มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1761
ใช้ตัวสำนึกกวาดสำรวจ หลัวซิวยืนยันแล้วว่าบริเวณรอบ ๆ ไร้ผู้คน โฉมหน้าของเขาจึงปรวนแปร กลายเป็นบุคลิกลักษณะของเย่ห้าวหราน เงาร่างกระพริบทีหนึ่ง ก่อนจะปรากฏตรงกลางระหว่างผู้บำเพ็ญเซียนหญิงที่หนีเอาชีวิตรอดและฉีชวงชวง
“เจ้ากำลังตามหาข้าอยู่หรือ?”หลัวซิวยิ้มมุมปาก เขาต้องรู้อยู่แล้วว่าชายชู้ที่ฉีชวงชวงหมายถึงก็คือเขา
ในส่วนของผู้บำเพ็ญเซียนหญิงที่ถูกไล่ล่านั้นก็คือฉียู่หรง แม้โฉมหน้าจะแตกต่างกัน ยิ่งกว่านั้นคือผู้บำเพ็ญเซียนหญิง ณ บัดนี้สวยกว่าฉียู่หรงมาก แต่ทว่าในความเป็นจริงทั้งสองคนเป็นคนเดียวกัน
เนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึงออร่าของฉียู่หรง เพราะฉะนั้นฉียู่หรงครั้นเมื่ออยู่ในดาราแห่งกาลเวลานั่นน่าจะเป็นรูปร่างหลังแปลงโฉมหน้าของฉียู่หรง ฉียู่หรง ณ เวลานี้ถึงจะเป็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง
“เจ้าเองหรือ?”
“คุณชายเย่?”
การปรากฏตัวของหลัวซิวทำให้ฉีชวงชวงและฉียู่หรงต่างคาดไม่ถึง
“ชวงชวง มันก็คือไอ้หมอนั่นที่เจ้าบอกว่าเก่งกาจมาก ๆ นั่นหรือ?”ข้างกายฉีชวงชวง มีชายหนุ่มคนหนึ่งกวาดตามองหลัวซิวตั้งแต่หัวจรดเท้า พลางถามอย่างเย็นชาคำหนึ่ง
“พี่เตียหลง หมอนี่นี่แหละ เมื่อนั้นหากไม่ใช่เพราะข้าใช้ยันต์ทะลุฟ้าหนีไป ไม่แน่อาจจะถูกมันสังหารไปแล้ว”ฉีชวงชวงกัดฟันแน่นพลางพูด
“เหอะ ๆ น้องชวงชวงไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวข้าจะช่วยเจ้าฆ่ามันเดี๋ยวนี้แหละ”ชายหนุ่มคนดังกล่าวพูดอย่างไม่แยแส
“จากระดับศักยภาพของพี่เตียหลง สามารถสังหารมันได้ง่ายดั่งปอกกล้วยเข้าปากอยู่แล้ว”
แววตาทั้งสองข้างของฉีชวงชวงเป็นประกายพลางยิ้มพลางพูด ฉีเตียหลงเป็นผู้ที่ถูกกำหนดแล้วว่าเป็นผู้สืบทอดนายท่านตระกูลฉีในอัมพรเทวคนต่อไป ผลการฝึกตนอยู่ที่กึ่งมกุฎเทพแล้ว พรสวรรค์ระดับนี้มาตรแม้นว่าอยู่ในมหาโลกพันสาม ก็ถือเป็นอัจฉริยะที่ไม่เลวมาก ๆ แล้ว
แม้ตอนนั้นหลัวซิวจะสังหารหลูเฉิงหลงที่เป็นราชาเทพช่วงปลายภายในกระบวนท่าเดียว ทว่าในมุมมองของฉีชวงชวง นางกลับรู้สึกว่าคนดังกล่าวไม่มีทางใช่คู่ต่อสู้ของฉีเตียหลงอย่างแน่นอน อย่างน้อยผู้ที่อยู่ต่ำกว่าแดนมกุฎเทพ ไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะฉีเตียหลงได้
“หากข้าช่วยเจ้าสังหารคนดังกล่าว เจ้าจะให้ผลดีอะไรตอบแทนข้าหรือ?”มีรอยยิ้มที่ดูชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้าฉีเตียหลง พลางยื่นมือออกไปลูบไล้เส้นผมสีแดงนั่นของฉีเตียหลง
แม้ทั้งสองจะแซ่ฉีเหมือนกัน แทบจะสามารถพูดได้เลยว่าอยู่ในความสัมพันธ์แบบพี่น้อง แต่ทว่าฉีชวงชวงเป็นผู้หญิงที่งดงามมากจริง ๆ พร้อมกับลักษณะธรรมชาติที่ทำให้ผู้อื่นอยากพิชิต เส้นผมสีแดงดุจคบเพลิง ร่างกายอุดมสมบูรณ์ประณีตวิจิตร ฉีเตียหลงอยากครอบครองมานานมาก ๆ แล้ว
ฉีชวงชวงทราบตั้งนานแล้วว่าฉีเตียหลงอยากได้ร่างกายตน ดังนั้นนางจึงกอดแขนข้างหนึ่งของเขาไว้ แนบอกทั้งสองข้างที่อ่อนนุ่มลงบนแขนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนระทวย: “พี่เตียหลงอยากได้ผลดีอะไรก็ได้หมดเลยเจ้าค่ะ”
“น่าขยะแขยง!”เมื่อฉียู่หรงเห็นภาพเหตุการณ์นี้ จึงมีความเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าที่ขาวซีดทันที
“น้องยู่หรง คอยข้าสังหารชายชู้ของเจ้าไปเมื่อไหร่ ถึงเวลานั้นข้าค่อยสั่งสอนเจ้าดี ๆ ”ฉีเตียหลงแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายพลางพูด “เมื่อไม่นานมานี้ข้าได้รับวิชาฝึกคู่หนึ่งมา รับรองเลยว่าต้องทำให้เจ้าพบเรื่องโศกเศร้าในยามมีความสุขแน่นอน!”
“ต่อให้ข้าต้องตาย เจ้าก็อย่าแม้แต่จะคิดว่าจะได้แตะต้องปลายนิ้วข้า!”ฉียู่หรงทำเสียงถุ้ยทีหนึ่ง แล้วพูดอย่างดูถูกมาก ๆ
การปรากฏตัวของเย่ห้าวหราน ทำให้สภาพจิตใจที่บีบแน่นของนางผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย แม้ศักยภาพของฉีเตียหลงก็แข็งแกร่งมาก ๆ เช่นกัน ทว่าฉียู่หรงก็ยังมั่นใจในศักยภาพของเย่ห้าวหรานอย่างเต็มเปี่ยม
“ผู้หญิงน่ะปากแข็งที่สุดแล้ว ทันทีที่ได้ขึ้นเตียง หญิงที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรมและจิตใจบริสุทธิ์ผุดผ่องอะไรก็เปลี่ยนเป็นหญิงสำส่อนอยู่ดี”
ฉีเตียหลงหัวเราะอย่างเยือกเย็น ก่อนจะนำสายตาจับจ้องไปทางหลัวซิว “ฆ่าหมอนี่ที่รกหูรกตาก่อนก็แล้วกัน”
รูปร่างของฉีเตียหลงสูงชะลูด หน้าตาก็ถือว่าไม่เลวเช่นกัน ถือเป็นหนุ่มงามที่ได้มาตรฐานอยู่ แต่ทว่าความชั่วร้ายบนใบหน้าของเขากลับทำให้หลัวซิวรู้สึกขัดตามาก
แต่ฉีเตียหลงผู้นี้กลับไม่ธรรมดามาก พลังเวทย์และผลการฝึกตนทั้งร่างทรงพลัง อย่างน้อยสุดก็สามารถถูกเรียกว่ายอดฝีมือในหมู่นักยุทธ์แดนเดียวกันอยู่