มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1239
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1239
พรสวรรค์เช่นนี้เกินกว่าจินตนาการของคนทั่วไป อีกทั้งอีกฝ่ายยังดูเยาว์วัยเช่นนี้ หากปล่อยให้อีกฝ่ายเติบโตขึ้นมา สำหรับชนเผ่างูเกล็ดเขียวแล้วนั้น ต้องเป็นหายนะอย่างแน่นอน
“ร่างเทพปีศาจ!”
หุบเขาผีเขียวคำรามออกมาเสียงดังลั่น เสียงแตกดังออกมาจากภายในร่างกายของเขา ดูเหมือนกระดูกทั่วทั้งร่างถูกหัก จากนั้นก็รวมเข้ากันใหม่อีกครั้ง
ร่างของเขาเต็มไปด้วยเกล็ดสีเขียวแน่นปรากฏขึ้น แขนทั้งสองข้างที่แหลกสลายไปก่อนหน้านี้ก็งอกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง กลายเป็นงูยักษ์เกล็ดเขียวสองตัว
นี่คือร่างของเทพปีศาจ ผู้แข็งแกร่งของเผ่าอสูรอสรพิษฝึกตนถึงแดนเทพปีศาจ ก็จะสามารถสำแดงวิชาอาถรรพณ์ชนิดหนึ่งได้
ถึงแม้จะไม่ใช่พลังอมตะ แต่ก็เป็นวิชาที่แข็งแกร่งรองจากพลังอมตะเท่านั้น
สีหน้าของหลัวซิวยังคงนิ่งเรียบเหมือนปกติ ในสถานะปัจจุบันของเขา คนรุ่นหลังไม่มีใครที่ควรค่าให้เขาต่อสู้ด้วยอีกต่อไปแล้ว สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้นั้น มีเพียงเหล่าเทพมารที่ฝึกตนนับหมื่นปีเท่านั้น
ท่ามกลางจักรวาล มีพิภพมากมายนับไม่ถ้วน พิภพที่แตกต่างกันต่างก็มีการสืบทอดโลกยุทธ์ที่ต่างกัน ทั้งแปลกประหลาดและพิสดาร
หว่างคิ้วของหุบเขาผีเขียวแยกออกเป็นรอยแยกเส้นหนึ่ง กลายเป็นดวงตาที่สาม วินาทีที่ดวงตาดวงนี้เปิดขึ้น ออร่าที่ดุร้ายก็แผ่ซ่านออกมาทะลุเข้าไปยังใจกลางตัวหยั่งรู้ของหลัวซิว
“พุ! พุ! พุ!……”
ใต้วงแขนของหุบเขาผีเขียว ก็มีอีกสี่แขนงอกออกมา แขนทั้งสี่นี้ไม่ได้กลายเป็นงูยักษ์เกล็ดเขียว แต่แบ่งไปถืออาวุธแทน นั่นคือดาบรบ กระบี่ยุทธ์ ขวานยุทธ์ และโซ่ตรวน
ชนเผ่างูเกล็ดเขียวปกครองมากกว่าร้อยชนเผ่าเล็ก ทุกปีมีการเรียกเก็บเครื่องบรรณาการจำนวนมาก ครอบครองทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์
หุบเขาผีเขียวมีสถานะเป็นผู้อาวุโสสองของชนเผ่างูเกล็ดเขียว ย่อมสามารถนำทรัพยากรต่าง ๆ มาใช้ได้ไม่น้อย ฝึกเซ่นออกมาเป็นอาวุธเทพมารสี่ชิ้น
ฝึกเซ่นอาวุธเทพมาร สำหรับวัสดุแล้วมีเงื่อนไขที่สูงมาก ไม่เพียงแต่ระดับของวัสดุจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดเท่านั้น ยังจำเป็นต้องมีจำนวนมหาศาลอีกด้วย
ดังนั้นอาวุธเทพมารสี่ชิ้นที่หุบเขาผีเขียวฝึกเซ่นนี้ พลังนั้นไม่ได้มากสักเท่าใดนั้น ต่างก็เป็นชั้นล่าง
ถ้าเขาเอาวัสดุทั้งหมดมาใช่เพื่อฝึกเซ่นอาวุธเทพมารชิ้นหนึ่ง อย่างน้อย ๆ ก็สามารถฝึกเซ่นอาวุธเทพมารระดับกลางได้ชิ้นหนึ่ง
“ปัง!”
หลังจากสำแดงร่างของเทพปีศาจแล้ว หุบเขาผีเขียวก็พุ่งตรงเข้ามาโจมตีทันที อาวุธเทพมารที่ถูกกำอยู่ในมือทั้งสี่ระเบิดพลังออก พร้อมกับรัศมีสังหารที่น่าสะพรึงกลัว
เผ่าปีศาจแห่งโลกาอสูรฟ้า ส่วนมากจะฝึกตนสองกฎคือสังหารและความตาย ส่วนน้อยที่จะฝึกตนกฎAttrอื่น ๆ
หลัวซิวยกมือขึ้นหยิบหอกยุทธ์มังกรดำออกมา เผชิญหน้ากับการจู่โจมของอาวุธเทพมารทั้งสี่ เขาใช้เพียงหอกด้ามเดียวต่อกรกับศัตรู หอกรูปมังกรพุ่งออกมา พร้อมกับพลังอันโอ่อ่าและยิ่งใหญ่
ปัง!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกเป็นวงกว้าง โซนบิดเบี้ยวและแตกเป็นเสี่ยง ๆ หลัวซิวอาศัยพลังของหอกรบด้ามเดียว ต้านการโจมตีของอาวุธเทพมารทั้งสี่ไว้ได้
เห็นเพียงแขนทั้งสี่ของหุบเขาผีเขียวกระพือขึ้นลงไปมา การโจมตียังคงดำเนินต่อไป แขนอีกสองข้างที่ตอนนี้กลายเป็นงูยักษ์เกล็ดเขียวก็อ้าปากกว้าง หาโอกาสที่เหมาะสมเพื่อฝังเขี้ยวลงไป
ภายใต้การโจมตีที่ดุเดือดเช่นนี้ หลัวซิวกลับยังคงนิ่งสงบอยู่เช่นเดิม ทุกการสั่นไหวเล็กน้อยของร่างนั้น สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีส่วนใหญ่ไว้ได้
หากมองอย่างละเอียด จะสามารถพบว่าโซนรอบกายของเขาต่างก็บิดเบี้ยวตามไปด้วย ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอย่างสมบูรณ์
ปัง!
อาวุธเทพมารทั้งสี่โจมตีเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้หลัวซิวไม่ได้มีทีท่าว่าจะหลบหลีกแต่อย่างใด
ฉากที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงได้เกิดขึ้นแล้ว เห็นเพียงวินาทีที่อาวุธเทพมารทั้งสี่พุ่งตรงมาตรงหน้าเขา ก็ถูกปิดกั้นโดยโซนที่บิดเบี้ยวทันที ไม่ว่าจะโจมตีอย่างไรก็ไม่สามารถโจมตีลงไปบนร่างของหลัวซิวได้เลย