มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1900
เห็นเพียงพวกเขาพากันหยิบวัตถุดิบต่าง ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก แล้วจัดวางค่ายกลที่เค้าโครงกว้างใหญ่ค่ายกลหนึ่ง
สิบกว่าท่านที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็คือผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพในมหาโลกายอดอัมพร โควต้าของแดนเทวนิรันกาลมีเพียงสิบที่เท่านั้น เหล่าจักรพรรดิเทพและกองกำลังที่ไม่ได้รับโควต้า จะได้รับการชดเชยจากกองกำลังและจักรพรรดิเทพของผู้ที่ได้รับโควต้าสิบที่นั้น
และเงื่อนไขข้อแรกของการชดเชยก็คือเรื่องการเปิดเส้นทางของแดนเทวนิรันกาล ซึ่งจำเป็นต้องให้จักรพรรดิเทพทั้งหมดออกแรงพร้อมกัน
หลัวซิวเมข็งมองไป เขาดูไม่ออกว่าค่ายกลที่จักรพรรดิเทพเหล่านั้นจัดวางนั้นเป็นค่ายกลระดับใด ทว่าสิ่งที่สามารถจินตนาการได้คือการที่สามารถทำให้จักรพรรดิเทพสิบกว่าคนร่วมมือกันจัดวางได้นั้น อย่างน้อยระดับของค่ายกลดังกล่าวก็เป็นระดับมหาจักรพรรดิ
ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตเห็นเช่นกันว่าวัตถุดิบต่าง ๆ ที่เหล่าจักรพรรดิเทพเอาออกมานั้นก็เป็นสมบัติที่ล้ำค่า ซึ่งภายในมีเหล็กเศษณ์ทองเซียนที่สามารถใช้มากลั่นของขลังและอาวุธสงครามระดับมหาจักรพรรดิได้ด้วย
“โครม!”
หลังจากที่จัดวางค่ายกลเสร็จเรียบร้อยแล้ว จักรพรรดิเทพทั้งสิบกว่าท่านก็กรอกพลังเวทย์ผลการฝึกตนลงไปในค่ายกลพร้อมกัน ลำแสงรัศมีเทวที่กว้างใหญ่ถึงขีดสุดหนึ่งแสงเหมือนดาวหางที่เคลื่อนผ่านห้วงดาราอันไร้ขอบเขต ทะลวงไปทางตำแหน่งของแดนเทวนิรันกาลพร้อมกับหางเปลวไฟยาว
“ย่ำลงสะพานพระแสง พลังแห่งค่ายกลจักพาพวกเจ้าทะลวงการผนึกของแดนเทวนิรันกาล”เจ้าหอยอดอัมพรพูดอย่างกะทะหัน
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยุนเทียนหยูก็เป็นคนแรกที่ลอยตัวขึ้น เงาร่างร่วงลงบนลำแสงที่ถูกกระตุ้นมาจากค่ายกล จากนั้นเงาร่างของเขาก็หายวับไปภายในพริบตา ภายใต้การฉุดดึงจากแสงเปลวไฟนั่น เขาก็หายไปจากขอบฟ้าอันไกลโพ้น
ถัดจากนั้นคนอื่นที่เหลือก็ต่างพากันขึ้นไปเช่นกัน รวมไปถึงหลัวซิวก็เหยียบย่ำลงบนสะพานพระแสงเช่นกัน รู้สึกแค่เพียงห้วงเวลาบริเวณรอบ ๆ ปรวนแปรอย่างรวดเร็ว เร็วมากจนถึงขั้นที่ไม่อาจจินตนาการได้
ตู้ม!
ลำแสงที่กว้างใหญ่ทะลวงสิ่งกีดกั้นไปโดยปริยาย จากนั้นหลัวซิวก็รู้สึกว่าพื้นที่ตรงหน้ากระเพื่อมจนเกิดเป็นระลอกคลื่นเล็ก ๆ ราวกับว่าร่างกายของตัวเองก็เดินข้ามผ่านม่านน้ำเช่นกัน
วินาทีต่อไป สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาก็คือห้วงดาราอันลึกลับที่เป็นที่ตั้งของแดนเทวนิรันกาล
กลุ่มดาวฤกษ์อันลึกลับที่เป็นที่ตั้งของแดนเทวนิรันกาล ตัดขาดจากดาราจักรวาลของโลกภายนอก มีปราการดาราที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยเนื้อตาเปล่ากั้นอยู่หนึ่งชั้น
ในสายน้ำแห่งกาลเวลาที่ยาวนาน ปราการดาราของแดนเทวนิรันกาลจะอ่อนแอลงในช่วงเวลาที่พิเศษเท่านั้น อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ สำหรับผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพสิบกว่าท่านของมหาโลกายอดอัมพรที่ร่วมมือกันแล้ว การที่จะเปิดปราการดาราแล้วส่งคนเข้ามานั้น มันกลับไม่ใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใด
“โฮกก!”
อสูรดูดจิตมุดออกมาจากฝ่ามือของหลัวซิว ในขณะที่ถูกส่งมายังแดนเทวนิรันกาล หลัวซิวก็เก็บอสูรดูดจิตเข้าไปในโลกาจุดลมปราณในร่างกายตัวเองก่อนแล้ว
ถึงแม้วรยุทธ์ระดับจ้าวมหาเทพจักรพรรดิเทพจำนวนมากก็มีความเร้นลับของเคล็ดวิชาจุดลมปราณและเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าซ่อนอยู่เหมือนกัน สามารถเปิดจุดลมปราณในร่างกายเพื่อผนึกรวมโลการ่างในได้ แต่ทว่าต่อมาหลัวซิวค้นพบว่าโลกาจุดลมปราณร่างในที่นักยุทธ์คนอื่น ๆ บุกเบิกได้นั้นมันไม่สมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีคุณสมบัติในการเก็บอสูรจิตไว้ภายใน มากสุดก็แค่สามารถบรรจุของที่ไม่มีชีวิตไว้ภายใน ซึ่งมีสมรรถนะในทำนองเดียวกันกับแหวนเก็บของ
ส่วนโลกาจุดลมปราณร่างในของหลัวซิวกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มันเป็นโลกาสมบูรณ์แบบที่วิวัฒนาการมาจากการใช้สี่กฎชั้นยอดอย่างการเวียนว่ายตายเกิดห้วงเวลา อีกทั้งหลอมรวมกฎพื้นฐานอย่างทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ลม อัสนีและหยินหยาง
อีกอย่างไม่ใช่แค่อสูรดูดจิตเท่านั้นที่ถูกหลัวซิวพาเข้ามา เห็นเพียงรอบกายของเขามีแสงเรืองกระพริบระยิบระยับ จีเสี่ยวจื่อที่อ่อนช้อยน่ารักก็ถูกเขาพาเข้ามาเช่นกัน
นอกเหนือจากนี้แล้วผู้คนในไท่เสวียนก็ล้วนอยู่ในโลกาจุดลมปราณร่างในของเขา
“นี่คือแดนเทวนิรันกาลหรือ? สวยจังเลย!”หลังจากที่จีเสี่ยวจื่อออกมาจากโลการ่างในของหลัวซิวแล้ว ดวงตาที่สว่างไสวดุจดาวเคราะห์นั่นก็มองออกไปรอบ ๆ เปี่ยมล้นไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น