มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1281
เพื่อที่จะเอาชีวิตเขา ไม่นึกว่าเขาปีศาจนรกจะส่งเทพฟ้าออกมาถึงสองคน เทพมารระดับสูงสุดเจ็ดคน และยังมีเทพฟ้าของเผ่าปีศาจอีกหนึ่งคน!
“ไป!”
หลัวซิวไม่ได้ลังเลเลยสักนิด ปีกเทพมังกรครามยักษ์ไร้มลทินปรากฏออกมาที่ด้านหลังของเขา เสียงพรึบดังขึ้นและหายลับขอบฟ้าไปในทันที
แม้ว่าผลการฝึกตนของเขาจะบรรลุขั้น ความสามารถเพิ่มระดับขึ้น ถามตัวเองก็ไม่มีทางที่จะ อาศัยพลังของตนเพียงคนเดียวมารับมือกับเทพสามคน
โดยเฉพาะชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาวสีเขียวผู้นั้น หลัวซิวรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มากที่เขาจะเป็นเทพฟ้าระดับกลางผู้หนึ่ง
“เจ้าเดรัจฉานน้อย รู้ตั้งแต่ตอนที่อยู่แล้วว่าเมืองม่านฉาโหลวแล้วว่าเจ้าเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว พวกเราจะไม่มีการเตรียมการมาหรืออย่างไรกัน?”
ชายชราร่างกายผอมเล็กหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา เห็นเพียงเขาได้โบกมือ เรือรบสีดำลำหนึ่งถูกเขาเรียกออกมา เรือรบปรากฏขึ้นมาในอากาศ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสิบคนกระโดดลอยตัวขึ้น และเหาะลงไปบนดาดฟ้าเรือรบ
บนเรือรบลำนี้ได้เขียนสลักลวดลายค่ายกลและสัญลักษณ์ยันต์เอาไว้มากมาย ชายชราร่างผอมเล็กได้หยิบเอาหินเทวออกมาจำนวนมากและขับเคลื่อนลวดลายค่ายกลและสัญลักษณ์ยันต์ เรือรบพลันเคลื่อนที่เร็วขึ้น ไล่ตามหลัวซิวไปอย่างรวดเร็ว
“เรือรบลำนี้ของข้ามีชื่อว่าเรือเซียนวาโย เป็นสมบัติแห่งเทพฟ้าที่ผสมผสานไว้ด้วยความมหัศจรรย์ของกฎธาตุลม ความเร็วในการเคลื่อนไหวนั้นไม่เป็นสองรองใคร เจ้าไม่มีทางที่จะหนีรอดไปได้อย่างแน่นอน!”
ภายใต้การเติมเต็มของพลังแห่งหินเทวจำนวนมาก การเคลื่อนไหวของเรือเซียนวาโยได้ถูกขับเคลื่อนให้เร็วที่สุด ไม่ด้อยไปกว่าปีกเทพมังกรครามยักษ์ไร้มลทินของหลัวซิวเลยสักนิด
หลัวซิวกระพือปีกเทพ เพียงชั่วพริบตาก็บินออกไปไกลเป็นพันลี้ ไม่นานนักก็ได้บินหนีห่างออกไปเป็นหมื่นลี้แล้ว
ทว่าพอเขาหันหลังกลับไปดู กลับพบว่าเรือเซียนวาโยที่ทั้งสิบคนนั่งอยู่นั้นตามมาติด ๆ
เป็นสมบัติแห่งเทพฟ้าเหมือนกัน หากพูดถึงความเร็ว เรือเซียนวาโยไม่อาจเทียบกับปีกเทพมังกรครามยักษ์ไร้มลทินได้ แต่ชายชราร่างผอมเล็กนั้นกลับได้อาศัยพลังดั้งเดิมของกฎธาตุมาสร้างเป็นท่วงท่าอย่างงหนึ่งที่คล้ายกับพันธนาการ ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนไหวของหลัวซิวได้รับผลกระทบ ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายค่อย ๆ ถูกดึงให้เข้าใกล้ขึ้น
ลม มีอยู่ในทุกที่ ผ่านไปในทุกซอกทุกมุม ทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกันนับหมื่นลี้ ต่อให้เทพฟ้าสามารถสร้างพลังอมตะขึ้นมาโจมตี แต่ก็ถูกหลัวซิวหลบได้ในทันที แต่กฎธาตุลมนั้นแตกต่างออกไป จะก่อให้เกิดพันธนาการได้ ไม่จำเป็นต้องโจมตี แค่เพียงส่งผลกระทบต่อความเร็วในการเคลื่อนไหวของหลัวซิว ก็เพียงพอที่จะเอาชีวิตของเขาได้แล้ว
“พลังแปรเสวียนเทียน!”
หลัวซิวขับเคลื่อนเคล็ดวิชาออกมา ความเร็วในการเคลื่อนไหวของเขาได้เพิ่มขึ้นมาอีกร้อยเท่า ทำให้ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัวในทันที
“เหตุใดถึงได้เร็วเช่นนี้?”
สีหน้าของเทพฟ้าทั้งสามคนที่อยู่บนเรือเซียนวาโยเปลี่ยนไปในทันที เพราะความเร็วชั่วขณะของหลัวซิวที่ระเบิดออกมาเมื่อสักครู่ คงจะมีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวนภาถึงจะทำได้สินะ?
“หึ ๆ บนร่างของเจ้าเดรัจฉานน้อยผู้นี้จะต้องมีความลับอยู่อย่างแน่นอน สามารถระเบิด ความเร็วอันน่าสะพรึงกลัวเช่นขึ้นมาได้ภายในชั่วพริบตา จะต้องเป็นเคล็ดวิชาที่ใช้หลบหนีอย่างหนึ่งแน่!” ชายชราร่างผอมเล็กดวงตาเป็นประกายขึ้นมา
“เคล็ดวิชาที่ใช้ในการหลบหนีนั้นพบเห็นได้ยากมาก หากได้มันมาละก็ ต่อให้เป็นเทพฟ้าขั้นต้นก็สามารถหลบหนีจากการล่าสังหารของจ้าวนภาได้ เงื่อนไขก็คือจ้าวนภาคนนั้นไม่ได้ฝึกฝน เคล็ดวิชาในการหลบหนีมาก่อน” ชายวัยกลางคนชุดเขียวกล่าว
“ฆ่ามันเสีย พวกเราเผ่าเทพปีศาจเก้าหัวก็จะเอาส่วนแบ่งเช่นกัน” เทพฟ้าของเผ่าปีศาจได้กล่าวขึ้นมา
“มันแน่นอนอยู่แล้ว” ชายวัยกลางชุดเขียวคนยิ้มอ่อน ๆ
มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นห้าสังหารเทพมาร เดิมทีก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออยู่แล้ว สามารถทำถึงระดับนี้ได้ หากบอกว่าไม่มีความลับอยู่บนตัวหลัวซิว ไม่มีการสืบทอดระดับสุดยอด เป็นใครก็ไม่มีทางที่จะเชื่อ
บางทีเรื่องพวกนี้อาจจะไม่ได้เป็นที่ดึงดูดใจผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวนภา แต่สำหรับเทพฟ้าโดยทั่วไปแล้ว มันเป็นที่ดึงดูดใจมากนัก
ในนี้นั้นมีพลังอมตะเป็นที่สุด เพราะพลังอมตะไม่เพียงสะท้อนให้เห็นทางอานุภาพและ ประโยชน์เท่านั้น ในพลังอมตะบางชนิดยังซ่อนเอาไว้ด้วยความมหัศจรรย์ของกฎดั้งเดิมบางอย่าง ในขณะที่เรียนรู้ทำความเข้าใจฝึกตน สามารถเพิ่มระดับแดนแห่งกฎให้ตัวเอง บางทีอาจจะสามารถทะลวงขีดจำกัดของตัวเอง บรรลุถึงขั้นที่สูงขึ้นไปได้