มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2065
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2065
“ข้าคิดว่าหลัวซิวไม่ได้จองหองและไม่ใช่ไม่เจียมเนื้อเจียมตัว แต่เขามีความมั่นใจในตนเอง เขามีไพ่ตาย และเขามีความแข็งแกร่ง!”
“กองกำลังใหญ่ในโลกาชั้นฟ้านั้นห่างไกลจากการเทียบเคียงกับโลกามนุษย์ของเรา ไม่ว่าความแข็งแกร่งของสำนักไท่ฉือของเราจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ยังถูกจำกัดด้วยการอยู่ในโลกามนุษย์ บรรพอาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเราเป็นเพียงจ้าวมหาเทพครึ่งก้าวเท่านั้น แต่ใครจะรับประกันได้ว่าในมือของหลัวซิวไม่มีไพ่ตายที่สามารถคุกคามจ้าวมหาเทพครึ่งก้าวได้?”
“เมื่อสำนักไท่ฉือของเราประสบความสูญเสียครั้งใหญ่และเป็นศัตรูกับคนๆนี้ เมื่อถึงเวลานั้นข้าเกรงว่าคนที่จะยินดีที่สุดคือคนของสำนักกระบี่ฟ้ามกุฎเหล่นั้น”
ฉีเมี่ยวหลุนได้พบกับหลัวซิวเพียงครั้งเดียว และวิเคราะห์เรื่องนี้อย่างมีเหตุผลและมีพื้นฐานที่ดี ซึ่งทำให้ผู้อาวุโสหลายคนพยักหน้าซ้ำอย่างเห็นด้วย
“เมี่ยวหลุน แม้ว่าสิ่งที่เจ้าพูดจะสมเหตุสมผลมาก แต่ก็มีการกล่าวถึงในหมายจับที่ออกโดยสำนักจักรพรรดิแห่งโลกาชั้นฟ้าว่าหลัวซิวเป็นเพียงผู้น้อยที่มีระดับผลการฝึกตนไม่ถึงแม้แต่มกุฎเทพเท่านั้น แต่เจ้ากลับพูดว่าความแข็งแกร่งของเขาเทียบได้กับมกุฎเทพช่วงปลาย ซึ่งค่อนข้างเกินจริง”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งขมวดคิ้วและพูด คนนี้คือผู้อาวุโสเสวียนหวู่ ในบรรดาผู้เหวิน เฉิง หวู่ เต๋อ อาวุโสทั้งสี่ เขามีนิสัยในร้อนมากที่สุดและเขายังสนับสนุนการใช้กำลังเพื่อแก้ปัญหาทุกอย่าง
“ยังมีสตรีสองคนอยู่ข้างหลัวซิว ต้องรู้ว่าแม้แต่ในโลกาชั้นฟ้า อัจฉริยะที่สามารถต่อต้านกับมกุฎเทพช่วงปลายด้วยมกุฎเทพขั้นปฐมภูมินับว่าน้อยมากแน่นอน อัจฉริยะเช่นนั้นคงไม่อยู่ด้วยกันหรอกนะ?”
ผู้อาวุโสเสวียนหวู่ยืนขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “แค่ข้าไปต่อสู้ด้วยตนเอง นำอัญบัลลังก์แห่งสำนักของสำนักไท่ฉือไปด้วย ปราบปรามผู้น้อยคนหนึ่งก็ง่ายนิดเดียว”
“ท่านผู้อาวุโส หลัวซิวจะถูกปราบปรามด้วยอัญบัลลังก์แห่งสำนักหรือไม่นั้นข้าไม่รู้ แต่สิ่งที่แน่ใจก็คือหลัวซิวไม่ใช่คนโง่อย่างแน่นอน เขากล้าที่จะไม่วางสำนักไท่ฉือของเราไว้ในสายตา เขาต้องมีไพ่ที่ทำให้เขามั่นใจได้”
“แน่นอน เมี่ยวหลุนไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถแตะต้องหลัวซิวได้ แต่ถ้าเราต้องการทำ เราต้องมั่นใจอย่างยิ่ง มิฉะนั้น หากเราปล่อยให้อัจฉริยะจากโลกาชั้นฟ้าหนีไป เมื่อเขาโตขึ้น ในอนาคต เขาจะต้องกลายเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งของสำนักไท่ฉือของเราอย่างแน่นอน!” ฉีเมี่ยวหลุนกล่าว
“แล้วเวลาไหนดีที่สุดที่จะลงมืแ?” ผู้อาวุโสเสวียนหวู่ไม่มีทางที่จะหักล้างสิ่งที่ฉีเมี่ยวหลุนพูดเลยพูดอย่างไม่เต็มใจ
“ก่อนอื่น เราต้องหาว่าเขามีไพ่ตายอะไร เมื่อเรารู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงและวิธีการใช้ไพ่ตายของเขาแล้ว เราก็สามารถเตรียมการที่เพียงพอเพื่อจัดการกับเขาได้”
ฉีเมี่ยวหลุนพูดช้าๆ ใบหน้าที่สวยงามเต็มไปด้วยสติปัญญาและพูดว่า “ถ้าต้องการหยั่งเชิงไพ่ตายของเขา แน่นอนว่าต้องมีใครสักคนไปต่อสู้ ตระกูลจางชิวและสำนักเทวพยัคฆ์ที่เป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของสำนักไท่ฉือเราได้รวบรวมคนเพื่อโจมตีตระกูลเทพสงครามแล้วไม่ใช่รึ? แค่ให้พวกเขาหยั่งเชิงไพ่ตายของอีกฝ่ายก็ดีเช่นกัน”
“นอกจากนี้ หมายจับของสำนักจักรพรรดิลงมาแล้ว ข้าคิดว่าในไม่ช้าสำนักกระบี่ฟ้ามกุฎ วังกว่างหานและผู้คนจากหกตระกูลจะสามารถสืบออกมาได้ว่าหลัวซิวปรากฏตัวในเผ่าเทพสงคราม จะมีคนนับไม่ถ้วนไปช่วยเราหยั่งเชิงไพ่ตายและวิธีการของหลัวซิว เราแค่รอดูเวลาที่เหมาะสมและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ก็พอ!”
ต้องบอกว่าฉีเมี่ยวหลุนไม่ใช่แค่สตรีที่สวยงดงาม แต่ความสามารถของนางไม่เพียงแต่ยอดเยี่ยมเท่านั้น นางยังเป็นสตรีที่ฉลาดอีกด้วย!