มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2016
เมื่อเผชิญหน้ากับการสอบถามของจีเสี่ยวจื่อ หลัวซิวแค่ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร เนื่องจากนางไม่เข้าใจเรื่องค่ายกล มาตรแม้นว่าเขาตอบกลับแล้ว จีเสี่ยวจื่อก็ไม่มีทางฎีกาค่ายเข้าใจแน่นอน
ตั้งแต่เมื่อหลายปีที่ผ่านมาเขาก็ได้รับฉบับไม่สมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว เส้นลมปราณในร่างกายเขาผ่านการปรับแก้ตั้งนานแล้ว ซึ่งสามารถโคจรผลการฝึกตนภายในร่างกาย จนประกอบเป็นจักรภพที่งดงามที่สุดในโลก
บนร่างกายเขายิ่งมียันต์ค่ายราชา 99 ค่ายสลักไว้ หนึ่งยันต์ค่ายก็คือค่ายกลระดับมกุฎหนึ่งค่าย เมื่อมี 99 ค่ายเพิ่มเสริมอยู่บนร่างกาย จึงแทบจะทำให้ตัวหลัวซิวเองกลายเป็นสมบัติค่ายกลชิ้นหนึ่ง
ดังนั้นกระแสสัมผัสของเขาที่มีต่อค่ายกลจึงว่องไวและเฉียบแหลมมาก ๆ ยิ่งกว่านั้นคือสามารถพูดได้เลยว่าค่ายกลทุกอย่างในใต้หล้า ล้วนหนีไม่พ้นกระแสสัมผัสของเขา
อีกทั้งค่ายกลใด ๆ ที่อยู่ต่ำกว่าระดับจ้าวมหาเทพ ไม่สามารถปิดบังสายตาของเขาได้ เขาสามารถเข้าใจความเร้นลับทุกอย่างได้ภายในเสี้ยววินาที
สามารถพูดได้เลยว่าอาศัยฎีกาค่ายที่ไม่สมบูรณ์ครบถ้วน ทำให้ระดับฝีมือด้านค่ายกลของหลัวซิวอยู่ขีดจำกัดของอาจารย์ค่ายเทพระดับมกุฎแล้ว
สักวันหนึ่ง หากเขาบรรลุเป็นปรมาจารย์ค่ายเทพระดับเจ้ายุทธจักร เช่นนั้นนักค่ายเทพที่อยู่ในระดับนี้ หากพูดถึงเรื่องความสามารถในการควบคุมค่ายกลละก็ จะไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเคียงกับเขาได้!
มีหลักการและความลี้ลับที่ลึกซึ้งอย่างไร้ขอบเขตแฝงซ่อนอยู่ในฎีกาค่ายและคัมภีร์โอสถ มันไม่ใช่การฝึกยุทธ์แบบดั้งเดิม แต่ทว่ากลับอยู่เหนือวิถียุทธ์ส่วนมาก ซึ่งเชื่อมต่อกับจุดสูงสุดของธรรมโดยตรง
วิถียุทธ์ก็ดี กลั่นยาก็ช่าง ตระหนักรู้ในค่ายก็ดี ล้วนเป็นวิถี ล้วนคงอยู่ในวิถีของจักรวาลที่ยิ่งใหญ่นี้!
สรรพวิชารวมกันเป็นหนึ่ง วิถีทั้งหลายเชื่อมโยงถึงกัน ซึ่งนี่ก็คือความปรารถนาดั้งเดิมที่หลัวซิวริเริ่มหมื่นจักรวาลไร้รูป
ในขณะที่มีความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นมาในใจ หลัวซิวก็เดินเข้าไปในค่ายนภาพรางแล้ว พื้นที่ภายในค่ายกลมืดครึ้ม พลังออร่าที่ทรงพลังซ่อนเร้นและลอยอยู่ในส่วนลึกของหมอกที่มืดครึ้ม ซึ่งคือผู้แข็งแกร่งที่สมาคมเฟยหยางให้รับผิดชอบเฝ้าดูแลหลุมดำเอกภพนั่นเอง
“ท่านหัวหน้าแก๊ง!”
มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากหมอก ผู้ที่เดินนำหน้าคือสตรีสุภาพสง่าเลิศล้ำที่แต่งงานแล้ว นางก้มคำนับมาทางสำนักหนานเหมินอย่างเคารพนอบน้อม
แม้จำนวนเพศหญิงในหมู่ผู้แข็งแกร่งนี้จะมีน้อยมาก ๆ ทว่าก็ไม่ขาดแคลนผู้ที่มีพรสวรรค์เลิศล้ำเช่นกัน สตรีสุภาพสง่าเลิศล้ำที่แต่งงานแล้วคนนี้ก็คือรองหัวหน้าแก๊งสมาคมเฟยหยาง มีผลการฝึกตนแดนมกุฎเทพขั้น 4 ถือเป็นเป็นผู้ที่เก่งกาจมาก ๆ ในโลกะอิมเอี๊ยง
“ศิษย์น้องชุนมิต้องพิธีรีตองมาก ข้าแค่มาเยี่ยมเยียนหน่อย”สำนักหนานเหมินตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง
“คนเหล่านี้คือ?”สตรีงามที่เลิศล้ำผงกหัว สายตามองไปทางพวกหลัวซิว อย่างไรเสียเรื่องของหลุมดำเอกภพ ก็ถือเป็นความลับหลักของสมาคมเฟยหยาง
“คนเหล่านี้คือสหายของข้า จึงเป็นผู้ที่เชื่อใจได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว”สำนักหนานเหมินทำการแนะนำอย่างเรื่อยเปื่อย
“ในเมื่อเป็นสหายของหัวหน้าแก๊ง เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเจ้าค่ะ”สตรีงามที่เลิศล้ำไม่ได้ถามอะไรมาก ถึงแม้คนเหล่านี้จะดูวัยรุ่นมาก ๆ ทว่านางจะไม่ตัดสินผู้คนจากรูปลักษณ์ภายนอก มิหนำซ้ำในโลกของนักยุทธ์ การตัดสินผู้อื่นจากภาพลักษณ์ภายนอกนั้นเป็นเรื่องที่เหลวไหวไร้สาระแต่แรกอยู่แล้ว
ดังนั้นภายใต้การร่วมเดินทางจากรองหัวหน้าแก๊งชุน คนกลุ่มหนึ่งก็มาถึงตำแหน่งที่ตั้งของหลุมดำเอกภพอย่างรวดเร็ว มันคือประตูบานหนึ่งที่เหมือนระลอกคลื่นสีดำ ปรากฏเป็นทรงกลมที่ไม่มีเกณฑ์ที่แน่นอน ลึกซึ้งอย่างยิ่ง เส้นผ่าศูนย์กลางอย่างน้อยก็มีไม่ต่ำกว่าหลายร้อยเมตร
ในละแวกของหลุมดำเอกภพ มีผู้อาวุโสสามคนกำลังนั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิ ทุกคนล้วนอยู่ในแดนมกุฎเทพ ใช้ผลการฝึกตนและกฎของตัวเองควบคู่กับค่ายกล ปลุกเสกหลุมดำเอกภพ เพื่อคงสภาพประตูหลุมดำให้ไร้ซึ่งสิ่งกีดขวางอยู่ตลอดเวลา
ในขณะเดียวกัน ก็มีศิษย์จำนวนมากคอยยุ่งอยู่ตรงหน้าหลุมดำเช่นกัน จำนวนเรือรบที่บรรจุวัตถุดิบและสมบัติต่าง ๆ จนเต็มเรือรบมีเยอะมากจนน่าทึ่ง
หลัวซิวขมวดคิ้วลง เนื่องจากวัตถุดิบสมบัติเหล่านี้มีโอกาสสูงมากที่ส่วนมากถูกค้นและรีดไถมาจากโลกแสงดาว
อย่างไรก็ตามจักรวาลนี้ คือโลกยุทธ์ที่ผู้แข็งแกร่งเป็นเจ้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โลกแสงดาวเป็นเพียงพิภพต่ำเทพฟ้าที่ไม่มีอะไรโดดเด่นในจักรวาลที่กว้างใหญ่อย่างไร้ขอบเขตนี้ การถูกปล้นชิงก็คือชะตากรรมเช่นกัน