มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1391
ซวบ!
เขาปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าซือถูเจิ้งเจี้ยนโดยตรง หอกแทงออกไป กฎสองระดับความเป็นตายกลายร่างเป็นมังกรพุ่งออกมา
“เฮอะ!”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนเผยรอยยิ้มเยือกเย็น หอคอยเทวแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขา แสงสีดำพุ่งออกมาจากหอคอยเทว บดขยี้ปริภูมิ
“ราชาแห่งศัสตราวุธ!”
หลัวซิวหน้าเปลี่ยนสี สำแสงหอกของเขาถูกแสงสรดำที่พุ่งออกมาจากหอคอยเทวโจมตีจนสลายไปในทันที พลังไร้ขอบเขตอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งออกมา ทำให้ร่างของเขาลอยกระเด็นออกไป เลือดสดพุ่งออกมาจากปาก
“เจ้าหนู เจ้าได้ใจจนเสียสติเกินไปแล้ว ที่ผ่านมาข้ายังไม่ได้ใช้นักยุทธ์ชีวี แค่รอโอกาสที่จะฆ่าเจ้าในการโจมตีครั้งเดียว!” ซือถูเจิ้งเจี้ยนดุร้าย จิตสังหารแผ่กระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศ
“อีกทั้ง เจ้าคิดว่าฝึกตนวิชาอาถรรพณ์จุดลมปราณกำเนิดโลกภายในกายได้ก็จะสามารถต่อกรกับข้าได้? วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าเข้าใจว่าพลังของผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพคือสิ่งใด!”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนคำรามเสียงก้อง พลังอำนาจพลันปะทุออกมา ร่างกายสูงขึ้น พลังงานผันผวนอย่างรุนแรงไม่เสถียร ราวกับเกลียวคลื่นที่ซัดไปมาทั่วทั้งสี่ทิศ
เกล็ดละเอียดปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา มีเขาแหลมคมสองอันงอกขึ้นบนศีรษะ และดวงตาก็กลายเป็นสีแดงเพลิง ปลดปล่อยแสงแห่งความกระหายเลือดออกมา
“ร่างนี้ของซือถูเจิ้งเจี้ยนแต่เดิมเป็นเพียงมนุษย์เท่านั้น แต่ตอนที่ข้าได้เปิดโลกพิภพในชาติก่อน ได้ทิ้งชีวีโลหิตของข้าไว้ด้วย มันเต็มไปด้วยสายเลือดของอสูรฟ้า หลังจากกระตุ้นพลังแห่งสายเลือดเพื่อเปลี่ยนร่างแล้ว พลังของข้าก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าหวาดกลัว นี่คือไพ่ตายที่ทรงพลังที่สุดของเขา หลังจากกระตุ้นเปลี่ยนร่างอสูรฟ้าพรสวรรค์แล้ว พลังของเขาก็สามารถเทียบเท่าได้กับผู้แข็งแกร่งราชาเทพช่วงกลาง
ถึงแม้ว่าจะอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎพิภพ พลังของเขาในนาทีนี้หลังจากเปลี่ยนร่างมันได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเกือบจะเข้าใกล้ราชาเทพ
ซวบ!
ร่างของซือถูเจิ้งเจี้ยนหายไป หลังจากที่เขาเปลี่ยนร่าง ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่ความเร็วยังเร็วขึ้นมากด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของหลัวซิว กรงเล็บฟาดลงไป
“ชิ้ง!”
หลัวซิวยกหอกรบขึ้นมากั้นไว้ แต่ไม่สามารถต้านแรงพลังโจมตีนั้นได้ กระอักเลือดและกระเด็นลอยออกไปอีกครั้ง ร่างกายแตกร้าวออกเป็นละอองเลือดขนาดใหญ่
ในตอนนี้เอง วังเซียนสีดำสนิทราวขุนเขาก็พุ่งตรงเข้ามา ยังมีแสงสีดำที่ยิงออกมาจากหอคอยเทว ราวกับลูกศรมฤตยู
หลัวซิวขยับปีกเทพมังกรครามยักษ์ ในเวลาเดียวกันก็หมุนเวียนพลังแปรเสวียนเทียน เพียงพริบตาความเร็วก็เร่งขึ้นถึงขีดสุด
“เจ้าหนีไม่พ้น!”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนหัวเราะเสียงดัง ขับเคลื่อนวังเซียนและหอคอยเทวไล่ล่าตามหลังมา
ความเร็วของทั้งสองคนนั้นเร็วมากจนถึงขีดสุด ทะลุผ่านอนัตตาไม่สิ้นไปด้วยความรวดเร็ว
ถูกโจมตีจนบาดเจ็บถึงสองครั้งติดต่อกัน หลัวซิวดูเหมือนว่าจะบาดเจ็บไม่น้อย ความเร็วจึงได้ช้ากว่าซือถูเจิ้งเจี้ยนอยู่บ้าง
ไม่นานนัก ซือถูเจิ้งเจี้ยนก็ไล่ตามมาได้ทัน ร่างนั้นหายวับไปขวางทางหนีของหลัวซิวเอาไว้ เงื้อกรงเล็บอันน่าเกรงขามขึ้น คว้าลงไปยังศีรษะของหลัวซิว
ใบหน้าของเขาเปล่งประกายรอยยิ้มอันน่าสยดสยอง เขาหมายจะบีบสมองของไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่ให้เละเป็นเนื้อบด!
แต่ในนาทีนี้เอง ในสายตาของหลัวซิว กลับฉายแววรอยยิ้มเย้ยหยันออกมาบาง ๆ
เมื่อเห็นสายตาดังกล่าว ซือถูเจิ้งเจี้ยนก็พลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา ภายในใจที่กระหายเลือดและบ้าคลั่ง ก็พลันนิ่งสงบลงไปในทันที
“เจ้าติดกับดักแล้ว!”
หว่างคิ้วของหลัวซิวเปิดออก ระฆังสีเงินขาวแปลกตาก็พุ่งออกมา
กวัง!
ด้วยเสียงกระดิ่งที่ดังขึ้น เวลาและพื้นที่โดยรอบก็หยุดนิ่ง
ระยะทางยิ่งใกล้ ผลลัพธ์ของระฆังเทพฟ้ากำหนดก็ยิ่งแข็งแกร่ง ในเวลานี้ทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงสองเมตร พอดีกับเขตพื้นที่ที่ผลลัพธ์ของระฆังเทพฟ้ากำหนดจะแข็งแกร่งมากที่สุด
แม้ว่าในเวลานี้ ซือถูเจิ้งเจี้ยนพลังจะไร้ขีดจำกัดจนแทบเข้าใกล้ราชาเทพ แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงถูกตรึงเอาไว้ในทันที
ด้วยระยะห่างอันใกล้นี้ สถานการณ์แห่งการต่อสู้สามารถพลิกกลับได้ในพริบตา!