมืองหลวงของจักรวรรดิต้าฉิน สมาคมหลักของผู้ใช้ยันต์
ในห้องโถงที่กว้างขวาง ชายชราสองถึงสามคนในชุดทองคำเข้มกำลังงถกเถียงกันอย่างเข้มข้น เมื่อมันไม่จบสิ้น ชายหนุ่มคนหนึ่งได้เดินเข้ามาที่ห้องโถง ชายหนุ่มมองไปยังพวกเขาพร้อมเผยคิ้วเพลิงแดง จากนั้นเขาส่งจดหมายให้บรรดาชายชราก่อนจะกล่าว “ผู้อาวุโสหลิน จดหมายฉบับนี้ถูกส่งมาจากผู้จัดการสาขาเมืองอาทิตย์อุทัย จางหยวน”
ประกายความประหลาดใจปรากฏขึ้นผ่านดวงตาชายชรานามผู้อาวุโสหลิน จากนั้นได้กล่าว “จางหยวน? ข้าไม่รู้จักเขา เจ้าผิดพลาดอะไรหรือไม่?”
ชายหนุ่มรีบตอบกลับ “ไม่ขอรับ จางหยวนเน้นว่าให้ส่งจดหมายนี้ให้กับผู้อาวุโสหลิน!”
ผู้อาวุโสหลินขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน จากนั้นจึงรับจดหมายไว้ เขาระเบิดอารมณ์โกรธเกรี้ยวพร้อมตบโต๊ะ “ช่างน่าขัน! ศิษย์ของข้า? ข้าไม่มีศิษย์อื่นนอกจากหลานของข้า! ไอ้สารเลวคนไหนกล้าแอบอ้างกัน? มันอยากตายมากหรือไง!?”