มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2036
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2036
เขานึกถึงฮู๋ชิงชิงอย่างควบคุมไม่ได้ การที่ให้สำนักหนานเหมินไปคอยคุ้มกันนางนั้น ก็เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำเพื่อนางแล้ว
เส้นทางชีวิตของทุกคนล้วนต้องเดินด้วยตนเอง สิ่งที่หลัวซิวสามารถชี้ขาดและตัดสินใจได้นั้นมีเพียงเส้นทางของตัวเอง ในส่วนของเส้นทางของผู้อื่นนั้น เขาก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวและเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ด้วย
บางทีนี่ก็คือธรรมชาติอย่างหนึ่ง ธรรมชาติอย่างหนึ่งของวิถี เมื่อเงื่อนไขพร้อมมันจะก็เป็นไปตามธรรมชาติเอง……
กาลเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว วันวานผ่านไปแล้วแต่ความรู้สึกยังคงอยู่ ตั้งแต่เจ้าสำนักอิมเอี๊ยงและยอดฝีมือจำนวนมากถูกหลัวซิวสังหารไปแล้ว ฝั่งหลุมดำจักรวาลก็เงียบสงบมาโดยตลอด
เวลาล่วงเลยไป 60 กว่าปีโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว สุดท้ายคู่สามีภรรยาหลัวซงหลินและหลิวชูหยุนที่ไม่สามารถยืดชีวิตโดยยาภายนอกก็สิ้นอายุไข
บนยอดภูเขาลูกหนึ่งนอกหมู่บ้านชิงเมี่ยว หลัวซิวและพี่สาวหลัวซิ่วเอ๋อร์ฝังพ่อแม่ลงดินด้วยมือตนเอง หลัวซิ่วเอ๋อร์ร้องไห้สะอึกสะอื้น
ในทางตรงกันข้ามหลัวซิวกลับร้องอย่างไรก็ร้องไม่ออก บางทีอาจเป็นเพราะฝึกยุทธ์จนจิตใจเย็นชาไปแล้ว และบางทีอาจเป็นเพราะเขาทราบตั้งนานแล้วว่าจะมีวันนี้ จึงมีการเตรียมใจไว้ล่วงหน้า และบางทีอาจเป็นเพราะเขารู้ว่าพ่อแม่เขาไม่ได้ตายจากไปโดยแท้จริง แต่จะกลับชาติมาเกิดผ่านวัฏสงสารที่อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวนั่น ได้รับการกำเนิดใหม่……
ขณะที่ทั้งสองจากไปนั้นเงียบสงบและเป็นมงคลมาก ๆ พอจะพูดได้เลยว่าทั้งชีวิตของพวกเขานั้น ได้ผ่านพ้นเรื่องราวที่มนุษย์ทั่วไปไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการ
ชั่วชีวิตนี้ของพวกเขาไม่มีสิ่งที่ติดค้างแล้ว สำหรับมนุษย์ธรรมดาทั่วไป ชีวิตเช่นนี้ถือว่าสมบูรณ์แบบมาก ๆ แล้ว
ช่วง 60 กว่าปีที่ผ่านมา หลัวซิวไม่ได้ฝึกตน เขาแทบจะใช้เวลาทั้งหมดอยู่เคียงข้างพ่อแม่
ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาเข้าใจในชีวิต ตระหนักรู้ได้จากความเงียบสงบ ตัวธรรมก็ได้รับการยกระดับจากการตกตะกอนเช่นกัน
เขาไม่ได้ฝึกตนอย่างสุดความสามารถ แต่ผลการฝึกตนของตนเองกลับมีแนวโน้มที่จะถึงแดนบริบูรณ์เองตามธรรมชาติ ใกล้จะบรรลุสู่แดนราชาเทพแล้ว
วันนี้ หลัวซิวมาถึงห้วงดารานอกนภา เขาก้มมองดาวเคราะห์ที่เป็นที่ตั้งของโลกแสงดาว จิตใจไม่มีสิ่งใดที่รู้สึกทอดถอนใจอีกแล้ว
“โครมคราม……”
ภายในห้วงดาราไม่มีการกดอัดจากกฎเทียนเต้า ดังนั้นหลัวซิวจึงเลือกที่จะข้ามผ่านทัณฑ์อยู่ ณ ที่แห่งนี้ แสงอัสนีที่ดุดันทั้งหลายพุ่งทะลักลงมาดั่งน้ำตก แผ่คลุมพื้นที่บริเวณโดยรอบแสนกว่าไมล์ภายในพริบตา
ในตำแหน่งที่อยู่ห่างไกลออกไป พวกจีเสี่ยวจื่อยืนอยู่บนเรือรบทองคำ เมื่อเห็นทัณฑ์สายฟ้าพิโรธที่น่าสยดสยองเช่นนี้ จึงรู้สึกกังวลใจขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“นี่คือทัณฑ์สายฟ้าของท่านพี่หรือ? นี่มันน่าสยดสยองมากเกินไปหรือเปล่า”บนใบหน้าที่เรียวบางของหนิงหานยู่เปี่ยมล้นไปด้วยความตะลึง หากเปลี่ยนเป็นนางละก็ อัสนีที่กระหน่ำลงมาดั่งน้ำตกเพียงสายเดียว ก็สามารถทำให้ร่างนางแหลกสลายเป็นฝุ่นผงแล้ว
ในส่วนของจีเสี่ยวจื่อนั้นกลับรู้สึกช็อกมากกว่า เนื่องจากทัณฑ์สายฟ้าครั้นเมื่อนางบรรลุสู่มกุฎเทพ เมื่อเปรียบเทียบกับทัณฑ์สายฟ้า ณ บัดนี้ของหลัวซิวแล้ว ก็ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย ช่วงระยะความต่างในนี้ไม่ต่ำกว่าสิบเท่า!
แต่ทว่าทัณฑ์สายฟ้าที่น่าสยดสยองเช่นนี้กลับไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับหลัวซิว เขามีร่างอมตะ นอกเสียจากว่าความน่าสยดสยองของทัณฑ์สายฟ้าจะสามารถสังหารเขาได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ มิเช่นนั้นไม่ว่าเขาจะบาดเจ็บสาหัสมากเพียงใด เขาก็สามารถฝืนต้านรับต่อไปได้
สายฟ้าที่น่าสยดสยองผ่าลงมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การชุบจากทัณฑ์สายฟ้า ร่างเนื้อของหลัวซิวยิ่งอยู่ยิ่งแข็งแกร่ง ผลการฝึกตนและตัวสำนึกของเขาก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เนื่องจากทัณฑ์สายฟ้าพิโรธในแดนใหญ่ ถือเป็นบททดสอบหนึ่งสำหรับนักยุทธ์ ในขณะเดียวกันมันก็เป็นโอกาสและโชคในการแปรเปลี่ยนครั้งหนึ่งเช่นกัน!
ตู้ม!
ประตูแห่งกฎเกณฑ์ของแดนใหญ่ถูกเขาพังทลาย ราวกับบนร่างกายเขามีประตูบานหนึ่งถูกเปิดออกโดยปริยาย วินาทีนี้หลัวซิวรู้สึกเหมือนรู้แจ้งในวิถียุทธ์ รู้สึกสบายอกสบายใจไปทั่วทั้งร่างกาย