มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1215
เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ไม่กี่เดือนต่อมา หลัวซิวก็ออกจากการปิดกั้นฝึกตนอีกครั้ง เรียกจินเฟยเทียนมา ยืนอยู่บนหลังของเขาแล้วบินออกจากสำนัก
“นายท่าน เราจะไปไหนหรือ์” จินเฟยเทียนถามอย่างโกรธเคือง
“ไปที่เมืองแห่งแก้วเทว”
“ไปที่นั่นอีกแล้วหรือ?” จินเฟยเทียนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น และแอบพูดอย่างลับ ๆ ว่า “ครั้งล่าสุดที่ไปเมืองแก้วเทว นายท่านได้ฆ่าเทียนหวูเชว ผลที่ตามมาคือดึงดูดจ้าวนภาไร้เจตสิกมา ครั้งนี้ไปที่เมืองแก้วเทวอีกครั้ง หรือว่าจะไปฆ่าใครอีกแล้วหรือ?”
คำพูดนี้เขาไม่กล้าบอกหลัวซิวอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วจุดประสงค์ของหลัวซิวในการไปเมืองแก้วเทวครั้งนี้คือการรวบรวมวัสดุบางอย่าง
อาวุธที่จอมยุทธ์หลอมขึ้นมา ต่างต้องกำหนดตามการฝึกฝนของวรยุทธ์ วิชาพลังอมตะ และกฎที่พวกเขาได้ฝึกฝน
ประการแรกคือวรยุทธ์ หลัวซิวฝึกฝนพลังจุติมรณะ ถ้าเขาต้องการหลอมอาวุธ เขาต้องหลอมวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพด้านหนึ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการหลอมวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพด้านหนึ่ง ก็ต้องการวัสดุที่มีพลังแห่งกฎึวามเป็นและความตายสองอย่าง วัสดุเหล่านี้เป็นสมบัติชั้นยอดที่หายากในโลก
แต่เมืองแก้วเทวเรียกว่าหากเจ้ามีความมั่งคั่งเพียงพอก็ไม่มีอะไรที่เจ้าไม่สามารถซื้อได้ ครั้งนี้ที่หลัวซิวไปเมืองแก้วเทว เพื่อรวบรวมวัสดุสำหรับการหลอมวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ
ประการที่สองคือวิชาพลังอมตะ วิชาพลังอมตะพื้นฐานของหลัวซิวก็คือหมื่นจักรวาลไร้รูป วิชาพลังอมตะนี้วิวัฒนาการจากไร้รูปร่างไปสู่มีรูปร่าง ไม่ต้องใช้อาวุธเฉพาะ มีหอกยุทธ์มังกรดำเดียวก็เพียงพอแล้ว!
หลังจากที่ผลการฝึกบรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 4 แดนกฎของเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน กฎแห่งชีวิต ความตายและเวลา ทั้งสามได้บรรลุแดนสมบูรณ์แบบ ต้องห้ามเก้าขั้นของหอกยุทธ์มังกรดำได้ปลดบล็อกถึงขั้นสี่
ก่อนหน้านี้ หอกยุทธ์มังกรดำเป็นเพียงของขลัง หลังจากค้นพบต้องห้ามเก้าขั้น และปลดบล็อกทีละขั้น จากของขลังได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นศัสตราวุธ
หลังจากศัสตราวุธ หอกยุทธ์มังกรดำก็มีต้องห้ามเก้าขั้นอีกครั้ง หลังจากปลดบล็อกต้องห้ามเก้าขั้น ก็สามารถวิวัฒนาการเป็นอาวุธเทพฟ้า!
หลังจากวิชาพลังอมตะ คือกฎ กฎขึ้นไปอีก ตอนนี้หลัวซิวฝึกฝนอยู่บนกฎเวลาเท่านั้นเอง ยังขาดอาวุธชิ้นหนึ่ง
ชิ้นส่วนของใจแห่งศุภร เป็นเพียงสมบัติชิ้นหนึ่ง ไม่สามารถใช้เป็นอาวุธได้ โลกาศุภรที่บรรจุอยู่ในนั้นเป็นเพียงตัวช่วยเท่านั้น
เขาอยากจะหลอมอาวุธชิ้นหนึ่ง สลักร่องรอยเวลาและปริภูมิสองกฎ และป้อนลายค่ายสัญลักษณ์ลงไป ทำเป็นไพ่ตายชิ้นหนึ่ง เมื่อกระตุ้นก็สามารถบดขยี้อากาศและหยุดเวลาได้!
“ด้วยพลังของอัคคีเทพชิงเทียนในปัจจุบัน อย่างมากจะสามารถกลั่นแปรวัสดุระดับเทพได้เท่านั้น แต่เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกฎความเป็นความตายสองแอย่าง แม้แต่วัสดุเทพธรรมดาก็มีค่ามาก”
เมื่อหลัวซิวมาถึงเมืองแก้วเทว เขาก็ตรงไปยังร้านค้าที่หรูหราที่สุดในเมือง
ชื่อของร้านนี้เรียกว่า หอว่านเซี่ยง ซึ่งหมายความว่าครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างและมีทุกอย่าง
แม้ว่าตงฟางเทียนโหยวจะเป็นเจ้าของเมืองแก้วเทว แต่ในเมืองแก้วเทวมีอุตสาหกรรมมากมาย มีเพียงสนามต่อสู้เท่านั้นที่อยู่ภายใต้ชื่อของ เจ้าเมืองตงฟางอุตสาหกรรมหลักอื่น ๆ ถูกควบคุมโดยกองกำลังอื่น
เหตุผลที่ตงฟางเทียนโหยวไม่แทรกแซงในอุตสาหกรรมเหล่านี้ก็เพราะทุกอุตสาหกรรมนั้นต้องลำบากและเหนื่อย นอกจากนี้หากทำการค้าในเมืองแก้วเทวของเขา เพียงแค่เก็บค่าเช่า เขาสามารถทำเงินได้มากมาย คุ้มมากไม่ใช่หรือ?
หอว่านเซี่ยงมีชื่อเสียงมากในโลกเสวียนเทียน ว่ากันว่ามีผู้แข็งแกร่งระดับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
ร้านของหอว่านเซี่ยงที่ทำการค้าอยู่ในเมืองแก้วเทวนั้นมีความสูงสามร้อยสามสิบสามเมตร ทั่วทั้งร้านสร้างจากแก้วเทวทั้งหมด แพรวพราวหรูหรามากนัก