มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1652
ในดาราจักรวาล หากไม่มีแผนที่ดาว ไปไหนมาไหนจะลำบากมาก เนื่องจากดาราจักรนั้นใหญ่เกินไป และเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุตำแหน่งอย่างแม่นยำด้วยตัวนักยุทธ์เอง
“อสูรดูดจิต เราไปกันเถอะ”
หลังจากปล่อยอสูรดูดจิตโบราณออกจากโลกาจุดลมปราณแล้ว หลัวซิวก็นั่งขัดสมาธิอยู่บนหัวของมันแล้วบินไปยังส่วนลึกของดาราที่อยู่ห่างไกล
โชคดีที่หลัวซิวใช้เวลาไม่นานก็เห็นโครงร่างของดาราขนาดใหญ่ และอยู่ไกลมาก เขาสามารถสัมผัสได้ถึงปราณชีวีของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ในนั้น
เห็นได้ชัดว่านี่คือดาวเคราะห์ที่มีชีวิตดวงหนึ่ง
เมื่อระยะทางใกล้เข้ามามากขึ้น หลัวซิวปล่อยให้อสูรดูดจิตโบราณลดขนาดลงและหมอบอยู่บนไหล่ของเขา เมื่อมันค่อยๆ เติบโตขึ้น อสูรดูดจิตโบราณก็ต่อต้านการเข้าสู่โลกาจุดลมปราณมากขึ้น แม้ว่ามันจะไม่ละเมิดคำสั่งของเขา แต่หลัวซิวก็ไม่อยากที่จะบังคับมัน สำหรับการปล่อยให้มันอยู่ในดาราก็จะอันตรายกว่า ดังนั้นนี่เป็นวิธีเดียว
นักยุทธ์จำนวนมากต่างมีพันธอสูรเป็นของตัวเอง และนักยุทธ์บางคนที่เลี้ยงอสูรก็เพื่อความสนุกเท่านั้น จักรวาลมีอสูรมากมายนับไม่ถ้วน มีข่าวลืออสูรดูดจิตโบราณได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ก็จะไม่ดึงดูดความสนใจจากคนอื่น
ในอนัตตาด้านนอกของโลกาดาราที่หลัวซิวค้นพบ มีตำหนักสูงตระหง่านลอยอยู่ เมื่อเขาปรากฏตัว ตัวสำนึกก็ออกมาจากตำหนักนั้นและล็อคหลัวซิวไว้
นี่นี้ทำให้หลัวซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อพบว่าตัวสำนึกเหล่านี้ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิตและความมุ่งร้าย ดังนั้นเขาจึงเพิกเฉย ผ่านอนัตตาไม่สิ้นเข้าสู่โลกาดาราเบื้องล่าง
ไม่นานหลังจากนั้น หลัวซิวมาถึงเมือง ๆ หนึ่ง ที่ชื่อว่าเมืองลอส และโลกาดาราดวงนี้ถูกเรียกว่า ดาวบาร์เคอ
นี่ทำให้หลัวซิวนึกถึงบาเค่อในโลกเชิ่งถิง ซึ่งเป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนในช่วงแรก ๆ ของชีวิตวิถีแห่งยุทธ์ของเขา
“ไม่รู้ว่าตอนนี้บาเค่อกลายเป็นเทพบุตรของตำหนักเทวมืดแล้วหรือยัง”
ในเมืองลอส หลัวซิวมีความเข้าใจทั่วไปเล็กน้อยเกี่ยวกับ ดาวบาร์เคอ
คล้ายกับรูปแบบของโลกเชิ่งถิง กองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดบน ดาวบาร์เคอ ก็มีอยู่ในรูปแบบของตำหนักเทวเช่นกัน
แต่ละตำหนักเทวต่างมีอำนาจปกครองพื้นที่อาณาจักรใหญ่ เจ้าเมือง เมืองลอสก็เป็นชื่อลอสเป็นปรมาจารย์ระดับราชาเทพครึ่งก้าวคนหนึ่ง
“ตอนนี้ผลการฝึกตนของข้าไปถึงแดนเทพฟ้าแล้ว ถึงเวลาที่จะเพิ่มระดับการกลั่นยาของข้าให้สูงขึ้น ขั้นตอนต่อไปคือการกลั่นยาจำนวนมากเพื่อช่วยข้าเปิดจุดลมปราณสิบแปดจุดบนแขนขวาของข้า”
หากปราศจากพันธนาการแห่งกมลโลกา หลัวซิวต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาจำเป็นต้องเปิดจุดลมปราณสิบแปดจุดบนแขนขวาของเขา นอกจากนี้ยังมีการทำความเข้าใจถึงแดนกฎของตัวเอง เพื่อพัฒนาตนเอง
ถ้าเป็นไปได้ เขายังต้องการลองวิวัฒนาการเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าต่อไป เขาไม่ต้องการให้ตัวเองไม่สามารถฝึกฝนจนถึงระดับสูงสุดของแดนบริบูรณ์ในแดนเทพฟ้าเนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของวรยุทธ์
ในเมืองที่มีนักยุทธ์รวมตัวกันอยู่นั้น จะมีสถานที่ฝึกฝนมากมายที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ แค่จ่ายแก้วเทวให้เพียงพอ ก็จะสามารถเช่าและปิดกั้นฝึกตนได้
หลัวซิวมั่งคั่งมาก เขาเช่าสนามฝึกฝนที่ดีที่สุดใน เมืองลอสได้โดยไม่ลังเล เมื่อเขาเดินไปรอบ ๆ เมือง เขาก็จงใจปล่อยลมปราณของผลการฝึกตนระดับราชาเทพ ด้วยฐานะของผู้แข็งแกร่งราชาเทพก็จะไม่ตกเป็นเป้าหมายของใคร
ตอนเขาอยู่ในสำนักไท่ไหลในโลกาดาราอุดร หลัวซิวก็รู้แล้วว่าค่ายกลและกลั่นยามีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับภัณฑ์กลั่น
ดังนั้น หลังจากที่เขาปิดกั้นฝึกตน สิ่งแรกที่ต้องทำคือปรับปรุงสถานะแดนค่ายกลของเขาเองให้สูงขัน