มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1635
แต่คลื่นผลการฝึกตนบนร่างของชายหนุ่มชุดแดง กลับเป็นเพียงราชาเทพขั้นเจ็ด
นี่คือเหตุผลที่ชายหนุ่มชุดแดงมั่นใจและภูมิใจมาก เขาใช้ผลการฝึกตนราชาเทพขั้นเจ็ด สามารถเอาชนะราชาเทพขั้นเก้า หรือกระทั่งกึ่งมกุฎเทพได้ด้วย
เขาเป็นหนึ่งในอัจฉริยะไร้เทียมทานแดนราชาเทพที่สามารถข้ามแดนต่อสู้ได้ เป็นโอรสสวรรค์แห่งโลกะอัมพรเทว!
หลัวซิวสีหน้าไร้ความรู้สึก เพียงแค่มองการกระทำของชายหนุ่มชุดแดงอย่างนิ่งสงบ สายตาที่เฉยเมยคู่นั้น ราวกับกำลังมองมดตัวหนึ่งที่กำลังกัดช้างตัวใหญ่อย่างเอาเป็นเอาตายอยู่
“ชิ้ง!”
สายตาของชายหนุ่มชุดแดงรี่ลงกะทันหัน เขาเห็นว่าหอกรบที่เขาแทงออกไปนั้น กลับถูกชายหนุ่มตรงหน้าคว้าเอาไว้ด้วยมือเปล่า!
“เป็นไปได้อย่างไร?”
ชายหนุ่มชุดแดงหน้าถอดสี ลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นในใจ คนผู้นี้เพิ่งข้ามผ่านทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ ว่ากันตามหลักการควรจะอยู่ในสภาพที่อ่อนกำลังที่สุดถึงจะถูก
หอกเทวะของเขาเป็นถึงราชาแห่งศัสตราวุธสูงสุด ร่างเนื้อของคนผู้นี้ต้องแข็งแกร่งถึงเพียงใดกันจึงสามารถจับมันได้อย่างง่ายดาย?
“ซวบ!”
หลัวซิวจับคมหอกของอีกฝ่ายไว้ในมือ ยกมือขึ้นและออกแรงสะบัด พลังที่ดุร้ายรุนแรงถึงขีดสุดได้ปะทุขึ้น ทำให้ร่างของชายหนุ่มชุดแดงถูกสะบัดออกไปโดยตรง
แย่งชิงหอกรบด้วยมือเปล่า!
ชายหนุ่มชุดแดงไม่เพียงแค่ถูกสะบัดออกไป หอกเทวะของเขายังตกลงไปอยู่ในมือของหลัวซิวอีกด้วย
“เป็นเพียงแค่ราชาเทพขั้นเจ็ด ก็ยังกล้าลงมือต่อข้าหรือ?”
หลัวซิวก้าวเดินตรงไปข้างหน้า สีหน้านิ่งเรียบ แต่กลับแฝงไปด้วยเจตนาฆ่าที่น่าหวาดกลัว สำหรับชายผู้นี้ที่ต้องการฆ่าตนเพื่อฉกฉวยแย่งชิงโอกาสและโชคลาภของเขา ในสายตาของเขามันได้กลายเป็นซากศพไปแล้ว
ตอนที่หลัวซิวยังไม่ได้บรรลุถึงแดนเทพฟ้า พลังของเขาก็สามารถสังหารราชาเทพขั้นเจ็ดได้
หลังจากบรรลุแดนใหญ่แล้ว เขาตระหนักรู้ในวิถีแห่งของวัฏสงสาร ตัวหยั่งรู้กลายเป็นห้วงดารา พลังรบร่างเนื้อผ่านบททดสอบอันยิ่งใหญ่ของทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ บรรลุถึงระดับความแข็งแกร่งที่ไม่เคยมีมาก่อน
เขาในวันนี้ ได้อยู่เหนือแดนราชาเทพไปแล้ว ต่อให้พลังของชายหนุ่มชุดแดงผู้นี้จะเทียบเท่าราชาเทพขั้นเก้า แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลัวซิวมันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยงฦ
เพราะว่าผู้แข็งแกร่งราชาเทพขั้นเก้า ไม่สามารถทำให้หลัวซิวบาดเจ็บได้แม้แต่น้อย ความแข็งแกร่งของร่างเนื้อของเขานั้น มันได้เกินกว่าราชาแห่งศัสตราวุธสูงสุดแล้ว เป็นรองเพียงศัตราวุธราชาเท่านั้น!
พูดได้อย่างไม่ลังเลเลยว่า สถนการณ์ของหลัวซิวในวินาทีนี้มันได้บรรลุไปถึงความสมบูรณ์แบบแล้ว กระทั่งไม่จำเป็นต้องใช้สมบัตินักยุทธ์ใด ๆ เป็นตัวช่วยในการต่อสู้ เพราะว่าร่างเนื้อของเขา มันก็คือสมบัติที่สูงกว่าราชาแห่งศัสตราวุธสูงสุดไปแล้ว
ป้าบ!
เขายกมือขึ้นตบลงไปฉาดหนึ่ง ไม่มีคลื่นผลการฝึกตนแสดงออกมาแม้แต่น้อย แค่เพียงความแข็งแกร่งของร่างยุทธ์ร่างเนื้อ ก็ทำให้ชายหนุ่มชุดแดงลอยกระเด็นออกไปได้ เลือดสดจำนวนมากถูกพ่นออกมาจาก สีหน้าซีดเผือด
“จงระเบิด!”
ชายหนุ่มชุดแดงคำราม เรือรบสีทองลำนั้นซึ่งเป็นสมบัติชั้นราชาแห่งศัสตราวุธชิ้นหนึ่ง ก็พลัยระเบิดตัวเองทันที
พลังอันน่าหวาดเกรงโหมกระหน่ำท่วมท้นหลัวซิว เกิดบาดแผลมากมายปรากฏขึ้น เลือดทะลักออกมา แต่หลัวซิวกลับไม่ได้สนใจแต่อย่างใด ก้าวเดินไปด้านหน้าอีกก้าว เดินออกมาจากวังวนการระเบิดตัวเองของของขลังทันที
ร่างอมตะโคจร บาดแผลของเขาฟื้นฟูขึ้นในชั่วพริบตา ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยกฎปริภูมิ ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าชายหนุ่มชุดแดงทันที
“ผุ!”
หลัวซิวยกมือขึ้นโบก ปราณกระบี่เล่มหนึ่งฟาดออกไป เกิดเสียงดังผุขึ้น แขนข้างหนึ่งของชายหนุ่มชุดแดงขาดลงมา เลือดสดพุ่งกระจายดังน้ำพุ
“สารเลว! ข้าคือจู้หงเทียน เจ้ากล้าสังหารข้างั้นหรือ?” ชายหนุ่มชุดแดงสีหน้าซีดเผือด เขาแผดเสียงออกมาอย่างไร้สติ เพลิงอัคคีปะทุขึ้นรอบกายของเขา มังกรอัคคีพันอยู่รอบแขนทั้งสองของเขา
“เจ้ารนหาที่ตายเอง!”
หลัวซิวปล่อยหมดออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา แสงขวานเล่มหนึ่งบินออกมา เต็มไปด้วยแก่นแท้ของพลังอมตะตราเปิดฟ้า
“โกรธาเพลิงนภา!”
ภายใต้วิกฤตชีวิตและความตาย ชายหนุ่มชุดแดงอ้าปากและพ่นเลือดอสเอกมา เพลิงอัคคีบนร่างของเขาพลันเปลี่ยนเป็นสีทองในทันที ราวกับกับเทพแห่งสงครามทองคำที่ลุกโชน ออร่าก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว