มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1667
หลัวซิวไม่แน่ชัดว่าภาคต่อของเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าฝึกอย่างไรกันแน่ แต่เขาไม่มีทางตามหาจนเจอด้วยตัวเองแล้วค่อยไปฝึก อย่างไรเสียเรื่องโอกาสเป็นสิ่งที่พบได้แต่แสวงหาไม่ได้ จะปล่อยให้หยุดอยู่ในแดนเทพฟ้าตลอดไป เพียงเพราะตามหาภาคต่อของเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าไม่เจอก็ไม่ได้
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกเสวียนเทียนทำให้จิตใจเขากระหายที่จะยกระดับศักยภาพของตัวเองอย่างเร่งรีบ เขาไม่อยากรอต่อไปแล้ว
เขาจัดวางค่ายกล เปิดโลกาศุภรออก ยาเซียนระดับ 8 แต่ละเม็ดถูกเขาทยอยกลืนกินและกลั่นแปร พลังที่มากมายมหาศาลรวมกันอยู่ในร่างกาย จากนั้นพลังทั้งหมดก็ไปรวมตัวกันที่จุดตันเถียนชี่ไห่
ครั้นเมื่อบรรลุสู่เทพฟ้า ผ่านบททดสอบอันยิ่งใหญ่จากทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ ทำให้ตัวหยั่งรู้ของเขากลายเป็นห้วงดารา จุดตันเถียนชี่ไห่ของเขาก็เหมือนดั่งห้วงดาราเช่นกัน ดาราสีทองทั้ง 18 ดวงลอยขึ้น ๆ ลง ๆ เปล่งแสงระยิบระยับ
ภายใต้การรวมตัวกันของพลังที่มากมายมหาศาล มีเงาลวงของดาราสี่ดวงปรากฏในจุดตันเถียนชี่ไห่ลาง ๆ ซึ่งต่างสอดคล้องกับการเวียนว่ายตายเกิดและห้วงเวลา
เนื่องจากต้องรักษาสมดุลอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นการฝึกตนในแดนนี้จึงจำเป็นต้องผนึกรวมดาราออกมาพร้อมกันสี่ดวงในรวดเดียว ซึ่งระดับความยากนั้นยากมาก ๆ
ดาราที่กลายมาจากกฎชีวิต มีแสงสีขาวนมเปล่งประกาย ไม่มีความรู้สึกแยงตาเลยแม้แต่น้อย ทำให้คนมองรู้สึกสบายตาอย่างมาก
ดาราความตายดำสนิททั้งดวง ดูเย็นยะเยือกจนน่ากลัว มีออร่าความสยองที่ทำให้สรรพสิ่งทั้งหลายสูญสลายแผ่กระจายออกมาตลอดเวลา
มีแสงสีเงินกระพริบอยู่บนดาราปริภูมิ ตัวดาราผลุบ ๆ โผล่ ๆ สามารถเคลื่อนย้ายอนัตตา สามารถบดปริภูมิให้แตกละเอียดเป็นชิ้น ๆ และสามารถทำให้ปริภูมิแตกสลายเป็นฝุ่นผงเช่นกัน
สิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุดก็คือดารากฎเวลา หลังจากดาราดวงนี้ผนึกรวมกันที่จุดตันเถียนชี่ไห่แล้ว มันก็หายวับไปในทันที
เนื่องจากเวลาเป็นสิ่งไม่มีรูปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ลึกลับมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อตาหรือตัวสำนึก ล้วนไม่สามารถจับตำแหน่งทิศทางหรือสัมผัสมันได้เลย มีเพียงใช้จิตญินสัมผัส ถึงจะสามารถรับรู้ได้ถึงการคงอยู่ของเวลา และเวลาที่ไหลผ่านไป……
และนี่ก็คือบทที่สองของเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าที่หลัวซิวอนุมานขึ้นมาด้วยตนเอง!
จากแดนยุทธ์ของหลัวซิว การคิดค้นริเริ่มวรยุทธ์ที่ใช้สำหรับการฝึกตนในแดนเทพฟ้านั้น พูดได้เลยว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายดั่งปอกกล้วยเข้าปาก
ครั้นเมื่อยังอยู่ในโลกแสงดาว เขาก็เริ่มอนุมานหมื่นจักรวาลไร้รูปแล้ว แดนพลังอมตะในตอนนั้นของเขาก็แทบจะเทียบทัดราชาเทพแล้ว
ปัจจุบันผ่านไปนานเช่นนี้แล้ว ถึงแม้การยกระดับแดนยุทธ์ของเขาจะค่อนข้างช้าก็ตาม ทว่าเขาเรียนรู้พลังอมตะและวรยุทธ์มาเป็นจำนวนมาก ดูดซับแก่นสารความลี้ลับที่อยู่ภายใน ระดับความสูงในแดนยุทธ์ของเขานั้น ก็อยู่เหนือการจินตนาการของคนส่วนมากอย่างแน่นอน
ภายในลูกแก้วความเป็นตายมีเงาสะท้อนของวัฏสงสารซ่อนอยู่ มีการบันทึกไว้ว่ามีร่องรอยของเวไนยสัตว์ที่ทิ้งไว้ในวัฏสงสาร ซึ่งภายในไม่ขาดแคลนวรยุทธ์ที่ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพ ตลอดจนจักรพรรดิเทพคิดค้นริเริ่มขึ้นมา
ถึงแม้แดน ณ ปัจจุบันของหลัวซิวยังไม่สามารถได้รับวรยุทธ์ฉบับสมบูรณ์ ทว่ามาตรแม้นได้รับเพียงวรยุทธ์ที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทัศนะวิถียุทธ์ที่แฝงซ่อนอยู่ภายในก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้รับประโยชน์ไม่น้อยเลย
และเป็นเพราะมีภูมิฐานที่ทรงพลังเช่นนี้นี่เอง เขาถึงมีความมั่นใจในการริเริ่มภาคต่อของเคล็ดแสงดาวเทียนเต้า
ยิ่งไปกว่านั้นคือบทที่สองของเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าที่เขาริเริ่มขึ้นมาเอง อยู่เหนือขอบเขตดั้งเดิมของวรยุทธ์นี้แล้ว กลายเป็นเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าที่เป็นของตัวหลัวซิวเท่านั้น!
เวลาในการเคลื่อนที่ภายในโลกาศุภรจะช้าลงสิบเท่า กฎดาราทั้งสี่ดวงที่ผนึกรวมอยู่ในจุดตันเถียนชี่ไห่ของหลัวซิวค่อย ๆ เปลี่ยนจากสถานะเงาลวงเป็นแก่นแท้
ทันทีที่กลายเป็นดาราแก่นแท้ ก็จะเป็นการยืนยันแล้วว่าวรยุทธ์ภาคต่อที่เขาริเริ่มนั้นสามารถฝึกได้จริง ๆ
เวลาล่วงเลยไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว จากการที่ยาจำนวนมากถูกหลัวซิวกลั่นแปร การผนึกรวมของกฎดาราทั้งสี่ดวงล้วนสามารถรักษาปริมาณพลังที่เพียงพอสำหรับการจัดสรรอยู่เสมอ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่กันแน่ กฎดาราทั้งสี่ดวงที่อยู่ในจุดตันเถียนชี่ไห่ก็รวมกันเป็นแก่นแท้กะทันหัน จากนั้นก็มีแสงสว่างอันรุ่งเรืองสว่างจ้าขึ้นมาทันที!