มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1098
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1098
ที่อยู่อาศัยของบิดามารดาหลัวซิวตั้งอยู่ในสถานที่เงียบสงบ ณ สำนักเขาไท่เสวียน ทั้งยังกลายเป็นพื้นที่หวงห้าม นอกจากคนจำนวนน้อยบางคนแล้ว ห้ามผู้ใดเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต
บัดนี้หลัวซิ่วเอ๋อร์มีลูกถึงเจ็ดคน ซึ่งถือว่าเป็นหลานของหลัวซิว และมีสี่คนเป็นผู้มีพรสวรรค์ในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ซึ่งพวกเขาฝึกฝนอยู่ที่สำนักไท่เสวียน
หลัวซิวคือเจ้าศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน ในฐานะหลานของเขาที่ฝึกฝนอยู่ในไท่เสวียน จึงมีความรู้สึกเหนือกว่าโดยธรรมชาติ
ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่เหมือนกับหลัวซิวที่เกิดมาพร้อมความว่างเปล่า แต่พวกเขามีภูมิหลังที่ดีตั้งแต่กำเนิด สามารถได้รับเงื่อนไขการฝึกฝนตนเองที่เหนือกว่าได้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลัวซิวได้ฝึกฝนด้วยใจอันลึกล้ำ เขาไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวของเขามากนัก ดังนั้นจึงไม่รู้จักชื่อของเด็กสาวซึ่งอยู่ข้างหน้าเขาตอนนี้
“แม่หนูน้อย เจ้านามว่าอะไร” หลัวซิวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“เหอะๆ เจ้าเองก็ดูไม่ได้โต เหตุใดเจ้าจึงเรียกข้าว่าสาวน้อยเช่นคนแก่?” เด็กสาวขมวดคิ้ว “เจ้ายังมิได้ตอบคำถามข้าเลย เหตุใดเจ้าจึงทำลับๆ ล่อๆ หน้าบ้านข้า”
“ข้ายืนอยู่ตรงนี้อย่างเปิดเผย ข้าทำลับๆ ล่อๆ ที่ใดกัน?” หลัวซิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เจ้ายังทำปากแข็ง หาดเจ้าไม่ยอมบอกความจริงออกมา ข้าจะจับเจ้าด้วยมือของข้าเอง!” เด็กสาวก้าวไปข้างหน้า ออร่าของพลังจิตแท้เผยออกมาจากร่างนาง
มองดูนางอายุเพียง 13 – 14 ปี แต่อยู่ในแดนฝึกจิตขั้น 5 แล้ว ความสามารถและความถนัดของนางไม่อาจเรียกได้ว่าดีนัก แต่ก็มิได้ย่ำแย่
ต้องรู้ว่าเมื่อครั้นหลัวซิวอายุ 13 ปี เขาอยู่ในแดนกลั่นร่างเท่านั้น เขาเริ่มก้าวหน้าอย่างมากหลังจากได้รับลูกแก้วความเป็นตาย
“อายุมิได้มาก อารมณ์ร้ายทีเดียว” หลัวซิวหัวเราะออกมา “ข้าเป็นญาติผู้ใหญ่เจ้า หากนับญาติกันแล้ว เจ้าควรเรียกข้าว่าอา”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้เอ่ยออกมา เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าก็สะดุ้งเล็กน้อย สีหน้านางบูดบึ้งด้วยความโมโหทันที “เจ้ากล้าล้อข้าเล่นเช่นนี้หรือ?”
ขณะที่นางกล่าว นางก็ได้ลงมือไปด้วย ผนึกรวมพลังจิตแท้กลายเป็นมือใหญ่ซึ่งมีพลังในการสังหาร
นางอยู่ในขั้นแดนฝึกจิตเท่านั้น ทักษะที่ฝึกฝนนั้นเป็นวิชายิ่งเลิศไท่เสวียนที่มีออร่าสังหารอันลึกลับอย่างยิ่ง
“แม่หนูน้อย หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว”
หลัวซิวเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม ฝ่ามือของเด็กสาวกระแทกเข้าที่หน้าอกของเขา จากนั้นจึงโซเซถอยหลังไปสองสามก้าว
“มือเจ้าเจ็บหรือไม่?” หลัวซิวยิ้มขึ้นเล็กน้อย “พาข้าไปหาบิดามารดาของเจ้า รวมทั้งท่านปู่ท่านย่าของเจ้าด้วย”
เด็กสาวจับมือของตนด้วยความเจ็บปวด ดวงตาโตเป็นประกาย “เจ้าเป็นลุงของข้าจริงหรือ เจ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งไท่เสวียน?”
“ข้าดูไม่เหมือนงั้นหรือ?” หลัวซิวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“เมื่อครู่ข้ามิได้คิดเช่นนั้น แต่บัดนี้เมื่อมองดูใกล้ ๆ ก็มีส่วนคล้ายคลึง……”
ตัวสำนึกของหลัวซิวรับรู้ได้ว่าบิดามารดาของเขาอยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาจึงเดินตรงเข้าไป ในขณะที่เด็กสาวอันหยิ่งผยองเดินตามหลังเขาด้วยท่าทางบูดบึ้ง
“ท่านพ่อ ท่านแม่……”
“เสี่ยวซิว?”
บิดามารดาของเขากำลังรดน้ำดอกไม้ในลานบ้านอยู่ ต่างพากันตกตะลึงเมื่อเห็นหลัวซิวเดินตรงเข้ามา
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกอกตัญญู ปล่อยให้เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายปีจึงเดินทางมาหาพวกท่าน” แม้ว่าจะเป็นความประสงค์ของหลัวซิวเอง แต่อารมณ์ของเขาบัดนี้ก็สั่นไหว
บิดามารดากล่าวได้ว่าเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดกับเขามากที่สุดในโลก แม้ว่าบัดนี้จะเป็นเจ้าศักดิ์สิทธิ์ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้สูงสุดของโลก แต่เขาก็ยังเป็นมนุษย์ และไม่สามารถหนีพ้นจากอารมณ์และความปรารถนาได้ .
“เป็นอาของข้าจริงๆ……” เด็กสาวที่ติดตามหลัวซิวเข้ามาถึงกับตกตะลึง
หลายปีที่ผ่านมานี้หลัวซิวไม่อยู่ เหยียนเยว่เอ๋อและเหยียนซีโรว่มักจะมาดูสองผู้อาวุโสนี้ ซึ่งทำให้ทั้งสองคนมีความสุขมาก
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วันต่อมาหลัวซิวได้ใช้วิชาแบ่งร่างดับเบิ้ล แล้วทิ้งร่างแยกเอาไว้ที่นี่ ประการแรก เขาสามารถมาหาบิดามารดา เหยียนซีโรว่และเหยียนเยว่เอ๋อได้ตามต้องการ ประการที่สอง เขาได้ทิ้งทางออกสุดท้ายสำหรับไท่เสวียนเอาไว้ด้วย
ร่างแยกของเขานี้ได้ซุกซ่อนเอาไว้ เว้นแต่จะมีภัยพิบัติที่มาทำลาย เขาจึงจะออกมารับมือ