มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1382
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1382
เฟิ่งหวูซินถึงอย่างไรก็ยังเยาว์วัย พลังของเขาเทียบกับจ้าวนภาอาวุโสเหล่านั้นยังคงห่างชั้นกันอยู่มาก อีกทั้งเส้นสนกลในของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินก็ไม่เท่ากับสำนักเซียนไร้เจตสิก เมื่อใดก็ตามที่เปิดสงครามขึ้นมาจริง ๆ ย่อมต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีซือถูเจิ้งเจี้ยนอีกคน ผลการฝึกตนของเขาถูกกดให้อยู่ที่กึ่งราชาเทพ แต่วิสัยทัศน์กว้างขว้างอีกทั้งแดนยังเป็นระดับราชาเทพ กลยุทธ์ฝีมือมากมาย สำหรับสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินก็คือภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่
สำนักเทียนช่าในตอนแรกนั้นแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน แต่ซือถูเจิ้งเจี้ยนก็ไม่เคยได้ลงมือทำลายล้างสำนักเทียนช่าด้วยตนเองสักครั้ง นับประสาอะไรกับสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินที่ค่อนข้างด้อยกว่า?
“กวัง!”
เสียงลั่นระฆังดังขึ้นจากสำนักเขาของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน ศิษย์ทุกคนภายในสำนักเขาต่างได้ยินอย่างชัดเจน
นี่คือระฆังเตือนของสำนักเขา หลายแสนหลายพันปีไม่เคยดังขึ้นมาก่อน ในวันนี้อยู่ดี ๆ ก็พลันดังขึ้นมา ทำให้ทุกคนต่างรนราน
ค่ายใหญ่สำนักเขาถูกเปิดใช้งาน เป็นถึงค่ายกลระดับหกขั้นสูง ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งจ้าวนภาออกแรงสุดกำลัง ก็ไม่สามารถฝืนบังคับทำลายการคุ้มกันของค่ายใหญ่ได้
ที่ด้านนอกสำนักเขาของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน แสงที่เจิดจ้าวิจิตรตระการตาพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เรือรบขนาดใหญ่อยู่บนท้องฟ้า มีปรมาจารย์ยอดฝีมือของสำนักเซียนไร้เจตสิกจำนวนมากยืนอยู่บนนั้น
“สร้างค่าย!”
เสียงหนึ่งตระโกนดังลั่น ทันใดนั้นเรือรบแต่ละลำก็เคลื่อนตัว ด้วยผลการฝึกตนของผู้แข็งแกร่งแต่ละคนแห่งสำนักเซียนไร้เจตสิก จัดวางค่ายใหญ่ออกมาเก้าค่าย!
วิถีแห่งค่ายกลที่เชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้ง สามารถจัดวางค่ายกลสลักลายค่ายสัญลักษณ์ และยังสามารถอาศัยการเครื่องใช้ธงค่ายในการจัดวางค่ายกล อีกทั้งยังใช้คนเพื่อเป็นค่ายกลด้วยเช่นเดียวกัน ขับเคลื่อนผลการฝึกตน วิวัฒนาการพลังที่ไม่มีใครเทียบได้
แต่วิธีการที่ใช้คนสร้างเป็นค่ายกล มันเหมาะสมที่สุดกับการต่อสู้ทำสงครามระหว่างกองกำลังใหญ่
ค่ายกลที่สำนักเซียนไร้เจตสิกครอบครองไว้นั้น นามว่าค่ายใหญ่อลวนไร้ผล ภายในค่ายใหญ่ทุกแห่ง ต่างก็มีผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าสองคนเป็นผู้บัญชา นอกจากนี้ยังมีผู้แข็งแกร่งเทพมารสิบกว่าคนนั่งบัญชาการอยู่ในค่ายกลที่เป็นตำแหน่งสำคัญ จากนั้นก็ยังมีมหาจักรพรรดิยุทธ์และศิษย์ทั่วไปอีกจำนวนนับหมื่นนับพัน ทุกคนขับเคลื่อนผลการฝึกตนในเวลาเดียวกัน ผ่านการหมุนแปรของค่ายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นออร่าหรือพลังอำนาจ ราวกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต เทียบเท่าจ้าวนภา!
นี่คือการเพิ่มคุณภาพโดยเกิดจากปริมาณ กลุ่มพลังขนาดใหญ่ไม่ถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก อาศัยความลึกลับของค่ายกล ก็สามารถสำแดงพลังที่เทียบเท่าจ้าวนภาออกมาได้ นี่คือต้นทุนของกองกำลังใหญ่!
ค่ายใหญ่ทั้งเก้ากลั่นแปร กลายเป็นภาพยักษ์เก้าตนสูงใหญ่ราวหมื่นฟุต ยักษ์ทุกตนรายล้อมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ พลังอำนาจมหาศาลไม่อาจคาดเดาได้
ยักษ์เก้าตนสูงหมื่นฟุตยึดพื้นที่แตกต่างกัน พลังแผ่กระจายออกไปตรึงพื้นที่อนัตตาโดยรอบของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน
บริเวณจุดที่สูงที่สุด มีวังเซียนอันสง่างามลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ ซือถูเจิ้งเจี้ยนนั่งบัญชาการอยู่ด้านใน ก้มลงมองสำนักเขาของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินที่อยู่ด้านล่าง
ข้างกายของเขา จ้าวนภาไร้เจตสิกยืนด้วยความเคารพ
เทพฟ้าทั้งสิบแปดตนรวมกลุ่มกันเป็นเก้าค่ายกลค่ายใหญ่อลวนไร้ผล แปรเปลี่ยนเป็นยักษ์ที่มีพลังรบเทียบเท่าจ้าวนภา
แม้แต่จ้าวนภาธรรมดาทั่วไป ก็ยังสามารถโจมตีเทพฟ้าขั้นแปดสามถึงสี่คนได้อย่างง่ายดาย ยักษ์จ้าวนภาเก้าตน ก็เท่ากับราว ๆ เทพฟ้าขั้นแปดสามสิบกว่าคน!
หากจะนับรวมผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเข้าไปด้วยอย่างซือถูเจิ้งเจี้ยนและจ้าวนภาไร้เจตสิก พลังแห่งการรวมสำนักของสำนักเซียนไร้เจตสิก เทียบเท่ากับพลังของเทพฟ้าห้าสิบกว่าคน เรียกได้ว่าน่าหวาดเกรงถึงขีดสุด
“นายท่าน แค่เพียงจัดการสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินเท่านั้น เหตุใดจึงต้องจัดทัพใหญ่ถึงเพียงนี้?” จ้าวนภาไร้เจตสิกเอ่ยถามอยู่ข้าง ๆ
“อย่าได้ดูถูกศัตรูของเจ้าไม่ว่าใครก็ตาม”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนสีหน้านิ่งเรียบ พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เพราะว่าข้าดูถูกพลังของมดตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง จึงได้รับความเสียหายอย่างหนัก เกิดความผิดพลาดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว ข้าจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก ต่อกรกับศัตรูหน้าไหนก็ตาม ก็จำต้องอยู่ในสถานะของสิงโตที่รอขย่ำกระต่ายอย่างสุดแรง!”