มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1196
แต่สำหรับเรื่องที่ว่าหลัวซิวจะบรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ขั้นสูงภายในเวลา 3 เดือนได้อย่างไรนั้น นางกลับมีท่าทีที่ดูสงสัยอยู่เช่นเคย เนื่องจากถึงแม้จะยับยั้งผลการฝึกตนมาโดยตลอด แต่ผลการฝึกตนก็ไม่มีทางบรรลุเร็วเช่นนี้แน่นอน
แต่ในความเป็นจริง ทั้งหมดที่หลัวซิวกล่าวมาก็จริงครึ่งไม่จริงครึ่ง ตอนที่เขาอยู่ในป่าลมสายฟ้า ตัวหยั่งรู้ของเขาถูกพลังเทพธาตุอัสนีดั้งเดิมโจมตีจนได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังไม่ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติด้วย และถึงแม้จะอยู่ในสภาวะที่ดีที่สุด จากผลการฝึกตนของมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 2 ก็ใช่ว่าจะสามารถเอาชนะเทียนหวูเชวได้เสมอไป
ครั้นเมื่อเอาชนะเทียนหวูเชวได้อย่างง่ายดายตอนอยู่ในโลกเซียนเสวียนเทียนนั้น เป็นเพราะพึ่งพาศักยภาพของร่างกลวัฏสงสารเมื่อชาติปางก่อน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ศักยภาพร่างแยกกฎความตายของเขาจะอ่อนกว่ามาก ๆ หากผลการฝึกตนอยู่ในมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลาย อาจจะต่อสู้กับเทียนหวูเชวอย่างสูสีได้ แต่ถ้าหากอยู่ในมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 2 ละก็ การเอาชนะเทียนหวูเชวก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
เนื่องจากร่างแด่เทพเจ้าของเทียนหวูเชวไม่ใช่เล่น ๆ รากฐานลึกแน่นอย่างมาก นอกเสียจากว่าจะใช้ไพ่เด็ดทุกใบถึงจะสามารถตีเสมอกับเขาได้
แต่ทว่าศึกการต่อสู้ในอีก 3 เดือนภายหลังเป็นที่เฝ้าจับตาดูของทุกคน เขาไม่สามารถใช้ไพ่เด็ดของตัวเองออกมาอย่างไม่เกรงกลัวใด ๆ
“หากผลการฝึกตนของข้าบรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 3 วิชาแบ่งร่างดับเบิ้ลรวมกันเป็นหนึ่ง ร่างแท้ก็จะบรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 การจะสังหารเทียนหวูเชวจึงไม่ใช่เรื่องยาก!”หลัวซิวที่อยู่ในห้องพูดพึมพำคนเดียว
ในขณะเดียวกัน ภายในโลกแสงดาวที่อยู่เหนือมิติที่ทับซ้อนกัน ร่างแยกกฎชีวิตค่อย ๆ ลุกตัวขึ้นพลางพูดพึมพำ: “ต้องไปโลกเสวียนเทียนแล้วหรือ?”
หลัวซิว? หลัวซิวคือผู้ใด?
หลังจากข่าวเรื่องมีคนท้าประลองเทียนหวูเชวได้แพร่งพรายออกไปจากเมืองแก้วเทว ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว ใบหน้าของนักยุทธ์ทั่วทั้งโลกเสวียนเทียนก็มีความสงสัยปรากฏอย่างควบคุมไม่ได้
เนื่องจากพวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อคนที่จะท้าประลองเทียนหวูเชวมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
แม้กระทั่งศิษย์ในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินก็ไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับตัวหลัวซิวมากเท่าไหร่นัก ถึงแม้ระยะเวลาที่เขาเข้าร่วมสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินจะนานหลายปี แต่เขากลับเคลื่อนไหวอยู่ภายนอกน้อยมาก ๆ ไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับผู้ใดมากเท่าไหร่นัก
ชายหนุ่มที่ไม่เป็นที่รู้จักของผู้คน ผลการฝึกตนอยู่แค่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 2 แต่ถึงกับกล้าท้าประลองเทียนหวูเชวอย่างนั้นหรือ อีกทั้งยังเป็นการสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายด้วย?
ในสายตาของคนจำนวนมาก การที่ชายหนุ่มที่มีนามว่าหลัวซิวจะสู้กับเทียนหวูเชวอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น มันไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตายเลย
เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรให้น่าพะวงเลยด้วยซ้ำ
เทียนหวูเชวคือผู้ใด?
หากพูดถึงหลัวซิวน่าจะไม่มีคนรู้จัก แต่ถ้าหากพูดถึงเทียนหวูเชวละก็ คนทั้งโลกเสวียนเทียนกลับรู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่มีผู้ใดไม่รู้จักเขา
เขาคืออัจฉริยะที่โดดเด่นมากที่สุดในสำนักไร้เจตสิก มีร่างแด่เทพเจ้า ถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องได้กลายเป็นเทพมารอย่างแน่นอน มากกว่านั้นคือเขาสะสมรากฐานอยู่ในแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 มานานมาก ๆ รากฐานของเขาแน่นลึกยิ่งกว่าผู้แข็งแกร่งระดับเจ้านภาเสียอีก
ซึ่งเช่นนี้ก็หมายความว่าศักยภาพของเขาเทียบทัดกับเจ้านภาได้ หรืออาจจะอยู่เหนือเจ้านภาซะด้วยซ้ำ!
คนอย่างเทียนหวูเชว ถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องได้กลายเป็นหนึ่งในเจ้านภาที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเสวียนเทียน
“จื่อเยียนปรากฏตัวแล้วหรือ?”
หลัวซิวนำข้อมูลข่าวส่งไปยังสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน พี่น้องตระกูลซุ๋นเป็นผู้ที่มาถึงก่อนเป็นคนแรก
เมื่อได้ยินว่าหลัวซิวถึงขั้นท้าประลองเทียนหวูเชว ซุ๋นหวู่หยาก็ขมวดคิ้วลงไปในทันที ถึงแม้เขาก็ถือเป็นอาจารย์ในนามของหลัวซิวเช่นกัน แต่เขากลับไม่ทราบศักยภาพความสามารถที่แท้จริงของหลัวซิวเลย อีกทั้งไม่เคยชี้แนะการฝึกตนให้แก่เขาด้วย
“ท่านพี่ หลัวซิวก็ถือเป็นศิษย์ครึ่งหนึ่งของท่านเช่นกัน ท่านรู้สึกว่าศึกการต่อสู้ระหว่างเขาและเทียนหวูเชว เขามีโอกาสชนะเท่าใด?”ซุ๋นซินเหลียนอดไม่ได้ที่จะหันไปถามช่าจื่อเยียน
วินาทีนี้หลัวซิวกำลังฝึกตนปิดขังอยู่ในห้องพักอีกห้องหนึ่ง พวกเขาไปถามหลัวซิวไม่ได้ จึงทำได้เพียงถามช่าจื่อเยียน
ช่าจื่อเยียนขมวดคิ้วที่งดงามคู่นั้นลงไปเล็กน้อย แล้วส่ายหน้าเบา ๆ“ข้าก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก ถึงแม้ข้าจะเคยชี้แนะการเพ็ญตนด้านกฎความตายให้แก่เขา แต่ทว่าหลัวซิวโชคดีได้รับการถ่ายทอดสืบสานจากผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ข้ามิอาจทราบได้เลย”
“ถึงอย่างไรเทียนหวูเชวก็เป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดในสำนักไร้เจตสิก ผลการฝึกตนอยู่ในมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 สามารถตีเสมอกับเทพมารได้อย่างสูสี โดยเฉพาะพลังอมตะที่เขาฝึก ก็เป็นวิชาสูงสุดในสำนักไร้เจตสิกเช่นกัน ผู้แข็งแกร่งเทพมารขั้นปฐมภูมิก็ใช่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาเสมอไป”